‘ลุงศักดิ์’ ยัน ไม่ใช่เรื่องจริง ได้เงินบริจาค 6 ล้าน

วันนี้ (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 17.30 น. ที่ สน.พหลโยธิน นายวีรวิชญ์ หรือ ‘ลุงศักดิ์ เสื้อแดง’ ผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นาย ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ระหว่างเข้ายื่นหนังสือร้องเรียน บก.ปอท. เพื่อเอาผิด กรณี #เดี่ยว13 ของ โน้ส อุดม แต้พานิช ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดี ทำร้ายร่างกาย นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กลางวงสัมภาษณ์สื่อมวลชน เมื่อวันที่ 18 ต.ค.65 ที่ผ่านมา

หลังจากเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบได้ควบคุมตัว นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล ตามหมายจับเก่าคดีทำร้ายร่างกายนาย เสกสกล อัตถาวงศ์ และยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนที่ สน.ดุสิต แล้ว จากนั้นได้นายวีรวิชญ์ฯ ได้มารับทราบข้อกล่าวหา กรณีทำร้ายร่างกาย นายศรีสุวรรณ จรรยา ที่ สน.พหลโยธิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำ และจะสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการในวันศุกร์นี้  เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานแจ้งข้อกล่าวหา “ ทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 ประกอบมาตรา 296 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

ด้านนายภัทรพงศ์ สุภักษร  หรือ ทนายอั๋น ทนายความที่ดูแลคดีนี้เปิดเผยว่า ด้านลุงศักดิ์ได้ให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหาและเมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วก็เป็นเรื่องของศาลส่วนจะเจ็บมากเจ็บน้อยไม่มีใครบอกได้ต้องอ้างอิงจากหลักฐานทางโรงพยาบาล ซึ่งตอนนี้ต้องรอใบรับรองแพทย์อีกทีหนึ่ง

“สำหรับในเรื่องของการโอนเงินบริจาคให้กับลุงศักดิ์นั้น ไม่มีความผิดตามที่ถูกกล่าวหาตามที่นายศรีสุวรรณแจ้ง ตนเตือนไปยังนายศรีสุวรรณว่า การกระทำของนายศรีสุวรรณไร้สาระ หาเหตุผลไม่ได้ และที่สำคัญมันเป็นสาเหตุของความแตกแยกและเหตุการณ์ของลุงศักดิ์จึงเป็นบทเรียนดังกล่าว ตนจึงร้องเรียนไปยังถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาให้แสดงความเป็นผู้นำทุกอย่างจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก” ทนายอั๋น

ด้านลุงศักดิ์ กล่าวขอบคุณประชาชนที่มาให้กำลังใจและในเรื่องของคดีความก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรมและได้ชี้แจงกรณีเรื่องบนเงินบริจาค 6,000,000ไม่เป็นความจริง ขอให้สื่อ MGR Online ที่กราฟฟิกดังกล่าวได้แก้ไขด้วย เพราะทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด