"บิ๊กโจ๊ก" ลงพูดคุยกับพี่สาว "วันเฉลิม"-ผู้ร่วมกิจกรรม บอกภาพลักษณ์ประเทศจะไม่ดี ขอให้เห็นใจตำรวจด้วย

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ราว 09.30 น. ได้มีอดีตมวลชนคนเสื้อแดง 2 คน เดินทางมาที่หน้าบ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อมาร่วมจัดกิจกรรมกับ น.ส.สิตานัน นักสิทธิมนุษยชน และพี่สาวของ นาย วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมทางการเมืองที่ลี้ภัยไปยังประเทศกัมพูชา และถูกอุ้มหายสาบสูญในกรุงพนมเปญ ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2563 เพื่อเรียกร้องทวงคืนความเป็นธรรมให้แก่น้องชายและกลุ่มมวลชนที่นักกิจกรรมทางการเมือง

หลังทราบข่าวว่า สมเด็จฮุน เซน จะเดินทางมาเยี่ยมทักษิณ เป็นการส่วนตัว ซึ่งอดีตมวลชนเสื้อแดงทั้งสองคน ได้นำรูปภาพที่ได้ถ่ายคู่กับนาย ทักษิณ มาชูเป็นสัญลักษณ์พร้อมทั้งสวมเสื้อขาวที่ปรากฏข้อความรณรงค์ให้ "นิรโทษกรรมประชาชน" แต่ถูกตำรวจสกัดไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ และได้เชิญให้ออกไป ป้าแหม่ม หรือ น.ส.บังอร อายุ 63 ปี ได้คล้องล็อกเก็ตที่มีรูปของนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาด้วยพร้อมโชว์แก่สื่อมวลชน

ระบุว่า เธอเคยเป็นแนวร่วมคนเสื้อแดงกรุงเทพมหานคร ซึ่งที่ผ่านมาเธอและคนเสื้อแดงหลายคน ต่างเสียสละร่วมกันต่อสู้เพื่อนาย ทักษิณ มามากกว่า 10 ปี จนกระทั่งหลังจากที่พรรคเพื่อไทยข้ามขั้วไปจัดตั้งรัฐบาล เพียงเพื่อให้นายทักษิณกลับมายังประเทศไทย จึงทำให้รู้สึกหมดศรัทธาและรับรู้ว่า ถูกหลอกใช้ และกลายเป็นว่านาย ทักษิณ ไม่ได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับคนเสื้อแดง แต่เป็นการต่อสู้เพื่อครอบครัวของตนเอง ที่มาวันนี้เพื่อให้กำลังใจให้กับพี่สาวของนายวันเฉลิมและแสดงออกถึงความไม่พอใจที่นายทักษิณไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และยังสร้างภาพว่าป่วย เพราะวันที่นายทักษิณกลับมายังประเทศไทย ก็เห็นว่ายังเดินได้ตามปกติมีสุขภาพแข็งแรง แต่พอเข้าเรือนจำแล้วกลับเกิดอาการป่วยขึ้นมา เพียงเพื่อเลี่ยงที่จะได้รับโทษตามกฎหมาย ยิ่งทำให้หมดศรัทธา

จากนัั้นเวลา 10.17 น. กลุ่มคนเสื้อแดงบางพลัด 15 คน เดินทางมาให้กำลังใจนาย ทักษิณ ที่หน้าบ้านพัก พร้อมบอกว่า แม้ว่าวันนี้นาย ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย จะมาข้ามขั้วจับมือกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม จัดตั้งรัฐบาล ก็มองว่าไม่เป็นไรและเข้าใจได้ เพราะนาย ทักษิณ เองก็อายุมากแล้วและต้องการที่จะหยุดเล่นทางการเมือง เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองอีก และเข้าใจว่านายทักษิณก็อยากอยู่กับลูกหลาน คนในครอบครัวก็อยากให้นายทักษิณพอ

ส่วนประเด็นที่มีคนเสื้อแดงบางกลุ่มหมดศรัทธากับตัวนายทักษิณนั้น ลุงโก้มองว่าเป็นเพียงแค่คนบางคนเท่านั้น อยากให้ย้อนนึกถึงไปช่วงที่นายทักษิณยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตอนนั้นทุกคนอยู่ดีกินดีเศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง แต่พอหลังเกิดการรัฐประหาร ก็เห็นได้ชัดว่าทุกคนใช้ชีวิตเสมือนเป็นขอทาน ไม่มีความเจริญเกิดขึ้นในประเทศ จึงอยากให้ทุกคนมองย้อนกลับไปว่า เพราะนายกทักษิณที่ทำให้ทุกคนลืมตาอ้าปากได้

ถัดมาอีก 20 นาที เมื่อเวลา 10.38 น. รถตู้เบนซ์ สีบรอนซ์เงินของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางมาถึงบ้านจันทร์ส่องหล้า ฝั่งซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 คาดว่าเป็นการเดินทางมาเพื่อเตรียมต้อนรับสมเด็จฮุนเซน และ 10.51 น. ขบวนรถของสมเด็จฮุนเซนก็เดินทางมาถึง โดยมีรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์นำขบวนมา ตามมาด้วยรถเบนซ์ 1 คัน ซึ่งมีรายงานว่า สมเด็จ ฮุนเซน นั่งมาในรถคันนี้ ตามด้สน รถตู้เบนซ์สีดำของตระกูลชินวัตร และรถตู้ฮุนไดอีก 1 คัน ก่อนจะเข้าไปภายในบ้าน โดยไม่ได้ให้ข้อมูลใดๆ กับสื่อมวลชน

จากนั้นในเวลา บ่ายโมงตรง สมเด็จฮุนเซนเดินทางออกจากบ้านจันทร์ส่องหล้า หลังใช้เวลาเข้าเยี่ยมนาย ทักษิณ เป็นการส่วนตัวประมาณ 2 ชั่วโมง โดยเดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อขึ้นเครื่องบินส่วนตัวกลับประเทศกัมพูชา โดยฮุนเซนได้นั่งรถคันเดิมคือ รถยนต์ Mercedes Benz รุ่นมายบัค (Maybach) สีเงินหรูพิเศษ ป้ายแดง มีรถ Toyota Fortuner สีดำ ซึ่งเป็นรถติดตามของตระกูลชินวัตรขับนำหน้า และรถตู้เบนซ์สีดำ ซึ่งเป็นรถที่นายทักษิณนั่งกลับจากโรงพยาบาลตำรวจ ขับปิดท้าย

ในเวลาไล่เลี่ยกันปรากฏว่ารถยนต์ประจำตัวของพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขับเข้ามาภายในซอยละแวกบ้านจันทร์ส่องหล้า แต่เจ้าตัวไม่ได้ลงจากรถ

แล้วในเวลาบ่าย 2 โมง อุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร เดินทางออกจากบ้านจันทร์ส่องหล้า ด้วยรถตู้เบนซ์ สีบรอนซ์เทา ทางประตูฝั่งซอยจรัญสนิทวงศ์ 69

ต่อมาทางบิ๊กโจ๊กได้ลงมาพูดคุยกับพี่สาวของนายวันเฉลิม โดยบอกว่าขอให้เห็นใจพี่น้องตำรวจ เห็นใจทุกคน วันนี้มีบุคคลสำคัญมา ด้านกลุ่มผู้ร่วมกิจกรรมบอก ไปไหนก็ได้ แต่ห้ามไปจันทร์ส่องหล้า? ด้านบิ๊กโจ๊กบอกวันนี้มีบุคคลสำคัญของประเทศมา ถ้ามีอย่างนี้ภาพลักษณืประเทศมันจะไม่ดี ด้าน พี่สาวของวันเฉลิมบอกภาพลักษณ์ประเทศมันไม่ดีนานแล้ว ยิ่งทำอย่างนี้ ยิ่งไม่ดีกับประเทศไทยมากกว่า