เลือกตั้งและการเมือง

'ไอติม' ยันแก้ 112 ไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง - 'ปิยบุตร' ชี้ 31 ม.ค. คือวันชี้ชะตาการเมืองไทย

โดย nattachat_c

29 ม.ค. 2567

28 views

วานนี้ (28 ม.ค. 67) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย กรณีพรรคก้าวไกล ใช้นโยบายแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ในการหาเสียงเลือกตั้ง ในวันที่ 31 ม.ค.นี้ จะมีบุคลากรของพรรคคนใดเดินทางไปฟังคำวินิจฉัยบ้าง ว่า เรื่องนี้ต้องหารือกันภายในพรรคก่อน คาดว่าจะเป็นวันที่ 29 ม.ค.นี้ แล้วจะแจ้งต่อสาธารณะอีกครั้ง


ทั้งนี้ ในวันที่ 31 ม.ค. มีการประชุมสภาฯ จึงคิดว่าหน้าที่ที่สำคัญของ สส.พรรคก้าวไกล คือการทำหน้าที่ในสภาฯ เนื่องจากจะมีการพิจารณารายงานเกี่ยวกับระบบเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) รวมถึงญัตติที่มีความสัมพันธ์อีกหลายด้านด้วย


พรรคก้าวไกลยังยืนยันคำเดิม คือ พยายามทำอย่างเต็มที่ภายใต้ขอบเขตที่สามารถทำได้ในการยืนยันความบริสุทธิ์ ว่าการกระทำที่ผ่านมา ไม่ว่าจะพรรคก้าวไกล หรือสส.ของพรรค ไม่มีการกระทำใดที่เข้าข่ายการล้มล้างการปกครอง


โดยเฉพาะกรณีการยื่นร่างแก้ไข ม.112 เราต้องยืนยันเช่นกันว่า การยื่นร่างกฎหมายดังกล่าว ไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ทั้งในส่วนกระบวนการ ที่เรามองว่าการยื่นกฎหมายใดๆ ก็ตาม ไม่สามารถนำไปสู่การล้มล้างการปกครองได้อยู่แล้ว เพราะเมื่อยื่นกฎหมายเข้าไป ยังมีอีกหลายขั้นตอนพิจารณา


ในเชิงเนื้อหาสาระในการปรับปรุงแก้ไข ม.112 นั้น แม้จะมีเนื้อหาบางส่วนที่บางฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ไม่ได้มีเนื้อหาส่วนไหนที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการปรับอัตราโทษ หรือเหตุยกเว้นความผิด และโทษ


สำหรับความมั่นใจในหลักฐานที่จะชี้แจงต่อศาล นายพริษฐ์ กล่าวว่า เราทำเต็มที่แล้วในการตอบคำถามและชี้แจงทุกข้อกล่าวหาผ่านกระบวนการของศาล เหลือเพียงการรอคำวินิจฉัยของศาลว่าจะเป็นเช่นไร


“ทั้งนี้ ขอเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันจับตาคำวินิจฉัยครั้งนี้ด้วย เพราะคำวินิจฉัยนี้ ไม่ได้ส่งผลแค่พรรคก้าวไกลอย่างเดียว แต่จะเป็นการวางบรรทัดฐานสำคัญสำหรับการเมืองไทยในอนาคต หวังว่าคำนี้วินิจฉัยจะออกมายืนยันในสิ่งที่เราได้สื่อสารมาโดยตลอด” นายพริษฐ์ กล่าว


เมื่อถามว่าได้คาดการณ์ฉากทัศน์ต่อไป ทั้งที่เป็นคุณและเป็นโทษไว้แล้วใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ทุกกรณีหรือเหตุการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุมของพรรค พรรคได้มีการประเมินทุกฉากทัศน์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ มีการวางแผน และออกแบบการบริหารจัดการทุกฉากทัศน์ไว้อยู่แล้ว เราทำเป็นพื้นฐานในทุกกรณี

-------------

เมื่อวันที่ 28 มกราคม นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความพร้อมคลิป เกี่ยวกับการตัดสินคดีล้มล้างการปกครองในวันที่ 31 ม.ค.นี้ ความว่า


“วันพุธที่ 31 มกราคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดีที่ #พรรคก้าวไกล ถูกกล่าวหาว่าล้มล้างการปกครองฯ จากกรณีเสนอกฎหมายแก้ไขมาตรา 112 คดีนี้ไม่เพียงสำคัญกับพรรคก้าวไกลเท่านั้น แต่ยังสำคัญกับการเมืองไทยด้วย #สนามกฎหมาย #นิติสงคราม #ล้มล้างการปกครอง #มาตรา112 #ศาลรัฐธรรมนูญ”


ทั้งนี้ ในคลิปดังกล่าว นายปิยบุตรกล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาล รธน.วันที่ 31 ม.ค.นี้ นอกจากจะมีความสำคัญต่อพรรคก้าวไกลแล้วยังสำคัญต่ออนาคตการเมืองของไทยด้วย ไม่รู้ว่าพรรคก้าวไกลจะรู้หรือไม่ว่าเขาจะถูกยุบพรรคหรือไม่ แน่นอนคดีนี้ศาล รธน.ไม่มีอำนาจสั่งยุบพรรค แต่จะใช้ช่องทางอื่นได้ในการสั่งยุบพรรค แต่หากระบุว่าเป็นการล้มล้างก็จะมีคนฟอลโลว์อัพกันต่อ ไปร้องกันต่อเพื่อนำไปสู่การยุบพรรค ตกลงแล้วการแก้ ม.112 ที่มีการเสนอเป็นการล้มล้างหรือไม่ ซึ่งเชื่อพรรคก้าวไกลก็คงใจคอไม่ดีแน่


ในฐานะที่คนเคยเป็นเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เป็นพรรคที่ถูกยุบมาและถูกตัดสิทธิทางการเมืองอยู่ในขณะนี้เป็นเวลา 10 ปี ยืนยันว่าการยุบพรรคแบบที่ทำๆ กันมามันไม่เกิดประโยชน์อะไร ถ้าหากภาพยนตร์ที่ชื่อว่าการยุบพรรคมีจริง และหากว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีผู้กำกับจริง และผู้กำกับมีเป้าประสงค์ที่จะให้คนเหล่านี้ออกไปจากการเมืองหายไปจากการเมืองไทย ขอบอกว่าทำไม่สำเร็จหรอก และครั้งนี้นอกจากจะทำไม่สำเร็จตรงกันข้าม มันจะเป็นแรงผลักดันเกื้อหนุนเสริมให้พรรคใหม่ในอนาคตถ้าหากจะมีของกลุ่มก้าวไกลเดิม เขาลงเลือกตั้งในครั้งถัดไปได้อย่างง่ายขึ้น


ประชาชนจะเห็นพ้องต้องกันว่า มันโดนอีกแล้ว ทำไมมันเล่นกันแบบนี้ แล้วพอถึงเวลาเลือกตั้งเค้าก็จะไปกากันให้ถล่มทลายกันเลย ดังนั้นหากแทนที่จะยุบพรรค หรือตัดสินธิทางการเมืองหรือทำบอนไซเพื่อไม่ให้เดินทางทางการเมืองได้ เชื่อว่าสิ่งนี้จะหนุนพวกเขาได้รับการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งครั้งถัดไป


เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะธีรยุทธ สุวรรณเกษร กล่าวหาว่าก้าวไกลล้มล้างการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขจากการแก้มาตรา 112  ผมถามตรงไปตรงมาว่าคนรักสถาบันที่ไหนเขาทำแบบนี้ การทำแบบนี้เป็นการเปิดทางให้เกิดการขัดแย้งกันระหว่างกลุ่มคนที่นิยมพรรคก้าวไกลที่มีมากมายมหาศาล ถ้าหากเขามีอันเป็นไปด้วยข้อหานี้คนจะคิดอย่างไร คุณธีรยุทธ จำคำของผมไว้ให้ดี รวมทั้งบรรดานักร้องทั้งหลายด้วยที่ชอบร้องเรื่องแบบนี้  หวังว่าการร้องเรื่องแบบนี้ให้เป็นครั้งสุดท้าย


วันที่ 31 มกราคม ยังสำคัญต่ออนาคตการเมืองของประเทศไทยด้วย คือ เราไม่ทราบว่าศาล รธน.จะตัดสินอย่างไร แต่คนก็คาดการณ์ว่า สรุปแล้ว 112 แก้ได้หรือไม่ หากแก้ไม่ได้ นี่คือการปิดประตูกระบวนการทางรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตยแบบผู้แทนในระบอบรัฐสภาในการแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศ

--------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/5iI3_NI9nYM

คุณอาจสนใจ

Related News