3 ปี 'วันเฉลิม' หายตัวไร้คืบหน้า ครอบครัวร้องรบ.ใหม่ คืนความยุติธรรม

3 ปีหลังจากนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ถูกอุ้มหายจากหน้าที่พักในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ครอบครัวยังไม่ได้รับความยุติธรรมในการติดตามการสูญหายของ วันเฉลิม ซึ่งครอบครัวคาดหวังว่ารัฐบาลใหม่ โดยพรรคเพื่อไทย จะจริงจังกับเรื่องนี้ เพราะ วันเฉลิม เคยทำงานให้พรรคเพื่อไทย ขณะที่ สส.พรรคก้าวไกล เตรียมตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในสภาผู้แทนราษฎร



นางสาวสิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ร่วมกับร้องเพลง แฮปปี้เบิร์ดเดย์วันเกิดครบ 41 ปีให้กับวันเฉลิม ซึ่งเป็นเวลา 3 ปีแล้วที่ครอบครัวทำได้เพียงการสุขสันต์วันเกิดลับหลังให้ ตาร์ แม้ก่อนจะสูญหา ตาร์ ลี้ภัยไปยังประเทศกัมพูชาตั้งแต่ปี 2557 แต่ครอบครัวก็ยังได้ติดต่อพบปะ จนกระทั่ง ตาร์ ถูกอุ้มหายออกจากหน้าที่พักในกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2563



ครอบครัววันเฉลิม ยังได้เปิดเผยภาพการทำงานของวันเฉลิม ที่เคยทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทย มีความใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเป็นคนถ่ายภาพ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ถือถุงแกง ขณะเป็นรัฐมนตรีว่าการกรทะรวงคมนาคม จนกลายเป็นไวรัลรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ซึ่งนายชัชชาติ ได้มาร่วมงานรียูเนียน วันเฉลิม และได้กล่าวถึงด้วยความคิดถึง



ผ่านมา 3 ปี พี่สาววันเฉลิม ได้รับการช่วยเหลือจากภาคประชาสังคมและองค์กรระหว่างประเทศ ในการยื่นเรื่องตามกระบวนการยุติธรรมของไทย ทั้งอัยการสูงสุด ดีเอสไอ ในปี 2563 รวมถึงศาลกัมพูชาได้เรียกพี่สาวไปให้การ แต่ยังไม่มีคำตอบใดๆที่จะนำไปสู่การพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ แม้ครอบครัวจะยื่นพยานหลักฐาน เช่น การแชทข้อความและโทรศัพท์ทางไลน์ก กับพี่สาว ขณะ วันเฉลิม ถูกนำตัวขึ้นรถ ภาพกล้องวงจรปิด เห็นรถยนต์ที่นำตัว วันเฉลิม ออกไป และการตรวจสอบป้ายทะเบียนที่พบว่าเป็นบุคคลระดับสูงในกัมพูชา แต่ตำรวจกัมพูชาอ้างว่าเป็นทะเบียนปลอม และยังพบชายคนดังกล่าว มีความใกล้ชิดกับอดีตนายกรัฐมนตรี 2 คนของไทย ที่ได้พบนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเมื่อ 5 สิงหาคมที่ผ่านมาด้วย จึงคาดหวังว่า หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะช่วยตามหาความจริงและความยุติธรรมให้กับวันเฉลิมด้วย



ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า เตรียมตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลใหม่ หากเป็นพรรคเพื่อไทย และนายเศรษฐา ทวีสิน ก็อยากให้ติดตามกรณีของวันเฉลิม และบุคคลที่สูญหายไปในช่วงการรัฐประหาร รวมถึงการบังคับใช้ พรบ.อุ้มหาย และทวงถามความคืบหน้าการให้สัตยาบันในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ หรือ CED ด้วย



นอกจากนี้ยังมีการเสวนาถึงสถานการณ์การถูกอุ้มหายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซินเธีย เวลิโก้ (Cynthia Veliko )ผู้แทนระดับภูมิภาคสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจมากที่กระบวนการสืบสวนสอบสวนกรณีนายวันเฉลิมไม่คืบหน้า เป็นห่วงการกระทำให้บุคคลสูญหายและไม่ทราบชะตากรรมจะเกิดในบริบทของผู้อพยพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งหลายประเทศเกิดกรณีการอุ้มหายข้ามประเทศคือ การที่เจ้าหน้าที่รัฐจับบุคคลที่เป็นคนชาติตนเองในประเทศอื่นหรือประเทศที่สาม โดยได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากรัฐอื่น โดยการอุ้มข้ามชาติมักจะเป็นการลอบสังหาร ควบคุมตัวแล้วไปปรากฏตัวที่อื่น หรือการข่มขู่โดยเจ้าหน้าที่รัฐ



สำหรับกรณีของนายวันเฉลิม ขอเรียกร้องต่อรัฐไทยและกัมพูชา ต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนมีประสิทธิภาพ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด นำความยุติธรรมคืนสู่ครอบครัวผู้เสียหาย รวมถึงประเทศไทยต้องเคารพกฎหมายประเทศในประเทศ กฎหมายระหว่างประเทศด้วย