สังคม

ทลายรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลางเมืองคอน รวบผู้ต้องหาจีน-ไทยเกือบ 100 ราย ตุ๋นเหยื่อลงทุนข้ามชาติ

โดย petchpawee_k

30 มี.ค. 2567

442 views

ตำรวจ-กสทช.-ดีเอสไอ เปิดปฏิบัติการทลายรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติค้น 8 เป้าหมาย นครศรีธรรมราช จับกุมผู้ร่วมขบวนการ 90 ราย ยึดของกลางซิมผี-โทรศัพท์มือถือนับพันเครื่อง-คอมฯ 223 เครื่อง ตำรวจเผยกลลวงใช้ช่องทางโซเชียลส่งลิ้งก์ให้เหยื่อกรอกข้อมูลส่วนตัว  คนร้ายใช้ข้อมูลส่วนตัวเหยื่อเข้าถึงบัญชีธนาคารผ่านโมบายแบงก์กิ้งดูดเงินออกจากบัญชี

วานนี้ (29 มี.ค.) เวลา 14.00 น. ที่ สภ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดูแลงานด้านอาชญากรรมเทคโนโลยี ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ กสทช.,เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงผลการปฏิบัติการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขบวนการหลอกลวงประชาชนทางออนไลน์เครือข่ายใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์  ตรวจยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก

สืบเนื่องจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่าเมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2566 มีกลุ่มเครือข่ายชาวไทยและชาวจีน มาใช้สถานที่ในประเทศไทย ตั้งสำนักงานหลอกลวงผู้เสียหายทางโทรศัพท์หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (Call Center Gang) กระทั่งสืบสวนเชิงลึกจนทราบว่าเป็นโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีการสร้างเรื่องต่าง ๆ อาทิ ชักชวนให้ร่วมลงทุนในสกุลเงินดิจิตอล (Cryptocurrency) ชักชวนให้เล่นการพนันออนไลน์ หลอกลวงให้ซื้อสินค้า เพื่อให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินให้กับกลุ่มของตน

จากนั้นกลุ่มคนร้ายจะสร้างเพจหรือยิงแอดโฆษณา เพื่อสร้างเรื่องหลอกลวงผู้เสียหายขึ้นมาอีกชั้นหนึ่งว่าจะมีการว่าจ้างทนายความเพื่อไปดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่มาหลอกลวงผู้เสียหายคนดังกล่าว แล้วให้ผู้เสียหายโอนเงินมายังบัญชีธนาคารที่เครือข่ายของตนเปิดไว้ในประเทศไทย ทำให้ประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศรัสเซีย หลงเชื่อและได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบข้อมูลและหลักฐานเชิงลึก พบว่าสถานที่ที่กลุ่มคนร้ายใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีลักษณะเป็นโรงแรมตึกแถว จำนวน 5 คูหา 4 ชั้น มีห้องพัก จำนวน 22 ห้อง โดยจะมีกลุ่มคนร้ายที่เป็นคนไทยทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย (Guard) ป้องกันบุคคลเข้าออกภายในอาคาร มีชาวจีนและชาวไทยหลายสิบคนนั่งทำงาน จากข้อมูลแจ้งว่าบางรายถูกหลอกลวงและบังคับขู่เข็ญจากสาธารณรัฐประชาชนจีนให้มาทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทย

ทำให้เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ปิดล้อมตรวจค้น 8 เป้าหมาย จับกุมผู้ร่วมขบวนการได้ 90 ราย สัญชาติไทย 35 ราย สัญชาติอื่น 55 ราย แจ้งข้อหาความผิดฐาน อั้งยี่, พ.ร.บ.คนเข้าเมือง, พ.ร.บ.ศุลกากร และอยู่ระหว่างการขยายผล พร้อมของกลาง คอมพิวเตอร์ จำนวน 223 เครื่อง โทรศัพท์ จำนวน 1,001 เครื่อง ไอแพด จำนวน 14 เครื่อง ซิมการ์ด จำนวน 298 ซิม สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 86 เล่ม และสินค้าหลีกเลี่ยงศุลกากรอีกจำนวนมาก​  

โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้ มีพฤติการณ์การกระทำความผิดในลักษณะเป็นแก๊งหลอกผู้เสียหาย โดยใช้จุดที่ตรวจค้นดังกล่าวเป็นสำนักงานในการหลอกลวงผู้เสียหายที่อยู่ในต่างประเทศ มีการแชทสนทนาเป็นภาษาจีน รัสเซียและไทย ด้วยอุปกรณ์แปลภาษา (google Translator) โดยในแต่ละจุดเกิดเหตุ ได้มีการตรวจพบหนังสือเดินทางจากประเทศจีน ที่ใช้เดินทางเข้า-ออกประเทศกัมพูชาบ่อยครั้ง  บางส่วนมีการอยู่เกินระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตเข้าประเทศ และพบโทรศัพท์มือถือจำนวนมากที่ใช้ในการส่งลิงก์เพื่อให้เหยื่อมีการคลิกลิงก์ซึ่งพฤติการณ์มีลักษณะคล้ายกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ผ่านมา

ด้าน พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการ กสทช. ด้านกฎหมาย ในฐานะประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ ระบุว่า จากการตรวจสอบการสื่อสารข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลที่บันทึกไว้ในระบบคอมพิวเตอร์และซักถามกลุ่มผู้ต้องหาพบว่าแก๊งหลอกลวงทางออนไลน์แก๊งนี้มีพฤติการณ์ดังนี้

-หาเหยื่อผ่านทางช่องทางโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะแอปพลิเคชันเทเลแกรม

-ชักชวนเหยื่อให้ช่วยแนะนำรีวิวโรงแรม รีสอร์ท ที่พักต่าง ๆ โดยล่อลวงว่าจะได้รับรางวัลตอบแทนเป็นที่พัก หรือตั๋วเครื่องบินฟรี

-หลอกให้เหยื่อกรอกข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ

-เมื่อเหยื่อหลงกลจะส่งข้อความแนบลิงก์เพื่อยืนยันการรับรางวัล ทั้งที่ความจริงเป็นลิงก์อันตราย ติดตั้งแอปฯ ควบคุมโทรศัพท์มือถือจากระยะไกล(รีโมท)

-จากนั้นคนร้ายจะใช้ข้อมูลส่วนตัวที่เหยื่อให้ไว้เข้าถึงบัญชีธนาคารผ่านโมบายแบงก์กิ้งดูดเงินออกจากบัญชีของเหยื่อ


https://youtu.be/X0jQV21grW8

คุณอาจสนใจ

Related News