ผู้ว่าฯกทม. ลงพื้นที่รร. เกิดเหตุแทง เพิ่มความเข้มงวดตรวจอาวุธ วางมาตรการป้องกันเกิดซ้ำ

ผู้ว่าฯชัชชาติ เพิ่มความเข้มงวดตรวจอาวุธในโรงเรียน เพื่อความปลอดภัย ขณะที่ผู้ปกครองหลังทราบข่าวต่างทยอยมารับลูกกลับบ้าน แม้โรงเรียนยังเปิดการเรียนการสอนปกติ หวั่นเกิดเหตุซ้ำ


บรรยากาศที่โรงเรียนหลังเกิดเหตุนักเรียนชั้น ม.2 ก่อเหตุใช้มีดแทงกันจนมีผู้เสียชีวิตนั้น ผู้ปกครองหลายคนเมื่อทราบข่าว ต่างทยอยมาติดต่อขอรับบุตรหลานของตนเองกลับบ้าน เพราะไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัย เกรงว่าจะมีเหตุการณ์ซ้ำ


ผู้ปกครองบางคน ยอมรับว่า ตกใจทันทีที่ทราบข่าวก็รีบมารับลูกกลับบ้านทันที ส่วนในวันพรุ่งนี้จะให้บุตรหลานมาโรงเรียนเลยหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่ตัดสินใจ ขอประเมินสถานการณ์ก่อน แต่ก็ยอมรับเหตุการณืนี้เป็นครั้งแรก ที่ผ่านมาในโรงเรียนไม่มีเหตุรุนแรงขนาดนี้มาก่อน

ด้านครูเวร ที่ประจำการบริเวณประตูโรงเรียนให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ทั้งโรงเรียนมีเด็กนักเรียนประมาณ 900 คน ภายหลังการเกิดเหตุ มีผู้ปกครองติดต่อเข้ามา ขอรับบุตรหลานกลับบ้านแล้ว 300 คน ส่วนนักเรียนอีก 600 คน ยังคงทำการเรียนการสอนตามปกติ


ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. หลังจากที่ไปให้กำลังพ่อแม่เด็กชาย ม.2 ที่โรงพยาบาลวิภาราม พร้อมกับรองผู้ว่าฯศานนท์ หวังสร้างบุญ ก็ได้ไปที่โรงเรียนมัธยมนาคนาวาอุปถัมภ์ สถานที่เกิดเหตุต่อทันที พร้อมร่วมประชุมกับผู้อำนวยการโรงเรียน ตำรวจ และตัวแทนผู้ปกครองนักเรียน


ผู้ว่าฯชัชชาติ กล่าวว่า เหตุการณ์ทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น หลังเข้าแถวหน้าเสาธง เป็นนักเรียนชั้น ม.2 ทำร้ายร่างกายเพื่อนต่างห้อง /ในส่วนคดีความเป็นหน้าที่ของตำรวจ /ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ กทม.ไม่อยากให้เกิดขึ้น จริงๆแล้วโรงเรียนก็มีมาตรการตรวจสอบอาวุธก่อนเข้าโรงเรียนอยู่แล้ว เป็นการตรวจสุ่ม ไม่ได้ตรวจ 100 เปอร์เซ็น คาดว่า เด็กน่าจะแอบนำอาวุธเข้ามา ดังนั้นจึงเป็นบทเรียนที่ กทม.จะต้องวางมาตรการป้องกัน และนำนักจิตวิทยา มาดูแลจิตใจของเด็กนักเรียนด้วย


ส่วนนักเรียนที่เสียชีวิต กทม.ได้ช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมจัดงานศพให้ และทางโรงเรียนได้ทำประกันชีวิตนักเรียนไว้ด้วย ต้องดูเงื่อนไขการจ่ายเงินอีกครั้ง แต่เงินเท่าไร ก็ทดแทนชีวิตที่เสียไปไม่ได้ แต่อย่างน้อย ก็ช่วยบรรเทาบางส่วน


สำหรับมาตรการดูแลความปลอดภัยโรงเรียน ผู้ว่าฯชัชชาติ บอกว่า การตรวจอาวุธจะต้องทำเข้มข้นมากขึ้น จะขอให้เทศกิจเข้ามาช่วยด้วย เพราะดูแลการจราจรอยู่แล้ว /โดยโรงเรียนในสังกัดกทม.ในระดับชั้น ม.6 มีเพียง 9 โรงเรียน ส่วนระดับชั้น ม.3 มีประมาณ 100 โรงเรียน /ขณะเดียวกันจะให้ความสำคัญด้านจิตใจ เพราะเด็กปัจจุบันมีความเครียดมากขึ้น


ผู้ว่าฯชัชชาติ กล่าวด้วยว่า ยังไม่มีข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุเป็นเด็กพิเศษ เพราะทางโรงเรียนยังไม่มีการยืนยัน จึงไม่อยากให้พูดกันไปเอง ทำให้เกิดความเข้าใจผิด เพราะเด็กพิเศษมีหลายรูปแบบ ดังนั้นเด็กที่ก่อเหตุ เป็นเด็กที่เรียนปกติ สำหรับประเด็นการบลูลี่นั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องรอการสืบสวนของตำรวจก่อน


ผู้ว่าฯกทม.ย้ำว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ว่าฯกทม.ต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นผู้กำหนดนโยบาย ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นทีมงาน เป็นผู้ที่รับนโยบายไปปฏิบัติ ดังนั้น ผู้ว่าฯกทม. และ รองฯผู้ว่าฯ ต้องรับผิดชอบ จากนี้ไปต้องสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นในทุกโรงเรียน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Atz_EaB-PGE