เลือกตั้งและการเมือง

'สกลธี' ซัดกลุ่ม 'ตะวัน-แบม' ไม่ถูกกาลเทศะ ยัน พปชร.ก้าวข้ามความขัดแย้ง 'ฟิล์ม รัฐภูมิ' บอกลุงป้อมรักเด็กๆ มีอะไรมาคุยกันได้

โดย passamon_a

2 เม.ย. 2566

154 views

เวทีปราศรัย พปชร.ป่วน หลัง 'ตะวัน-แบม' บุกแสดงจุดยืนปม ม.112 เกิดเหตุปะทะเดือด 'สกลธี' ซัดไม่ถูกกาลเทศะ ยัน พปชร.ก้าวข้ามความขัดแย้ง 'ชัยวุฒิ' ลั่นกลุ่มป่วนไม่เข้าใจ ม.112 เพราะมีคนยุยงปลุกปั่น 'ฟิล์ม รัฐภูมิ' บอกลุงป้อมรักเด็ก ๆ มีอะไรมาคุยกันได้ 'ธนาธร' ประณามรุมกระทืบคนเห็นต่าง แต่ชุบตัวอ้างก้าวข้ามความขัดแย้ง


เมื่อวันที่ 1 เม.ย.66 เวลาประมาณ 18.10 น. ระหว่างพรรคพลังประชารัฐ จัดเวทีปราศรัยย่อยธนบุรีเหนือ สวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 8 โดยระหว่างที่ นายศันสนะ สุริยะโยธิน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตธนบุรี พรรคพลังประชารัฐ กำลังปราศรัยอยู่นั้น ปรากฏเกิดเหตุการณ์ชุลมุน หลัง ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ แบม-อรวรรณ ภู่พงษ์ นักกิจกรรมอิสระ พร้อมเยาวชน มาเคลื่อนไหวแสดงสัญลักษณ์ในประเด็นเกี่ยวข้องกับมาตรา 112


และขอพบ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อทวงถามกรณีที่ระบุว่า ม.112 ไม่มีปัญหากับทุกคน โดยพยายามฝ่าแผงเหล็กกั้น ซึ่งมีการ์ดดูแลความปลอดภัย เข้าไปในพื้นที่เวทีปราศรัย จนเกิดการปะทะกัน มีการชกต่อยระหว่างการ์ดและกลุ่มเยาวชน ทำให้เกิดความวุ่นวาย ส่งผลให้เวทีปราศรัยต้องหยุดชั่วคราว


ก่อนที่พิธีกรได้ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ และระบุว่าหากจะเรียกร้องขอให้พูดกันดี ๆ อย่าใช้ความรุนแรง ซึ่งเหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้นประมาณ 10-20 นาที และที่สุด การ์ดสามารถผลักดันกลุ่มเยาวชนออกจากพื้นที่ได้


โดย ตะวัน กล่าวว่า ที่มาวันนี้ ต้องการมาพบนายชัยวุฒิ หลังออกมาระบุว่า ม.112 ไม่มีใครเดือดร้อน เพื่อบอกว่ามีเยาวชนอายุ 15 ปี ที่ถูกดำเนินคดี และเยาวชนอีกหลายคน จึงมาเรียกร้องต่อพรรคพลังประชารัฐ


ด้าน นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเกิดเหตุวุ่นวาย ว่า เราตั้งใจจะมาปราศรัย มาพูดคุยกับประชาชน ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศให้ก้าวข้ามความขัดแย้ง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก แต่วันนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ถูกกาละเทศะไปหน่อย


"วันนี้เข้าสู่กระบวนการหาเสียงตามระบอบประชาธิปไตย การพูดคุยของกลุ่มคนที่เห็นต่างสามารถทำได้ แต่ด้วยวิธีที่สันติกว่านี้ เพราะระหว่างที่เกิดเหตุขึ้น ยังมีกิจกรรมบนเวทีต่อเนื่อง ลักษณะการมาของน้อง ๆ คือการก่อกวน ซึ่งผมก็ได้รับรายงานว่า มีการ์ดได้รับบาดเจ็บ ตรงนี้หากจะมีการดำเนินคดีก็ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่สำหรับพรรคพลังประชารัฐนั้น คงต้องมีการพูดคุยกับผู้ใหญ่ของพรรคก่อน ซึ่งส่วนกลุ่มเยาวชนที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันก็มีสิทธิในการดำเนินคดีเช่นกัน"


นายสกลธี กล่าวต่อว่า เวทีปราศรัยย่อยของภาค กทม.จัดขึ้นมาหลายครั้ง เราก็คงต้องเอาเหตุการณ์นี้เป็นบทเรียน และพิจารณาการจัดงานในส่วนของการดูแลรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น ตนมองว่า เวลาในการหาเสียงเลือกตั้งอยากให้มาแข่งกันที่นโยบายของแต่ละพรรคจะดีกว่า พรรคเรายินดีรับฟัง อย่างเช่น ตอนที่ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ แกนนำกลุ่มคณะราษฎร 2563 เข้าพบกับพล.อ.ประวิตร ก็สามารถพูดคุยกันด้วยดี ไม่ใช่ลักษณะก่อกวนเช่นนี้ ถ้าต้องการคุยกันจริง ๆ ใช้เวทีอื่นกันดีกว่า วันนี้ไม่ใช่เวลาที่ถูกต้อง นัดกันได้ ที่ไหนก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่วิธีนี้ นี่คือเวลาปราศรัย ไม่ใช่มาช่วงชิงเวลานี้ คงไม่เหมาะ


เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มมวลชนเรียกร้องเรื่องสิทธิประกันตัว และมาตรา 112 นายสกลธี กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐเราเปิดกว้างที่จะรับฟังความคิดเห็นจากคนทุกกลุ่ม น้อง ๆ ที่มาในวันนี้ก็ถือว่า เป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสามารถแสดงความคิดเห็นได้ตามสิทธิเสรีภาพ แต่ควรมีกาลเทศะในการนัดหมายพูดคุยกันต้องเหมาะสมมากกว่านี้ ไม่ใช่มาเรียกร้องเรื่องของตัวเอง ในช่วงที่คนอื่นเขาทำกิจกรรมอยู่


ขณะที่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า ก้าวข้ามความขัดแย้งไม่ใช่ปรองดอง แต่เรื่องที่ขัดแย้งกันต้องก้าวข้ามให้ได้ เรื่องที่คนมาปลุกปั่นป่วนเวทีวันนี้เราต้องก้าวข้ามไปให้ได้ เราจะต้องไม่ขัดแย้งกับใครแต่เราจะทำเพื่อประชาชน เราไม่ขัดแย้งกันเพื่อให้บ้านเมืองสงบสุข ทำงานเพื่อบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ยืนยันกับพี่น้องประชาชนวันนี้คนที่ทำหน้าที่ก้าวข้ามความขัดแย้งได้คือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เท่านั้น


พร้อมกล่าวถึงเหตุการณ์ที่มีกลุ่มนักเคลื่อนไหวมา สะท้อนผลกระทบกับเยาวชนที่โดนคดี 112 ว่า ใครมาป่วนอย่าโกรธ เพราะเขามีความเข้าใจผิด ๆ บอกว่า 112 เป็นคดีการเมือง ความจริงแล้ว 112 เป็นคดีอาญา ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้มีใครเดือดร้อนกับ 112 หรือไม่ ก็ไม่มี สมัยก่อนก็ไม่มี มีแค่ตอนนี้เพราะมีคนไปยุยงปลุกปั่น เอาไปเกี่ยวกับการเมืองก็เลยวุ่นวาย ซึ่งตนบอกไปแล้วว่าแก้ไม่ได้เพราะศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยไว้แล้วว่าการแก้ไข หรือยกเลิก 112 ทำไม่ได้แน่นอน เพราะเป็นการล้มล้างสถาบันฯ ขอให้เข้าใจไว้ด้วย


พรรคการเมืองบางพรรคด่าทั้งวัน พูดให้คนไทยเกลียดชังประเทศของตัวเองทั้ง ๆ ที่วันนี้ ประเทศไทยเป็นเมืองที่มีความสุขอันดับ 6 ของโลก มีแต่ชาวต่างชาติชื่นชมมาอยู่เมืองไทย แต่มีคนไปสร้างว่าไทยมีปัญหาอยากให้ไปอยู่เมืองนอก วันนี้ฝรั่งเศสประท้วงกันเป็นแสนเป็นล้านคนแทบจะอยู่ไม่ได้แล้ว คนเก็บขยะยังไม่มีเลย ประเทศเยอรมัน ประเทศที่เจริญที่สุดในยุโรปตอนนี้ก็ประท้วงกัน การขนส่งมวลชนหยุดหมดเดือดร้อนกันทั้งประเทศ ประเทศไทยเราสงบสุขดีที่สุดแล้ว อย่าทะเลาะกันเลย มาช่วยกันดูแลประเทศไทยให้สงบสุข


"พรรคบางพรรคบอกว่าเลือกตั้งอย่าเปลี่ยนรัฐบาลแต่เปลี่ยนประเทศเลย วันนี้ลูกหลานถูกปลุกปั่น พรรคบางพรรคเปิดนโยบายมาก็ตกใจให้เลือกตั้งผู้ว่าฯทุกจังหวัดทั่วประเทศ พูดแบบนี้ก็โง่แล้ว เพราะผู้ว่าฯกรุงเทพฯกับผู้ว่าฯต่างจังหวัดไม่เหมือนกันคนละหน้าที่ ผู้ว่าฯของทุกจังหวัดคือตัวแทนของรัฐบาลส่วนกลางดูแลพี่น้องในส่วนภูมิภาค เพื่อให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียวทุกคนต้องเป็นปึกแผ่นอยู่ในราชอาณาจักรเดียวกันแบ่งแยกไม่ได้ นี่คือระบอบของประเทศไทย แต่นี่คิดจะไปแบ่งให้เลือกตั้งผู้ว่าฯทุกจังหวัด แล้วรัฐบาลจะปกครองได้อย่างไร เราเปลี่ยนประเทศให้เป็นอย่างนั้นไม่ได้ เราไม่ยอม"


ส่วน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ทวีตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ แสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า "ก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่ได้ทำด้วยการกระทืบคนเห็นต่าง แต่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหา หาทางออกร่วมกัน ไม่ว่าจะชุบย้อมสวมเสื้อปรองดองยังไงแต่พรรคทหารก็เผยธาตุแท้ออกมา คนเคยใช้แต่กำลัง ไม่อดทนกับการท้าทายจากประชาชน ผมประณามความรุนแรงนี้ ถ้าไม่เอาพรรคทหารออกไป เราก็เดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยไม่ได้"


ด้าน นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า สิ่งแรกที่เห็น คือเป็นห่วงน้อง ๆ มีความเห็นอกเห็นใจกัน แต่อยากบอกกับทุก ๆ ฝ่ายว่า เรารักกันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด อย่าไปทำร้ายกัน คนเราเห็นต่างกันได้ ตามระบอบประชาธิปไตย


ทั้งนี้อยากให้กลุ่มน้อง ๆ อยู่ในพื้นฐานของประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน พร้อมฝากบอกว่าจริง ๆ แล้วมีอะไรมาคุยกันได้ เพราะพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรค ก็รักประชาชนทุกคน รักเด็ก ๆ ทุกคน หรือว่ามาคุยกับพี่ฟิล์มก็ได้ อย่างตอนที่น้องมายด์มาคุยก็เห็นแต่มีความรักที่ให้แก่กัน แลกเปลี่ยนกันได้อย่าไปถึงขั้นว่าต้องมาทะเลาะกันเลย


เมื่อวานนี้ก็เป็นห่วงมาก ๆ แต่จากที่ดูคลิปภาพแล้วก็ไม่มีอะไรที่รุนแรง วันที่ภาพออกมาดูเหมือนรุมสกรัม นายรัฐภูมิระบุ ภาพอาจจะมองให้ทุกคนเข้าใจได้แบบนั้น ซึ่งภาพนิ่งดูเหมือนจะรุนแรงมาก ๆ แต่พอมาดูภาพเคลื่อนไหว ไม่ได้มีอะไรที่ร้ายแรงมากนัก ตนเชื่อว่าน้อง ๆ ก็มาในมุมของน้อง ๆ พี่อึดอัดและสงสารเพื่อน ๆ แต่ในส่วนของการ์ดและเจ้าหน้าที่ เขาก็ต้องทำงานบนพื้นฐานของความถูกต้อง เนื่องจากเป็นคนกลางและถูกมาทำหน้าที่ ก็ต้องเห็นใจซึ่งกันและกัน อย่าไปโกรธใครเลย


"เราเปิดนะ อยากให้ทุกคนเคารพสิทธิของกันและกัน เราเป็นประชาธิปไตยครับ เห็นต่างได้ จะมายืนฟังด้วยกัน หรือไม่เห็นด้วยเป็นเรื่องของบุคคล ทุกคนแสดงความคิดเห็นได้ แต่ไม่อยากให้ลงไม้ลงมือกัน และทำร้ายข้าวของ ป้ายหาเสียง ไม่มีใครอยากเห็นภาพแบบนี้เกิดขึ้น"



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/cPLQFGaMPW8

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ตะวันแบม ,ป่วนเวทีพปชร.

คุณอาจสนใจ

Related News