กสม.ลงพื้นที่หนองพะวา เร่งแก้ปัญหาสารเคมีโรงงานวินโพรเสส ระยอง ย้ำต้องไม่กระทบสิทธิบุคคลอื่น

วันนี้กรรมการสิทธิมนุษชนแห่งชาติ ลงพื้นที่บ้านหนองพะวา จ.ระยอง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่พบว่า คณะทำงานแก้ปัญหาของจังหวัดระยอง มีแผนที่จะใช้ที่ดินของนายเทียบ สมานมิตร ประมาณ 10 ไร่ เพื่อใช้เป็นที่กักเก็บน้ำเสียสารเคมีที่ถูกน้ำฝนชะล้างลงมา เพื่อไม่ให้กระทบต่อชุมชนหนองพะวา ซึ่งกรรมการสิทธิมนุษยชน เห็นว่าอาจละเมิดสิทธิ์เจ้าของที่ดิน พร้อมกันนี้ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องประชุมด่วน กระทั่งได้ข้อสรุปว่าจะไม่ใช้ที่ดินแปลงดังกล่าวของชาวบ้านแล้ว แต่จะเร่งดำเนินการแผนงานอื่นๆ แทน



รถแบคโฮ กำลังปรับหน้าดินเมื่อเช้านี้ บนที่ดินของนายเทียบ สมานมิตร ชาวบ้านหนองพวา ตำบลบางบุตร ซึ่งเป็นที่ติดโรงงานวินโพรเสส เพื่อเตรียมขุดบ่อดินใช้รองรับน้ำฝนที่จะชะล้างกากสารเคดี ป้องกันไม่ให้ไหลเข้าสู่ชุมชนแต่ต้องการกักไว้เพื่อรอนำไปบำบัด



นี่เป็นหนี่งในแผนงานของคณะทำงานฯ จังหวัด ที่หารือกันหลายฝ่ายว่าจำเป็นต้องใช้ที่ดินของนายเทียบเพื่อดำเนินการตามแผนดังกล่าว แต่เมื่อเช้านี้นายเทียบ มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล หลังจากได้ข้อมูลอีกด้านว่า การที่นายเทียบ ยินดีที่จะใช้ที่ดินของตัวเอง 10 ไร่เพื่อกักเก็บน้ำเสียไว้ไม้ให้กระทบชุมชนนั้น แท้จริงอาจไม่ทำให้ปัญหาเบาบางลง แต่อาจมีปัญหาอื่นๆตามมา ทั้งการรั่วไหล ปนเปื้อนเพิ่มขึ้น กลิ่นสารเคมีที่จะรุนแรงขึ้นและปัญหาว่าในอนาคตเขาอาจอยู่ในฐานะผู้ครอบครองกากสารเคมีหรือไม่ หากบ่อที่เขายอมให้ขุดนั้น เกิดพัง ทรุด และสร้างผลกระทบต่อชุมชนเพิ่มขึ้น



นายเทียบได้อธิบายเจตนาของต่อมูลนิธิบูรณนิเวศน์ และอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ พร้อมรับฟ้องข้อมูลอีกหลายด้าน เช่นเดียวกับที่กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่ลงมาพื้นที่ติดตามเรื่องนี้ ได้สอบถามข้อเท็จจริงทั้งจากนายเทียบ และจากมูลนิธิบูรณนิเวศน์ เพื่อหาข้อเท็จจริง กรณีที่คณะทำงานแก้ปัญหาของจังหวัด จะขอใช้ที่ดินของนายเทียบเพื่อขุดบ่อใช้รองรับน้ำปนเปื้อนจากโรงงานดังกล่าว



กรรมการสิทธิมนุษชนแห่งชาติระบุว่า พร้อมสนับสนุนการแก้ปัญหาดังกล่าวให้ชาวหนองพะวา แต่การแก้ปัญหานั้นต้องไม่กระทบสิทธิ์ผู้อื่นด้วย ช่วงบ่าย กรรมการสิทธิมนุษชน ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย หารือร่วมกันที่วัดหนองพะวา และได้ข้อสรุปว่าจะยกเลิกแผนงานที่จะใช้ที่ดินนายเทียบเป็นบ่อรับน้ำดังกล่าวและจะเร่งใช้มาตรการอื่นแทนเพื่อให้ทันก่อนฤดูน้ำหลาก ในเดือนกันยายน



นอกจากที่ประชุมมีมติยกเลิกการใช้ที่ดินนายเทียบเพื่อขุดบ่อแล้ว ยังมีมติร่วมกันให้ อบจ.ระยองทำแผน และงบประมาณสร้างบ่อรับน้ำเฉพาะในพื้นที่โรงงาน และแผนบายพาสน้ำ ไม่ให้ไหลผ่านโรงงานเพื่อไม่ให้ปนเปื้อนสารเคมี รวมถึงขยายบ่อเดิมที่มีในโรงงาน โดยนำดินบนเปื้อนไปบำบัดในบ่ออื่น แล้วปูแผ่นวัสดุกัมซึมบนบ่อที่ขุดปรับบ่อใหม่ ด้วยงบ อบจ.ระยอง ราว 8 ล้านบาท  พร้อมกับให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม ใช้งบประมาณที่จำเลยวางศาล ไปกำจัดน้ำในบ่อดำก่อน เพื่อ อบจ.จะรับช่วงวางแผนรองรับน้ำฝน



นอกจากนี้ยัง เสนอให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม เร่งนำสารเคมีที่ตกค้างในโรงงานไปกำจัดโดยเร็ว และให้กระทรวงสาธารณสุข ตรวจสุขภาพประชาชนในตำบลบางบุตร โดยรถโมบายเคลื่อนที่ และเสนอให้ตั้งคณะทำงานเพื่อกำกับดูแลการแก้ปัญหาดังกล่าว เพื่อให้ขับเคลื่อนไปในทิศทางที่เหมาะสม