ครบ 1 ปี 'วันเฉลิม' ถูกอุ้มหาย ครอบครัวยื่นหนังสือ ยธ.ทวงความคืบหน้า พร้อมเปิดเผยหลักฐานสำคัญ

ครบ 1 ปีการถูกอุ้มหายของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ลี้ภัยไปยังประเทศกัมพูชา หลังการรัฐประหารปี 2557 และหายตัวไปอย่างปริศนา เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564

ครอบครัวได้แสวงหาพยานหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า นายวันเฉลิม มีตัวตนอยู่จริงในกัมพูชา และมีเหตุการณ์อุ้มหายเกิดขึ้นจริง หลังถูกปฏิเสธจากรัฐบาลกัมพูชาและรัฐไทย จนทำให้ไม่สามารถดำเนินคดีติดตามการหายตัวไปของนายวันเฉลิมได้ วันนี้ครอบครัวได้ยื่นหนังสือถึงกระทรวงยุติธรรม และเผยหลักฐานสำคัญที่จะนำไปสู่การดำเนินคดีหาผู้กระทำผิดได้

นางสาวสิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวนายวันเฉลิม ย้ำถึงเหตุการณ์ในวันที่ 4 มิถุนายน 2563 คำพูดในสายโทรศัพท์ของน้องชายว่า หายใจไม่ออก หายใจไม่ออก ทำให้เธอที่อยู่ประเทศไทย รีบโทรศัพท์ไปหาเพื่อนของนายวันเฉลิม ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เร่งตรวจสอบทันทีว่า เกิดอะไรขึ้นกับวันเฉลิม จากความคิดแค่ว่า น้องชายอาจประสปอุบัติเหตุ ก็กลายเป็นความกังวลขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นภาพกล้องวงจรปิดว่าน้องชายถูกชายฉกรรจ์ถูกอุ้มขึ้นรถยนต์ ก่อนหายไปอย่างลึกลบ จนถึงวันนี้ครบ 1 ปีแล้ว

ครบรอบ 1 ปี วันเฉลิม ถูกอุ้มหาย พี่สาวยังเดินหน้าในการหาตัวผู้กระทำผิด โดยวันนี้ครอบครัววันเฉลิม ร่วมกับ แอมแนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ร่วมทำกิจกรรม 1 ปี เราไม่ลืม #หนึ่งปีต้องมีความยุติธรรมให้วันเฉลิม โดยสวมเสื้อฮาวาย พร้อมหน้ากากวันเฉลิม ยืน 12 นาที เพื่อรำลึกถึง 12 เดือน ที่วันเฉลิมหายไป โดยนางสาวสิตานัน พี่สาวได้สวมเสื้อของวันเฉลิมที่เพื่อส่งมาให้จากกัมพูชา กลายเป็นเสื้อตัวสุดท้ายที่เป็นตัวแทนน้องชาย

ก่อนที่ นางสาวสิตานัน จะยื่นหนังสือถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผ่าน ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเปิดเผยว่า กระทรวงยุติธรรมไม่ได้นิ่งเฉย ที่ผ่านมา กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้ทำหนังสือไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีบุคคลสูญหาย แต่เป็นคดีนอกราชอาณาจักร จึงต้องประสานไปที่อัยการสูงสุด ซึ่งอยู่ระหว่างรอคำสั่งมาจากอัยการสูงสุด และขณะเดียวกันดีเอสไอได้ทำหนังสือไปยังประเทศกัมพูชาสอบถามการเข้าออกประเทศของนายวันเฉลิม ยืนยันว่า ภายใน 1 เดือนนี้จะมีความคืบหน้า

พี่สาวนายวันเฉลิม ยอมรับว่า จะเชื่อใจกระทรวงยุติธรรมว่าจะติดตามคดีให้อย่างที่รับปากหรือไม่ เพราะสิ่งสำคัญคือความจริงใจจากรัฐบาลไทยและกัมพูชา โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี จะละเว้นไม่ติดตามคดีนี้ไม่ได้ เนื่องจากนายวันเฉลิม ต้องหนีออกประเทศไทย จากคำสั่ง คสช.ให้ไปรายงานตัวหลังการรัฐประหารเมื่อปี 2557

หนังสือเดินทางไทยที่หมดอายุไปเมื่อวันที่ 16 กรกฏาคม 2018 หนังสือเดินทางกัมพูชาในชื่อ sok Heng ออกเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2015 และหมดอายุในปี 2025 เป็นหนังสือเดินทางของนายวันเฉลิม ที่ทางการกัมพูชาออกให้เป็นกรณีพิเศษ และนายวันเฉลิมใช้เดินทางไปต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น และเวียดนาม ซึ่งนางสาวสิตนานัน ก็เคยพบน้องชายในต่างประเทศ รวมทั้ง นางสาวประกายดาว พฤษาเกษมสุข อดีตแฟนของนายวันเฉลิม ก็เคยไปศึกษาในกรุงพนมเปญ และยืนยันการมีตัวตนอยู่จริงของวันเฉลิม

ซึ่งในหนังสือบันทึกของความของ ปอท. เมื่อปี 2561 ก็รายงานการติดตามเจ้าของเพจ กูต้องได้ร้อยล้านจากทักษิณแน่ๆ ซึ่งระบุว่าหลบหนีอยู่ต่างประเทศ โดยมีภาพการติดตามวันเฉลิมกับ น.ส.ประกายดาว ที่กัมพูชา รวมถึงภาพ แม่โขง การ์เดน อาร์ทเมนต์และคอนโด ซึ่งเป็นที่เดียวกับวันเฉลิมถูกอุ้มหาย และประกายดาวได้เปิดเผยด้วยว่า วันที่ 25 พฤษภาคม 2557 วันที่วันเฉลิม หนีออกจากประเทศไทย เพราะมีตำรวจไปค้นบ้านของเธอ ที่ใช้เป็นสถานที่ในการทำเพจของวันเฉลิมและหลังจากนั้นก็มีคำสั่ง คสช.ให้ไปรายงานตัว เธอจึงมั่นใจว่า การถูกอุ้มหายของวันเฉลิม เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองของเขา และการถูกติดตามตัวโดยเจ้าหน้าที่ไทย

ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม นางปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ยังคาดหวงัการสืบสวนอย่างเป็นทางการจากรัฐไทย เรียกร้องไปยังคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ให้ดำเนินการอย่างจริงจังกับคดีนี้ซึ่งองค์การสหประชาชาติก็รับรองแล้วว่ามีการอุ้มหายเกิดขึ้นจริงในกัมพูชา