"ปิยบุตร" เผยถูกสั่งฟ้อง 1 ข้อความในทวิต ยันไม่เอาผิด "เทพมนตรี-คนร้องทุกข์"

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 65 เวลา 13.00 น. รศ.ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ภายหลังเข้าพบคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน สน.ดุสิต ตามหมายเรียกผู้ต้องหาคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ครั้งที่ 1 ซึ่งร้องทุกข์กล่าวโทษโดยนายเทพมนตรี ลิมปพยอม

รศ.ดร.ปิยบุตร กล่าวว่า ตนยืนยันว่าข้อความที่นายเทพมนตรี กล่าวโทษไว้ทั้ง 8 ข้อความ อ่านหมดแล้วไม่มีข้อความไหนเข้าองค์ความผิด ในท้ายที่สุดพนักงานสืบสวนสอบสวนมีความเห็นตั้งข้อกล่าวหาและสั่งฟ้องเพียง 1 ข้อความ ผมคิดว่าวิญญูชนคนมีเหตุมีผล มีอัตตวินิจฉัย สติสัมปชัญญะ อ่านข้อความอีกครั้ง พินิจพิเคราะห์ได้ว่าไม่เข้าข่ายองค์ความผิด ตรงไหนก็ไม่เข้า สักคำหนึ่งก็ไม่เข้า

"ก็เดี๋ยวต่อสู้คดีกันไป คดีที่ผมโดนไม่ใช่ตัวผมคนเดียว แต่เป็นภาพใหญ่การใช้สิทธิเสรีภาพ ทุกท่านยอมรับกันแล้วว่า ยุคสมัยปัจจุบันมีความคิดและการแสดงออกของเยาวชนรุ่นใหม่ เกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบันจำนวนมาก มีความเห็นว่าเพื่อให้อยู่อย่างปกติสุข ควรมีการพูดคุยในพื้นที่ที่ปลอดภัย ผมยืนยันว่าเรื่องเหล่านี้พูดคุยกันได้ในรูปแบบวิชาการ เอาใจเขามาใส่ใจเรา แต่การแสดงออกของผมกลับถูกดำเนินคดี หากในท้ายที่สุด สังคมเห็นว่าการแสดงความเห็นทางวิชาการนี้ยังโดนคดี จะไม่เห็นพื้นที่พูดคุยในที่สาธารณะได้เลย" รศ.ดร.ปิยบุตร กล่าว 

รศ.ดร.ปิยบุตร กล่าวด้วยว่า สำหรับคนกล่าวโทษ ก็ไม่เป็นไร ตยไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัวมาก่อน อยากเรียนนักร้องให้พิจารณาเรื่องกฎหมายบ้าง นี่คือการเอาผิดในทางคดีอาญา มีความผิดอยู่ไม่ใช่เอาจินตนาการรู้สึกนึกคิดเอาเอง ไม่ใช่ไปแจ้งความคนเพื่อปิดปากไม่ให้เขาพูด โต ๆ กันแล้วควรคิดได้ ตนไม่เคยคิดจะดำเนินคดีกับนายเทพมนตรี สำนักข่าวหรือผู้สื่อข่าว เพราะสุดท้ายเขาก็ไม่รักตน คนจะรักต้องพูดคุยกัน ไม่ใช่เอากฎหมายไปหมิ่นประมาท



"ผมคิดว่าเรามีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น คิดว่าข้อเสนอของผมไม่ใช่เพิ่งมาพูด แต่พูดมา 10 กว่าปี ข้อความและเนื้อหาไปในทิศทางเดียวกันมาตลอด แต่กลายเป็นว่าพอเข้าสู่แวดวงการเมือง ก็ยังเอาเรื่องนี้มากล่าวหาดำเนินคดีอีก ผมยืนยันว่าความคิดเห็นของผมที่ดำเนินอย่างสุจริตใจ จะดำเนินต่อไป ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของผม แต่เพื่อประโยชน์ของสังคมไทย" รศ.ดร.ปิยบุตร กล่าวทิ้งท้าย 



นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ตำรวจเรียกรศ.ดร.ปิยบุตร กล่าว เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาจากกรณี นายเทพมนตรี แจ้งความกล่าวหา ม.112 ตั้งแต่เดือน พ.ย. 64 ถ้อยคำที่มาแจ้งความมีหลายถ้อยคำทั้งในทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนเห็นว่ามีข้อความผิดอยู่คือในทวิตเตอร์ วันที่ 24 ต.ค. 64 “สภาพสังคมปัจจุบันนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะอยู่ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์จำแลงได้อย่างสันติ แต่การปฏิรูปสถาบัน กองทัพ ศาล เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่รักษาสถาบันไว้อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ ต่างหาก ที่เป็นไปได้ และทำให้ทุกคนอยู่อย่างสันติ”

นายกฤษฎางค์ กล่าวชี้แจงด้วยว่า รับทราบข้อกล่าวหา และให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิด ขอเวลาให้ถ้อยคำจะโต้แย้งต่อสู้คดี ภายใน 30 วันนับจากวันนี้ โดยไม่มีการควบคุมตัว เนื่องจากผู้ต้องหามาพบด้วยเอง ตลอดจนไม่มีการออกหมาจับหรือหมายขังไว้ ข้อสังเกตวันนี้มาพบพนักงานสอบสวนตามนัด ในชั้นพนักงานสอบสวนก็ไม่ได้ควบคุมตัว เนื่องจากไม่มีอำนาจควบคุมตัว แต่ทาง รอง ผบช.น. ให้ความเห็นว่าน่าจะจัดเงื่อนไขไว้ให้ผู้ต้องหามารายงานตัวทุก 7 วัน ซึ่งเป็นภาระขึ้นและเป็นเรื่องผิดปกติอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากไม่ได้เป็นจำเลย หรือหมายศาล แต่เพื่อไม่ให้พนักงานสอบสวนลำบากใจ

"ไม่ได้ทำให้เราเพิ่มความหนักใจ เพราะเรามีตั้งแต่แรกแล้ว เท่าที่เราคุยกับทางพนักงานสอบสวน ถามมีแรงกดดันใด ๆ หรือไม่ หรือมีใบสั่งหรือเปล่า ทางรองผู้การ น.1 บอกว่าไม่ต้องกังวลใจ ท่านจะให้ความเป็นธรรม โดยให้พยานหลักฐานมาต่อสู้คดีเต็มที่ คือ ให้ทำสำนวนพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจทุก 6 เดือน" นายกฤษฎางค์ กล่าว