ข่าว 3 มิติ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านใน อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช กำลังเดือดร้อนหนักจากปัญหาน้ำกัดเซาะกระทบที่ทำกิน จากคลองแคบๆ กลายเป็นแม่น้ำกว้างเท่าสนามฟุตบอล

ทีมข่าวเคยลงพื้นที่สำรวจบริเวณนี้เมื่อปีที่แล้ว กรมเจ้าท่า ยอมรับว่าไม่ง่าย ถ้าจะแก้ก็จำเป็นต้องใช้งบประมาณมหาศาล จากวันนั้น ถึงวันนี้ ผ่านมาเกือบหนึ่งปี ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ที่ชาวบ้านกังวลก็คือ ถ้าวันใดฝนตกหนัก บ้านที่อาศัยอยู่อาจจะถูกพัดหายไปกับน้ำ

โดยสภาพคลองกลายใน อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช คลองที่ปัจจุบันกว้างเป็นแม่น้ำ กัดเซาะกลืนแผ่นดินกลายเป็นเหวลึก คาดว่าหลังจากนี้ สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะวิกฤต โดยเฉพาะในช่วงฤดูน้ำหลากที่กำลังจะมาถึง

นางฐิตินันท์ ศรีสมทรง หนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบชัดเจนที่สุด เธอบอกว่า นับตั้งแต่น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 น้ำป่าจากเทือกเขาไหลบ่าจนร่องน้ำเปลี่ยน จากคลองแคบๆ ก็ค่อยๆ ขยายใหญ่กว้างเป็นแม่น้ำเท่าสนามฟุตบอล สวนยางฯ ที่ทำกิน ถูกกลืนหาย ช่วงหลังกระทบหนัก เพราะหุบเหวหลังบ้านตอนนี้เซาะเกือบถึงตัวอาคารแล้ว

ข่าว 3 มิติ พบว่า จุดที่ได้รับผลกระทบ มีทั้งบ้าน ห้องแถว ร้านค้า รวมไปถึงปั๊มน้ำมันสหกรณ์ มูลค่าหลาย 10 ล้าน

นอกจากที่ดินติดถนนใหญ่ บ้านริมคลองอีกหลายหลังก็เจอปัญหาไม่ต่างกัน ที่นี่เราได้พบกับคุณตาวัย 73 กับคุณยายวัย 69 ทั้ง 2 คนผูกพันกับบ้านหลังนี้ แต่สถานการณ์ที่หนักขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้กังวลว่าถ้าวันไหนฝนตกหนัก บ้านที่ขณะนี้ถูกเซาะลึกถึงฐานล่าง อาจถล่ม ถูกพัดหายไปกับน้ำ

นักวิชาการด้านภัยพิบัติ เคยตั้งข้อสังเกตถึงเรื่องนี้ หนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของร่องน้ำ อาจมาจากสัมปทานดูดทรายในลำน้ำ ประกอบกับคลองกลายค่อนข้างชัน และไม่ไกลจากทะเล น้ำที่หลากลงมาจึงหนักหน่วงรุนแรง

หน่วยงานท้องถิ่น กรมเจ้าท่ารับรู้ถึงผลกระทบ แต่ดูเหมือนว่าปัญหานี้จะยังไม่ได้รับการแก้ไขที่เห็นเป็นรูปธรรม ที่พอจะทำได้กันตอนนี้ ก็คือใครที่พอมีแรงมีกำลัง ก็จะไปช่วยกันขุดยกคันทราย เพื่อเบี่ยงทิศทางของน้ำไม่ให้ไหลไปกระทบแนวผา