ฟังเสียงประชาชน 9 ปีที่รอคอย เลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร

ฟังเสียงประชาชน 9 ปีที่รอคอย เลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร

ยังคงอยู่ในช่วงบรรยากาศของการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ครั้งล่าสุดนั้นเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ.2556 ห่างหายไปนานถึง 9 ปี หลังจากที่ประเทศไทยมีการทำรัฐประหารในปี พ.ศ.2557 ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ว่าฯของคนกรุงเทพฯมาจากการจัดตั้ง และในปีนี้ พ.ศ.2565 มีผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพ มากถึง 31 คน สูงที่สุดในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.

เสียงของประชาชน เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ สำหรับคนที่จะเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ ในกรุงเทพมหานคร นอกจากการเป็นผู้นำแล้ว ขณะเดียวกันก็ควรต้องเป็นผู้ฟัง ที่คอยรับฟัง เข้าใจ และรับใช้ประชาชน เพื่อประโยชน์ประชาชน

เจษฏา พ่อค้าร้านขนมไทย กล่าวว่าไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้ว่ากรุงเทพฯ จะไม่ได้เลือกตั้งมานานถึง 9 ปีแล้วก็ตาม แต่ทุกครั้งถ้ามีผู้สมัครผู้ว่าผ่านมาแถวร้าน เขาก็ไม่พลาดที่จะพูดคุย และถามเรื่องนโยบายช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของริมทางเท้า

“เรามีหน้าที่ค้าขาย จึงต้องรู้ว่านโยบายที่เขาออกมา จะส่งผลกระทบกับเรื่องการทำมาหากินของเราไหม เราหวังให้ผู้ว่าคนต่อไปต้องดีกว่าเดิม อย่างน้องก็ควรทำให้ได้ตามนโยบายที่หาเสียง รับรู้ถึงปัญหา และสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ชาวกรุงเทพได้ ซึ่งจะทำได้จริงตามนโยบายไหม ก็ต้องมาดูที่ผลงานกันอีกที”

ลุงรักษ์ (นามสมมุติ) เปิดใจถึงปัญหาหนักอก ที่เจอมาตลอดว่า ปัญหามอเตอร์ไซค์บนทางเท้า เป็นสิ่งที่ต้องการให้ผู้ว่าคนต่อไปมาแก้ไขมากที่สุด ปัญหานี้สร้างความเดือดร้อนมายาวนาน แต่กลับไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาจัดการอย่างเด็ดขาด ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้ผู้ว่าที่เข้ามาแก้ปัญหาดังกล่าวให้เร็วที่สุด

“เดิน ๆ อยู่ก็ถูกมอเตอร์ไซค์บีบแตรไล่ มันใช้ได้ที่ไหน ผมติดปัญหาเรื่องนี้มานานแล้ว เคยจับมือคุยถึงปัญหานี้กับผู้สมัครผู้ว่าเมื่อหลายปีก่อน แล้วเหมือนว่าปีนั้นเขาจะได้เป็นผู้ว่าด้วย แต่ก็ไม่เห็นว่าปัญหานี้ถูกแก้ ผมอยากให้จัดการขั้นเด็ดขาด ทางเท้ามีมอเตอร์ไซค์วิ่งสวนกันเป็นว่าเล่น ยิ่งตอนเปิดเทอมนักเรียนเดินกันเยอะ ก็ยิ่งจะลำบาก” ลุงรักษ์กล่าว

ดูคุณลุงจะเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย เพราะนอกจากจะเล่าปัญหาออกมาได้อย่างชัดแจ้งแล้ว ยังเสนอทางออกด้วยว่า ถ้าทำผิดครั้งแรกให้ยึดใบอนุญาต 7 วัน ทำผิดครั้งที่ 2 ยึดใบอนุญาต 1 เดือน และหากทำผิดอีกครั้งที่ 3 ต้องยึดใบอนุญาตตลอดชีพ ไม่ให้ทำใบขับขี่อีก “ต้องเอาให้เด็ดขาดเพราะถ้ากฎหมายไม่แรงคนก็จะไม่กลัว” คุณลุงทิ้งท้าย

บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าที่ไม่ได้มีมานานถึง 9 ปี ทำให้เกิดธรรมเนียมใหม่ขึ้น ตามที่ สุพร แม่ค้าร้านขายเสื้อผ้าเด็ก ที่ตลาดสัมพันธวงศ์ บอกเล่า เธอกล่าวว่าสิ่งที่เปลี่ยนไปในปีนี้คือเรื่องป้ายหาเสียง ที่ก่อนหน้านี้มีขนาดใหญ่และบังวิสัยทัศน์ แต่ปัจจุบัน พอมีการรณรงค์เรื่องขนาดและตำแหน่งการติดป้าย ก็ทำให้มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี

ความคาดหวังของ สุพร ในฐานะแม่ค้า ไม่มีอะไรมากไปกว่าปัญหาการค้าขาย สิ่งที่เธออยากได้จากผู้ว่าคนต่อไปมากที่สุด คือการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด 19 ให้กลับมาขายของได้ดีแบบเดิม

“ในมุมมองเรา อยากได้ผู้ว่าที่ซื่อสัตย์ มือสะอาด และเป็นคนเก่ง แต่จะว่าไป ถึงเป็นคนมือสะอาด แต่อยู่ในสังคมที่สกปรกก็อยู่ได้ยาก สุดท้ายแล้วก็อยากได้คนเก่ง ที่สามารถพัฒนากรุงเทพฯได้เร็วและดีขึ้น ซึ่งในตอนนี้ก็ได้แต่หวัง”

สุวรรณา แม่ค้าขายผ้าที่ตลาดสำเพ็ง มองว่า จากสถานการณ์ปัจจุบัน และหลากหลายปัญหาที่สะสมในสังคม ส่งผลให้การเลือกตั้งดูไม่คึกคัก และยังรู้สึกเฉย ๆ เลยแต่ก็ถือเป็นการเลือกตั้ง ที่ทำให้มีความหวังว่าจะเกิดเรื่องราวดี ๆ ขึ้น มากกว่าช่วง 8 ปีที่ผ่านมา และมองว่า คนกรุงเทพฯ จะออกไปทำหน้าที่เลือกตั้งผู้ว่าอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้น ทุกคนก็จะโงหัวไม่ขึ้น เพราะจมอยู่กับปัญหาเดิมตลอดเวลา

“อยากให้ผู้ว่าคนต่อไปมีประสบการณ์มากพอ อาจเป็นรัฐมนตรีสักอย่างมาก่อน เพราะเขาจะมองเห็นภาพมากกว่า ว่ากรุงเทพฯ ตอนนี้ต้องการอะไรเป็นอย่างแรก และอยากบอกผู้ว่าฯกรุงเทพฯในอนาคตว่า อยากให้ลงพื้นที่ ไม่ใช่นั่งสั่งอย่างเดียว อย่างน้อยก็ลงมาดูว่าของจริงเป็นยังไง ต้องเป็นคนที่ตั้งใจมาก ๆ ที่จะทำงานให้กับคนกรุงเทพฯ”

แม้ไม่ได้เป็นคนกรุงเทพตามกฎหมาย แต่สำหรับป้าสำเนียง (นามสมมติ) ที่อยู่กรุงเทพมานานกว่า 40 ปีแล้ว ก็เรียกได้ว่า เป็นอีกคนที่รู้จักกรุงเทพไม่น้อยไปกว่าใคร การเลือกตั้งผู้ว่าฯ ในครั้งนี้ เธอบอกว่ารู้สึกตื่นเต้น และดีใจกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอยู่ไม่น้อย ที่จะได้เลือกผู้ว่าราชการคนใหม่ มาบริหารกรุงเทพฯ เธอหวังให้ผู้ว่าคนต่อไปเข้ามาทำให้การค้าขายดีขึ้น รวมทั้งจัดพื้นที่ขายของให้สะอาดและเป็นระเบียบมากขึ้น

“แม้ไม่ได้เลือกตั้งกับเขาแต่ ผู้ว่าคนต่อไปมีผลกับเรา ถ้าเขาบอกจะพัฒนาให้การค้าขายดีขึ้นกว่าเก่า เราก็อยากให้เขาทำให้ได้ และลุ้นกับชาวกรุงเทพฯในการเลือกตั้งครั้งนี้อยู่เหมือนกัน”

กว่า 9 ปีที่ชาวกรุงเทพฯ ห่างหายจากบรรยากาศการเลือกตั้งผู้ว่า กลับมาครั้งนี้ เสียงของประชาชน สะท้อนความเดือดร้อน แสดงความต้องการ สู่ความคาดหวัง ว่าผู้นำของชาวกรุงเทพฯคนต่อไป จะสามารถเข้ามาแก้ไขปัญหา และพัฒนาเมือง ให้พวกเขาได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น


ชมวิดีโอสัมภาษณ์ได้ที่ : https://www.facebook.com/3PlusNews/videos/535675664931922/