คปท. จี้อัยการสูงสุดชี้แจงความชัดเจน คดี ม.112 ของนายทักษิณ

2 วัน จะครบกำหนดพักโทษนายทักษิณ ชินวัตร ตามที่เงื่อนไขการพักโทษของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งอีกด้านหนึ่งที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ผู้สื่อข่าวไปสำรวจมาบรรยากาศก็ยังเงียบ ไม่มีเจ้าหน้าที่ไปคอยรักษาความปลอดภัยแต่อย่างใด การพักโทษครั้งนี้ก็ นับเป็นการกลับบ้านเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปีของนายทักษิณ อีกด้านหนึ่งมีกลุ่มมวลชนออกมารวมตัวเรียกร้องให้อัยการสูงสุด ชี้แจงความชัดเจนคดี ม.112 ของนายทักษิณก่อนการปล่อยตัวกลับไป พร้อมขู่ว่า หากไม่ได้คำตอบ จะรอต้อนรับอยู่ที่หน้าโรงพยายาบาลตำรวจ


กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. นำโดยนาย พิชิต ไชยมงคล และนายนัสเซอร์ ยีหมะ พร้อมด้วยกลุ่มกองทัพธรรม และ ศปปส. เดินทางยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ที่สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อสอบถามความคืบหน้าในคดีที่นายทักษิณ ชินวัตร ถูกแจ้งข้อหามาตรา 112


โดยเรียกร้อง 3 ข้อ คือการที่นายทักษิณ ร้องขอความเป็นธรรม คดี ม.112 ทางกลุ่มเห็นว่า การที่กองทัพบกมาร้องทุกข์ให้อัยการสูงสุดแจ้งข้อหานั้น เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะผู้ต้องหาไม่มาชี้แจง ต่อสู้คดีเอง เพราะหลบหนีออกนอกประเทศ ดังนั้น การยื่นขอความเป็นธรรมจึงไม่ใช่เหตุที่ต้องควรนำมาพิจารณา


ข้อต่อมา ต้องการให้อัยการสูงสุด ชี้แจงขั้นตอนการดำเนินการหลังนายทักษิณได้รับการพักโทษให้ชัดเจน ว่าจะมีมาตรการกับผู้ต้องหาอย่างไร และที่ผ่านมา พบว่า ไม่มีหน่วยงานไหนขึ้นไปที่ห้องที่นายทักษิณ บนชั้น 14 นอกจากผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่อัยการสูงสุดแถลงว่ามีการไปแจ้งข้อกล่าวหานั้น เกิดขึ้นที่ไหน อย่างไร ทั้งนี้บอกว่า หากหลังวันที่ 18 กุมภาพันธ์ หรือวันที่นายทักษิณได้รับการพักโทษ แล้ว ยังไม่ได้รับความชัดเจน ในเรื่องนี้ ก็จะกลับมาทวงถามอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่าในวันที่นายทักษิณจะได้รับการพักโทษนั้น ทางกลุ่มจะมีการทำกิจกรรมต้อนรับที่หน้าโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อไปพิสูจน์ข้อเท็จจริง ว่านาย ทักษิณ ป่วยจริงหรือไม่ รวมทั้งยังคงปักหลักชุมนุมที่สะพานชมัยมรุเชษฐต่อไป เพื่อติดตามความคืบหน้าเรื่องที่ยื่นให้ ป.ป.ช. สอบข้อเท็จจริงกับข้าราชการ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้นายทักษิณออกมารักษาตัวนอกเรือนจำ


ทางด้าน พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยโดยรอบโรงพยาบาลตำรวจในขณะนี้ ยังคงใช้กำลังท้องที่ตามปกติ ไม่ได้มีการเพิ่มกำลัง แต่หากกลุ่ม คปท. จะเคลื่อนขบวนมาทำกิจกรรมที่หน้าโรงพยาบาลตำรวจ และเฝ้าสังเกตการณ์การพักโทษและปล่อยตัวนายทักษิณ ก็มีกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน และกำลังท้องที่เตรียมแผนรองรับไว้อยู่แล้ว เพื่อรักษาความสงบ และป้องกันไม่ให้มีกลุ่มมือที่ 3 เข้ามาก่อความวุ่นวาย


ส่วนหากนายทักษิณพักโทษและไปพักที่บ้านจันทร์ส่องหล้า การรักษาความปลอดภัยที่บ้านจันทร์ส่องหล้านั้น ก็จะใช้กำลังตำรวจพื้นที่รักษาความปลอดภัยตามปกติของมาตรการอารักขาบุคคลสำคัญในฐานะที่นายทักษิณเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี


ส่วนขั้นตอนการออกจากโรงพยาบาลตำรวจ พันตำรวจเอกหญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า ขึ้นอยู่กับกรมราชทัณฑ์ หากแจ้งมาว่าจะขอรับตัวออก ทางโรงพยาบาลก็มีหน้าที่ออกใบรับรองแพทย์ให้ พร้อมแนบความเห็นแพทย์ ถึงอาการของผู้ป่วย ว่าควรรักษาตัวต่อหรือไม่ ถือว่าหมดหน้าที่ของโรงพยาบาลตำรวจแล้วสำหรับขั้นตอนการรับตัวกลับ หากเป็น "นักโทษ" ญาติไม่สามารถมารับตัวได้ แม้มีคำสั่งพักโทษแล้วก็ตาม ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มารับไปเท่านั้น ส่วนรับออกไปแล้วจะส่งมอบให้ญาติ หรือมีขั้นตอนต่อไปอย่างไร เป็นหน้าที่ของราชทัณฑ์ซึ่งการขอรับตัวไม่มีหลักเกณฑ์ว่าต้องแจ้งโรงพยาบาลก่อนกี่วัน เพราะผู้ต้องขังที่ถูกส่งตัวมารักษาจะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เฝ้าตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว สามารถประสานโรงพยาบาลได้ตลอดเวลา นั่นหมายถึงเที่ยงคืน 1 นาที ของวันที่มีการพักโทษ ก็สามารถแจ้งขอออกจากโรงพยาบาลได้หากมีความประสงค์