สังคม

'พี่ศรี' เข้ายื่นคำให้การ ปัดตบทรัพย์อธิบดีฯ ลั่นเหยียบตาปลาผู้มีอำนาจ เลยถูกคดี

โดย panwilai_c

23 ก.พ. 2567

31 views

ศรีสุวรรณ มาตามนัด พร้อมเอกสารคำให้การ 16 แผ่นมาให้ตำรวจ บก.ปปป. ยืนยัน ไม่ได้เกี่ยวข้องเรียกรับผลประโยชน์จากอธิบดีกรมการข้าว



วันนี้นาย ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เดินทางมาในชุดเสื้อผ้าไทยสีฟ้า กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนัง มาพร้อมทนายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 26 มกราคมที่ ตำรวจ บก.ปปป. นำกำลังบุกจับ นาย ศรีสุวรรณ คาบ้านพักที่จังหวัดปทุมธานี พร้อมถุงเงินของกลาง 5 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินของกลางล่อซื้อจากอธิบดีกรมการข้าว และตั้งแต่ถูกจับนักข่าวพยายามติดต่อมาตลอด แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เพราะมือถือโดนตำรวจอายัดไปตรวจสอบ ไปหาที่บ้านก็ไม่ออกมา



แต่วันนี้ นาย ศรีสุวรรณ พอเจอกองทัพนักข่าวก็ทักทายด้วยประโยคที่ว่า "ยังคิดถึงพี่ศรีอยู่หรอ?" ก่อนจะเริ่มให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่มาในวันนี้ โดยบอกว่า มารายงานตัวทุกเดือนตามที่พนักงานสอบสวนนัด แต่วันนี้ได้เขียนคำให้การมายื่นเพิ่ม ซึ่งได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้ทุกประเด็น แต่ที่อยากชี้แจงคือ



1. เขาไม่ได้มีโทรศัพท์มือถือใช้เลยตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม คือวันที่ตำรวจเข้าจับ หลายคนอาจจะมองว่าหยิ่ง แต่ขอยืนยันว่าไม่มีโทรศัพท์มือถือใช้จริงๆ เพราะอยู่กับตำรวจ แม้แต่ชาวบ้านที่ต้องการติดต่อ รวมทั้งคนที่มอบอำนาจให้เขาฟ้องคดีทั่วทั้งแผ่นดิน ก็ไม่สามารถติดต่อได้ พร้อมบอกว่า เขายังสบายดี ยังมีกำลังใจ 100%



เรื่องที่ 2. สื่อทุกคนรู้จักเขาดี เพราะเจอกันมามากกว่า 10 ปี แต่รู้สึกว่า บางครั้งการเขียนข่าว นำเสนอข่าว ก็ดราม่ามากเกินไป เช่น "พี่ศรีไม่ได้ทำงานอะไร ร้องเรียนอย่างเดียว แล้วมีทรัพย์สินเยอะแยะมากมายได้อย่างไร" ขอชี้แจงว่า เขาเป็นผู้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีจากชาวบ้านมาทั้งแผ่นดิน แล้วคดีที่ฟ้อง ต่างเป็นคดีที่หลายคนให้ความสนใจตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ฟ้องมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5,000 คดี และน่าจะมากที่สุดในประเทศไทยด้วยซ้ำไป คดีใหญ่ที่ชนะคดี และเป็นคดีระดับประเทศ ระดับโลกก็ยังมี เช่น คดีรถเมลล์ ขสมก. ควันดำ / คดีปิดโรงงานมาบตาพุด 67 โรงงาน เมื่อปี 2560 / คดียุติโครงการบริหารจัดการน้ำ 35 แสนล้าน และคดีล่าสุดคดีแอชตัน อโศก ทั้งหมดนี้เป็นผลงานของเขาทั้งนั้น เขาทำงานช่วยเหลือคนมาทั้งแผ่นดิน ไม่ใช่ว่า "ศรีสุวรรณไม่มีอาชีพอะไร"



บางคนตั้งคำถามว่า "เรียนจบด้านเกษตรมา มาทำอย่างนี้ได้อย่างไร?" ขอเรียนว่า เขาเรียนจบปริญญา มา 6 ใบ ปริญญาตรี 3 ใบ ใบแรกจบด้านเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ใบที่ 2 จบสารนิเทศ และใบที่ 3 จบนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ส่วน ปริญญาโท 2 ใบแรกนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และใบที่ 2 ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ส่วน ปริญญาเอก 1 ใบ คือด้าน Public policy and management เพราะฉะนั้น เขามีความรู้ที่มาช่วยชาวบ้านทั้งแผ่นดิน



ส่วนกรณีที่บางคนบอกว่า ไม่มีอะไรแต่ทำไมมีทรัพย์สินเยอะ ขอบอกว่าทรัพย์สินได้มาจาก น้ำใจของชาวบ้าน ที่มอบให้ตลอดระยะเวลา 20-30 ปี หลายคนบอกว่าศรีสุวรรณสะสมงาช้าง ขอบอกว่างาช้างซื้อมาจากบ้านถวาย ซึ่งเป็นไม้แกะสลักทั้งนั้น ส่วนครุฑซื้อมาจากร้านของเก่า ไม่ได้มีมูลค่าตามที่ข่าวรายงาน



นายศรีสุวรรณ บอกด้วยว่า เพราะเขาทำงานแบบนี้ทำให้นักการเมือง และข้าราชการระดับสูงไม่มีใครชอบขี้หน้าเขา ถ้ามีโอกาสที่จะกระทืบศรีสุวรรณ คงทำเต็มที่ เพราะถ้าไม่มีคนทุกคนคงสบายใจ ทำอะไรก็ได้ตามสบายใจ



นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า วันนี้เตรียมเอกสารคำให้การมา 16 หน้า เป็นการอธิบายขั้นตอนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้พนักงานสอบสวนเข้าใจ พร้อมยืนยันว่า มั่นใจในข้อมูลที่มี พร้อมสู้คดีนี้อย่างเต็มที่ โดยกระบวนการยุติธรรมนั้นไม่ได้จบในวันสองวัน ยังต้องสู้กันไปอีกนาน



ทั้งนี้ วิกฤตครั้งนี้ ก็เป็นโอกาสเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้บางคนเดือดร้อนก็มาหาตน แต่พอถึงคราวที่เขาเดือดร้อน จะขอคำปรึกษาก็ปิดมือถือไม่รับสายกัน จึงทำให้ได้เห็นจิตใจของแต่ละคน และในอนาคตถ้ามีโอกาสได้กลับไปทำงานต่อ ก็อาจจะต้องเลือกคนให้ดี



เมื่อถามว่า สังคมมองว่านายศรีสุวรรณ รู้ขั้นตอนด้านกฎหมายและข้อมูลของหน่วยงานต่างๆ จึงนำมาใช่เป็นช่องทางหากินหรือไม่ นายศรีสุวรรณ ตอบว่า สิ่งนี้ก็ถือเป็นข้อกล่าวหา แต่ทำงานนี้มานับ 10 ปี แล้ว ถ้าทำตามที่กล่าวหามานานแล้วจริง ทำไมเรื่องเพิ่งมาแดงตอนนี้ อาจเพราะระยะหลัง เขาร้องเรียนอย่างหนักแทบทุกวัน คงไปเหยียบตาปลาขนาดใหญ่ของนักการเมืองเข้า



ส่วนที่ถูกพาดพิงว่าอยู่ร่วมขบวนการเดียวกันกับ เจ๋ง ดอกจิก และ อาจารย์เอก นาย ศรีสุวรรณ บอกขอไม่พูดเรื่องที่เป็นเนื้อหาของคดี แต่ยืนยันว่าหลังเกิดเหตุไม่ได้พูดคุยกับผู้ต้องหาคนอื่นเลย และยืนยันด้วยว่า ภรรยาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน



ส่วนเรื่องการฟ้องกลับ ตอนนี้ยังไม่ได้คิด ขอเให้มันพ้นวิกฤตไปก่อน ยอมรับว่าหนักใจพอสมควร แต่คดียังไม่ถึงที่สุด เมื่อถูกกล่าวหาก็แค่แสวงหาข้อมูลพยานหลักฐานข้อกฎหมายให้หนาแน่น ตอนนี้มีทีมงานหลายคนมาช่วยกันระดมสมองในการต่อสู้ทุกวิถีทาง จึงมั่นใจมาก



หลังจากนั้นนาย ศรีสุวรรณเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนพร้อมชู 2 นิ้วให้สื่อด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนกลับออกมา และบอกเพียงว่า พนักงานสอบสวนนัดหมายให้มารายงานตัวอีกครั้งวันที่ 22 มีนาคม ส่วนโทรศัพท์มือถือ ยังไม่ได้คืน เนื่องจากพนักงานสอบสวนต้องนำเรื่องนี้เข้ามติที่ประชุมก่อน พร้อมฝากถึงลูกความ และเอฟซีว่า ไม่ต้องเป็นห่วง เขายังรับว่าความ ทำคดีช่วยชาวบ้านตลอดเวลาและขอให้เชื่อมั่นเหมือนเดิม



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/JYiW4yge14w

คุณอาจสนใจ

Related News