เยาวชนกัมพูชา ร่วมรำลึก 3 ปี จัดกิจกรรมทวงคืนความยุติธรรมให้ 'วันเฉลิม' ถูกอุ้มหาย

นักกิจกรรมชาวกัมพูชา ร่วมรำลึกถึงนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หน้าสถานที่พักในกรุงพนมเปญ และหน้าสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในวันครบรอบ 3 ปีที่นายวันเฉลิม นักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยชาวไทย ที่สูญหายไปเมื่อปี 2563 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่นักกิจกรรมกัมพูชา มีการจัดกิจกรรมเรียกร้องความยุติธรรมให้นายวันเฉลิม ในขณะที่ครอบครัว คาดหวังที่จะเห็นความคืบหน้าจากรัฐบาลชุดใหม่ และกฏหมายอุ้มหายที่มีผลบังคับใช้ โดยล่าสุดมีการยื่นหนังสือต่อศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย สำนักงานอัยการสูงสุด

เยาชนนักกิจกรรมชาวกัมพูชา รวมตัวกันที่หน้าคอนโด แม่โขง การ์เดน คอนโดมีเนียม กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในเช้าวันนี้เพื่อทำกิจกรรมทำบุญพระสงฆ์ รำลึกถึงนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมประชาธิปไตยชาวไทย ที่อุ้มหายขึ้นรถยนต์ออกจากบริเวณนี้ เมื่อเย็นของวันที่ 4 มิถุนายน 2563 โดยยังไม่รู้ชะตากรรม และยังไม่ได้รับความยุติธรรม แม้ทางครอบครัวได้ยื่นเรื่องต่อศาลกัมพูชา เมื่อเดือนมิถุนายน 2564 และยื่นเรื่องต่อดีเอสไอในประเทศไทย แต่ยังไม่มีความคืบหน้า นักกิจกรรมกัมพูชา จึงร่วมกันเรียกร้องให้มีการสืบสวนสอบสวน คืนความยุติธรรมให้กับนายวันเฉลิม และครอบครัว

โดยรัฐบาลกัมพูชาต้องแสดงความรับผิดชอบและจะต้องเคารพหลักสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 31 ของอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลจากการถูกบังคับให้สูญหาย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เยาชนชาวกัมพูชา ได้จัดกิจกรรมในวันครบรอบ 3 ปี วันเฉลิมถูกอุ้มหาย

นอกจากนี้เยาวชนชาวกัมพูชา ยังได้ร่วมรณรงค์คืนความยุติธรรมให้นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ.กรุงพนมเปญ มีการถือป้ายป้าย ข้อความตามหานายวันเฉลิม หน้ากากภาพหน้านายวันเฉลิม ท่ามกลางการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเยาวชนกัมพูชา ยืนยันว่า เป็นการแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรม มาตรา 38 ของกัมพูชา ที่ต้องเรคาระสิทธิมนุษยชนของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นชาติใดที่อาศัยในกัมพูชา จะต้องได้รับความคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และแสดงออกให้ประเทศไทยได้เห็นด้วยว่า ชาวกัมพูชา ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนของทุกคน


นางสาวสิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของวันเฉลิม ขอบคุณเยาวชนชาวกัมพูชา ที่ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้วันเฉลิม แม้จะเป็นห่วงความปลอดภัย แต่เป็นสิ่งที่ยืนยันว่านายวันเฉลิม มีตัวตนอยู่จริงก่อนจะถูกอุ้มหาย ซึ่งพยานหลักฐานที่ครอบครัวมีอยู่ได้ยื่นต่อศาลกัมพูชาไปแล้วกว่า 2 ปี ก็ยังรอคอยความยุติธรรม รวมถึงในไทย ซึ่งล่าสุดได้ยื่นเรื่องต่อศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและกระทำให้บุคคลสูญหาย สำนักงานอัยการสูงสุด ให้ความคุ้มครองและเยียวยาผู้เสียหาย ตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการทหารมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ซึ่งจะเป็นช่วงทางตามหาความยุติธรรมให้กับวันเฉลิม เช่นเดียวกับความหวังที่มีต่อรัฐบาลชุดใหม่ ภายใต้การนำของพรรคก้าวไกล


นอกจากนี้ครอบครัวของวันเฉลิม ยังมีความหวังกับกลไกลของคณะกรรมการตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ องค์การสหประชาชาติ ที่ประเทศกัมพูชา อยู่ในภาคีอนุสัญญานี้ และทางครอบครัวได้ยื่นหนังสือไปเมื่อปี 2565 ว่านายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธื์ สูญหายไปจากประเทศกัมพูชาจริง ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 11-29 กันยายนนี้