'ตะวัน-แบม' ยอมให้แพทย์เข้าพบ ทนายเผยอาการป่วย ตร.ยันไม่สลายการชุมนุม

แพทย์ รพ.ตำรวจ และกรรมการสิทธิมนุษยชน ขอเข้าตรวจร่างกาย ตะวัน-แบม ที่หน้าศาลฎีกา แต่ทั้งคู่ปฏิเสธ ก่อนให้แพทย์พบได้


เมื่อวันที่ 28 ก.พ.66 วันที่ 4 ที่นางสาวทานตะวัน หรือ ตะวัน และนางสาวอรวรรณ หรือ แบม สองนักกิจกรรมทางการเมือง ปักหลักอดอาหารอยู่ในเต็นท์หน้าศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน และนับเป็นวันที่ 41 ของการอดอาหารประท้วงให้ปล่อยตัวนักกิจกรรมการเมือง ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมีประชาชนที่สนับสนุนเดินทางมาร่วมให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง บางคนปักหลักค้างคืนและร่วมทำกิจกรรมด้วย


เฟซบุ๊กของตะวัน โพสต์ข้อความบางช่วงว่า "ขอยืนยันว่าเราไม่ต้องการให้ใครที่เราไม่ต้องการ เข้ามาตรวจร่างกายของพวกเรา กสม. หรือ รพ.ตำรวจ พวกหนูไม่เอา ยอมกัดลิ้นตัวเองตายดีกว่าค่ะ ถ้าประธานศาลฎีกา หรือตำรวจ อยากไล่พวกหนู ก็ประกาศออกมาเลย ตอบหนังสือหนูที่ขออนุเคราะห์พื้นที่ก็ได้ว่าจะไล่พวกหนูค่ะ"


วันนี้ พลตำรวจตรีอัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 พร้อมทีมแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เดินทางขอเข้าเยี่ยมทั้ง 2 คน โดยมี นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เป็นคนพาแพทย์ 1 ท่าน เข้าไปพบทั้งคู่ ใช้เวลาพูดคุยราวครึ่งชั่วโมง ก่อนจะออกมา ซึ่งแบมและตะวัน ยังยืนยันปฏิเสธการรักษา และไม่ยินยอมให้เจาะเลือด วัดความดัน หรือทำหัตถการใด ๆ


นายกฤษฎางค์ เป็นผู้รายงานอาการป่วยของทั้งคู่ให้สื่อมวลชนทราบ เนื่องจากแพทย์ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลผู้ป่วยได้ แพทย์แนะนำว่า ไม่ควรอดอาหารต่อ ร่างกายมีอาการอ่อนเพลีย ขาดน้ำ อาการแต่ละวันจะไม่คงตัว เพราะเป็นลักษณะของอาการขาดสารอาหาร แต่ว่ายังรับรู้ โต้ตอบได้ หากทั้ง 2 คน เข้าสู่ภาวะวิกฤต สามารถประสานโรงพยาบาลตำรวจได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อส่งไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด


นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า แพทย์ได้อธิบายวิธีการดูแลคนป่วยลักษณะแบบนี้ว่า จะต้องระวังอะไรบ้างทั้ง ค่าเลือด ค่าความดัน ค่าน้ำตาล และชีพจร รวมถึงกล่าวถึงข้อห่วงกังวลในหลายเรื่อง นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยกับเด็กทั้งสองคน โดยทั้งคู่มีอาการอ่อนเพลียค่อนข้างมาก เพราะร่างกายขาดน้ำ อยากให้ทั้งสองรับรู้ว่าแพทย์จาก รพ.ตำรวจ มีความกังวลว่า หากมาถึงจุดไหน สามารถประสานแพทย์ได้เพื่อจะให้ความช่วยเหลือได้ทัน


นายกฤษฎางค์ กล่าวด้วยว่า ตนเล่าให้แพทย์ฟังว่าเมื่อคืนวันที่ 27 ก.พ.ผ่านมา แบมไม่ได้นอน เนื่องจากเข้าใจผิดว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมารื้อสถานที่และไม่ให้ชุมนุม ทำให้เกิดความเครียด วันนี้จึงดูโทรมลง ตรไม่มีความรู้ทางการแพทย์  ส่วน ตะวันมีอาการขึ้น ๆ ลง ๆ หลังจากคุยกับหมอหลาย ๆ คนได้ความรู้ว่าเกิดจากการเหวี่ยงของการขาดสารอาหาร เมื่อใดที่ร่างกายได้สารอาหารจากเกลือแร่ก็จะดีขึ้นนิดหนึ่งและจะทรุด อย่างวันนี้ทรุดในสายตาของตน วันนี้เขาพูดไม่รู้เรื่อง แต่มีสติ ยกมือไหว้คุณหมอได้


ความเห็นของแพทย์ เห็นว่าเป็นอาการที่ไม่สมควรที่จะอดอาหารต่อ ทั้งทนายความ เพื่อนฝูง และพ่อแม่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐ ก็ส่งความเห็นมาตลอดว่า ขอให้แบมกับตะวันใจเย็น ๆ ทุกอย่างมันค่อย ๆ ปรับไป อะไรที่ไม่ดีก็ค่อย ๆ ปรับกันไป อย่าเอาชีวิตมาแลก เราพูดตลอด แต่ยังไม่รู้ว่าจุดไหนที่ทั้งคู่จะถอยออกมา เพราะเขาก็มีความกดดันหรือความต้องการอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่เขาเดินทางมาไกลพอสมควร ตนคิดว่ามันน่าจะจบลงด้วยดีถ้ากระบวนยุติธรรมฟังเขาหน่อย

นายกฤษฎางค์กล่าวว่า เรื่องการย้ายจุดปักหลัก ตอนนี้ยังไม่มีความคิดเพราะทั้งสองคนยังอยู่ในสภาพที่ไม่สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย แต่หากมีความจำเป็น เช่น ทางส่วนราชการเห็นเช่นนั้น แต่ทั้งสองคนก็ยืนยันว่าไม่ได้มาชุมนุม และยังเกรงใจผู้ทำกิจกรรมยืนหยุดขังที่ทำเป็นประจำ


ขณะที่ พลตำรวจตรีอัฏธพร ยืนยันว่า ไม่มีการกดดัน หรือสลายการชุมนุมบริเวณนี้ แต่ขอให้ย้ายไปด้านหลังของอาคารศาลฎีกา เพราะมีที่หลบแดด และปลอดภัยจากมือที่สาม ที่อาจจะมาสร้างสถานการณ์ และหลังจากนี้จะจัดกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเข้ามาดูแลเพิ่ม

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/PnHISOGVnTI