อัยการมีนบุรี สั่งฟ้อง 4 ผู้ต้องหาคดีครอบครองปรปักษ์บ้านอากู๋ โดนฟ้อง 3 ข้อหา

ที่สำนักงานอัยการมีนบุรี พนักงานอัยการได้นัดหมายให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ในคดีอาญาที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีครอบครองปรปักษ์บุกรุกบ้านบ้านอากู๋ ประกอบไปด้วย น.ส.ศรีพรรณ สามัคคี, นางนิตยา สามัคคี , นายพลกฤษณ์ ทองคำ และนางมาลี ชินน้อย มาฟังคำสั่งว่า ทางพนักงานอัยการจะยื่นฟ้องต่อศาลอาญามีนบุรีในข้อหาร่วมกันบุกรุก ลักทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์หรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ น.ส.ภาณุมาศ สามัคคี หรือนุ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีนี้ ได้กระทำอัตวินิบาตกรรมหรือฆ่าตัวตาย เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ซึ่งทางพนักงานอัยการ ได้นัดหมายผู้ต้องหาทั้ง 4 พร้อมทนายความ มายังสำนักงานอัยการมีนบุรี ในเวลา 10:00 แต่ปรากฏว่า ผู้ต้องหาและทนาย ได้เดินทางมาพบกับพนักงานอัยการตั้งแต่เวลา 9:00 ที่ผ่านมา โดยทันทีที่ผู้ต้องหาเดินทางมาถึง ได้รีบเดินขึ้นไปบนอาคารทันที ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกับสื่อมวลชน โดยผู้ต้องหาแต่ละคนนั้นสวมหน้ากากอนามัย บางคนใส่แว่นดำ บางคนสวมหมวก

หลังจากใช้เวลาพบพนักงานอัยการประมาณ 20 นาที ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ได้เดินทางออกจากสำนักงานอัยการมีนบุรี เพื่อไปยังศาลอาญามีนบุรี โดยทั้งหมดปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆแก่สื่อมวลชน โดยมีสีหน้าที่เคร่งเครียดและเรียบเฉย

ด้าน นายสุรศักดิ์ ภู่นาค ทนายความของผู้ต้องหา ระบุกับสื่อมวลชนว่า คาดว่าวันนี้อัยการจะมีคำสั่งฟ้องในคดีนี้ซึ่งเป็นคดีอาญา โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้พยายามพูดคุยกับฝั่งคู่กรณีอย่างต่อเนื่อง โดยตอนนี้ยังไม่ขอระบุในส่วนของประเด็นลูกความของตนเองว่ายอมรับหรือปฏิเสธในข้อหา ยืนยันว่าต้องการที่จะพูดคุยเพื่อไม่ให้ทุกอย่างลุกลามบานปลาย ส่วนของ น.ส.ภาณุมาศ ผู้ต้องหาที่เสียชีวิตไปแล้ว ตนขอไม่พูด เพราะอาจจะกระทบต่อสภาพจิตใจของครอบครัว โดยยืนยันว่าทุกอย่างก็ต้องว่าไปตามขบวนการขั้นตอนขอกฎหมาย

นายอานนท์ จิตตกูล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี เปิดเผยว่า อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกคน ตามข้อกล่าวหาที่พนักงานสอบสวนมีการแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา คือบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ และลักทรัพย์ ส่วนผู้ต้องหาคนที่ 1 คือ น.ส.ภาณุมาศ ที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว ชุดพนักงานสอบสวนได้มีการยื่นใบมรณะบัตรและเอกสารให้อัยการตรวจสอบแล้ว จนมีคำสั่งให้ยุติการดำเนินคดีกับ น.ส.ภาณุมาศ

ซึ่งในชั้นพนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และในชั้นอัยการ ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ก็ไม่ได้มีการยื่นร้องขอความเป็นธรรมแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ผู้ต้องหามีสิทธิ์กลับคำให้การในชั้นศาล เพื่อสามารถเป็นเหตุบรรเทาโทษได้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา ในขณะเดียวกันฝั่งผู้เสียหายสามารถเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับบ้านร่วมกับพนักงานอัยการในคดีอาญาได้ นอกเหนือจากค่าเสียหายที่พนักงานอัยการได้ยื่นในสำนวนฟ้องแล้ว