น้องๆ ต้มยำกุ้ง! ตลาดรถยนต์ทรุด ฉุดยอดขายดิ่ง ต้องปรับเป้าทั้งปีเหลือ 7 แสนคัน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เปิดเผยจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนพฤษภาคม มีทั้งสิ้น 126,161 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 16.19% จากการผลิตรถกระบะขายในประเทศ ที่ลดลงถึง 54.66% ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากยอดขายที่เดือนพฤษภาคมขายได้ 14,832 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 33.87%

ทำให้ เดือนกรกฎาคมนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์จะประชุม เพื่อพิจารณาปรับเป้าหมายการผลิตรถยนต์ของประเทศไทยในปีนี้

โดยเฉพาะการปรับเป้าหมายยอดขายในประเทศตลอดทั้งปีเหลือ 700,000 คัน จากเป้าหมายเดิม 750,000 คัน (ลดลง 50,000 คัน)

ขณะที่ เป้าหมายการส่งออกตั้งไว้ 1,150,000 คัน ยังมั่นใจว่าจะสามารถส่งออกได้ตามแผนที่กำหนดไว้ ทำให้ทั้งปี กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์คาดว่าจะผลิตรวม 1,850,000 คัน จากเดิมตั้งเป้าหมายการผลิต 1,900,000 คัน สาเหตุสำคัญมากจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศเปราะบาง กำลังซื้อในประเทศชะลอตัวลง

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อยู่ที่ 89,284 คัน เพิ่มขึ้น 3.39% เพราะมีรถยนต์ที่ยังไม่ได้ส่งออกเดือนเมษายน มาส่งออกเดือนพฤษภาคมแทน จึงส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย ตลาดออสเตรเลีย ตลาดตะวันออกกลาง ตลาดอเมริกาเหนือ ตลาดอเมริกากลาง และอเมริกาใต้

ขณะที่ ยอดส่งออกช่วง 5 เดือน (มกราคม-พฤษภาคม 2567) จำนวน 429,969 คัน ลดลง 2.28% โดยช่วง 5 เดือน (มกราคม-พฤษภาคม 2567) ไทยส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ รวม 431,950.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.95%.

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ด้านยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อยู่ที่ 49,871 คัน ลดลง 23.38% เพราะสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ จากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง เศรษฐกิจในประเทศขยายตัวต่ำจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ล่าช้า ทำให้การลงทุนของภาครัฐลดลง

นอกจากนี้ ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังลดลงติดต่อกันมากกว่า 10 เดือน เพราะโรงงานหลายแห่งลดเวลาทำงานลง ตลอดจนเลิกจ้างพนักงานหลายหมื่นคน ทำให้ขาดรายได้ ประชาชนจึงระมัดระวังการใช้จ่ายจากความไม่แน่นอนในเรื่องรายได้ แต่ค่าอาหาร ค่าเดินทาง และพลังงานราคาสูงขึ้น ขณะที่ยอดขาย 5 เดือน (มกราคม-พฤษภาคม 2567) จำนวน 260,365 คัน ลดลง 23.80%

นายสุรพงษ์กล่าวว่า สำหรับเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ยอดการผลิตรถยนต์อยู่ที่ 126,161 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเฉลี่ย 16.19% ลดลงจากการผลิตรถกระบะขายในประเทศ 54.66% และผลิตรถยนต์นั่งขายในประเทศลดลง 14.35% ตามยอดขายในประเทศที่ลดลงจากเศรษฐกิจในประเทศเติบโตอัตราต่ำและการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ไม่พร้อมเต็มที่ ขณะที่การผลิตรถยนต์ช่วง 5 เดือน (มกราคม-พฤษภาคม 2567) มีจำนวน 644,951 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 16.88%

คาดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 และงบประมาณปี 2568 ที่กำลังพิจารณาในสภา แต่เศรษฐกิจจะขยายตัวถึง 3% หรือไม่ ยังน่ากังวล ถ้ายอดผลิตรถยนต์และขายรถยนต์ และขายอสังหาริมทรัพย์ยังติดลบ เพราะทั้งสองอุตสาหกรรมมีอุตสาหกรรมต่อเนื่องและแรงงานมากซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศมา

การผลิตรถยนต์นั่งขายในประเทศลดลง 14.35% ตามยอดขายในประเทศที่ลดลง เพราะสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รวมทั้งเศรษฐกิจในประเทศขยายตัวในอัตราต่ำ จากการล่าช้าของงบประมาณปี 67 ทำให้การลงทุนของภาครัฐลดลง ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงติดต่อกันมากกว่าสิบเดือน โรงงานหลายแห่งลดเวลาทำงานลง และมีการเลิกจ้างพนักงานหลายหมื่นคน ทำให้ประชาชนขาดรายได้ และระมัดระวังการใช้จ่าย

ซึ่งน่ากังวล ถ้ายอดผลิตและขายรถยนต์ และยอดขายอสังหาริมทรัพย์ ยังติดลบ เพราะทั้งสองอุตสาหกรรม มีอุตสาหกรรมต่อเนื่อง และแรงงานจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศอย่างมาก อาจกำลังเป็นภาพสะท้อนบทเรียนคล้ายคลึงวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 2539

---------------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/MAA4FrNgIas