ข่าวโซเชียล

เปิดแชท 'เลขา ต.' คุย 'คุณนาย' บอกมีค่าเคลียร์นักข่าว - ทนายกรมการข้าวหวั่น ฝ่ายการเมืองช่วย จ. รับโทษน้อยลง

โดย petchpawee_k

30 ม.ค. 2567

211 views

เปิดแชทเลขา ต. คุย “คุณนาย” บอกมีค่าเคลียร์นักข่าว - ทนายอธิบดีกรมการข้าวหวั่น ฝ่ายการเมืองช่วยเหลือ จ. รับโทษน้อยลง ด้านทนายอธิบดีกรมการข้าว หวั่น ฝ่ายการเมืองช่วยเหลือ จ. พ้นสถานะ จนท.รัฐ เพื่อรับโทษน้อยลง - พร้อมฝากถึงแก๊ง “ศ.ต.จ.” ถ้าบริสุทธิ์ก็เปิดหน้าท้าชน


กรณีที่ตำรวจ 4 ป. บุกรวบนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน หลังร่วมกับ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) และ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรค รทสช. ข่มขู่อธิบดีกรมการข้าวโดยเรียกเงิน 3 ล้านบาท ก่อนเจรจาต่อรองเหลือ 1.5 ล้านบาท แลกกับการยุติเรื่องร้องเรียนโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการปลูกข้าว และโครงการปรับปรุงการผลิตสำหรับผู้ปลูกข้าว โดยอ้างว่าพบข้อพิรุธที่ส่อไปในทางทุจริต


ล่าสุดสังคมมองว่าเรื่องนี้ทำเป็นขบวนการ และมีประเด็นใหม่ที่โผล่เข้ามาคือมีกระแสข่าวว่านักข่าวมีเอี่ยวในขบวนการนี้ด้วยโดยที่ไปที่มา สืบเนื่องจากมีแชทข้อความการพูดคุยระหว่างเลขา ต. กับ ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว ถึงการเรียกเงิน แล้วพบ มีการระบุว่าต้องเคลียร์เงินให้กับนักข่าวเพื่อปิดข่าว


เรื่องนี้เริ่มต้นจาก เลขา ต. คุยกับ ภรรยาอธิบดีกรมการข้าวถึงเรื่องเงินที่ต้องจ่าย แชทแรก ระบุว่า “ ตอนแรกเราตกลงกัน 1,500,000 - 100,000 แต่ตอนนี้สรุปพี่ให้มา 60,000


พวกเด็กๆเล็กๆน้อยๆมันกลัวไม่ถึงกันหนูถึงบอกพี่ติ๋ม ปิดที่เหลือ 40,000 ไปก่อนแล้วเงินสดที่เหลือ  1,400,000 ไปให้แกเลยค่ะ ทุกอย่างตามตกลงแล้วจะได้ไม่มีใครงอแงค่ะพี่

จากนั้น เลขา ต. บอกต่อว่า “หนูบอกไปแล้วค่ะแต่กลัวคุ้มไม่อยู่ก็เลยคิดว่าพี่ติ๋มปิดไปก่อนดีกว่าทีมเอกสารเค้าต้องเคลียร์พวกนักข่าวที่คอยปล่อยข่าวกันด้วยค่ะ


จากนั้นภรรยาอธิบดีกรมการข้าว ตอบกลับว่า “นักข่าวก็เกินไปน้อ” เลขา ต. จึงตอบกลับว่า “เค้าเอาหมดแหละพี่ จาก 10,000-20,000 โวยวายละ”


จากนั้นภรรยาอธิบดีกรมการข้าว จึงตอบกลับว่า “แสดงว่านักข่าวใช้เงินให้ออกข่าวได้และปิดข่าวก็ได้หรือคะ?” เลขา ต. ตอบว่า “แต่เท่าที่ผ่านมาถ้าปิดจบคือจบค่ะแต่พอเราปิดไม่ครบส่วน มันก็จะงอแง”


ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว จึงตอบกลับว่า “ สรุปว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นถ้าปิดจบพี่เจ๋งเคลียร์ได้หมดทุกอย่างทุกทีมใช่ไหมคะ?”  เลขา ต. จึงตอบว่า “ใช่ค่า”


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าหลังจากนั้นภรรยาอธิบดีกรมการข้าว ได้ส่งภาพนักข่าวคนหนึ่งไปหาเลขา ต. และถามว่า “น้องคะ รบกวนถามค่ะ พี่ศรีสุวรรณกับพี่เจ๋งรู้จักคนนี้ไหมคะ”  ซึ่งเลขา ต. ก็ตอบกลับไปว่า “รู้ค่า แกเป็นนักข่าว”

ต่อมาทีมข่าวสอบถามไปยังทนายดนุเดช ถึงประเด็นดังกล่าว ทนายดนุเดช บอกว่า เท่าที่ทราบไม่มีนักข่าวขู่เอาเงิน แต่รู้แค่ว่าน่าจะมีนักข่าวอยู่คนหนึ่ง ที่มีอายุแล้ว และไม่ใช่สื่อหลัก อยู่ในชุดของ นักการเมือง ป. รู้จักกัน และเชื่อมโยงกัน ส่วนเรื่องการขู่เอาเงิน ยืนยันว่าไม่มี

------------------

ขณะที่วานนี้ ทนายดนุเดช ศิริวงษ์ตระกุล ที่ปรึกษากฎหมายนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว  เปิดเผยหลังจากให้หลักฐานคลิปเสียงเพิ่มเติมกับทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ โดยยืนยันว่า จากคลิปเสียงทั้งหมด เป็นสิ่งที่เราพยายามรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะดูแล้วว่าพฤติกรรมขอคนพวกนี้ทำความเสียหายให้กับสังคมทำยังไง และต้องหาทางเปิดโปงพฤติกรรมของคนพวกนี้ออกมา พร้อมยืนยันว่ามีหลักฐานทุกอย่างสำหรับการโอนเงินไปให้อีกฝ่าย


เมื่อถามถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ อ้างว่าไม่ทราบเรื่องเงิน มองอย่างไรบ้าง ทนายดนุเดช กล่าวว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมีหลักฐานในตัวอยู่แล้ว เขาพูดได้ เพราะตามกฎหมายตอนนี้ถือเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ว่าตนในฐานะทนายความมองว่าเรื่องนี้ทำเป็นขั้นเป็นตอน มีการแบ่งหน้าที่กันทำ


ส่วนกรณีที่ทั้งแก๊ง ปฏิเสธข้อกล่าวหา อุบตอบประเด็นสำคัญ และให้แก้ข้อกล่าวหาเป็นเอกสารใน 15 วัน เรื่องนี้ ทนายดนุเดช บอกว่า เป็นผลทางกฎหมาย เป็นสิทธิพื้นฐานอยู่แล้ว  แต่เราในฐานะทนายความเรารู้ว่าจะแก้ตรงไหนอย่างไร แต่พฤติการณ์ การกระทำตามพยานหลักฐานของเขาทั้ง ศ. จ. และ ต. ล้วนแล้วแต่มีพยานหลักญานผูกมัดต่อเนื่องกันมาตลอด


ทนายดนุเดช กล่าวต่อว่า หลักจากจับกุมผู้กระทำได้วันที่ 26 ม.ค.67 มีทางนักการเมืองที่มีอำนาจแต่งตั้งถอนถอนนาย จ. และ เลขา ต. ออกมาพูดว่าได้ยกเลิกแต่งตั้งคำสั่งแต่งตั้งนาย จ. และไม่มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐตั้งแต่เดือนธันวาคมแล้ว  ทั้งๆที่คำสั่งแต่งตั้งลงวันที่ 15 พ.ย.66 แล้วยกเลิก ธ.ค.66 แล้วคุณแต่งตั้งมาทำไม 10 กว่าวัน แต่งตั้งมาเพื่ออะไร ตรงนี้ตนอยากให้สังคมเฝ้าติดตามว่านี่แหละนักการเมือง ส่วนผิดหรือถูกอย่างไร


ทนายดนุเดช บอกว่า ที่กังวลเพราะเกรงว่า อาจมีฝ่ายการเมืองเข้ามาช่วยเหลือ เพราะหากถ้า นาย จ. ไม่มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ อาจจะได้รับโทษน้อยลง นับเป็นช่องว่างเกี่ยวทางคดี ทั้งการสอบสวน ตำรวจ ปปป.จะไม่มีอำนาจเลย และการรับโทษ จากความผิดฐาน "เจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์" อัตราโทษจุกคุกตลอดชีวิตก็จะเหลือ "กรรโชกทรัพย์" มีโทษจำคุก 5  ปี ส่วนผู้ร่วมกระทำความผิดก็จะได้รับโทษเพียงแค่ มาตรา 83 ร่วมกันกระทำความผิด


ทนายดนุเดช ยังบอกอีกว่า ตอนนี้ทางอธิบดีกรมการข้าวและภรรยา ก็กังวลใจเพราะมีผู้หลักผู้ใหญ่โทรมาบอกว่าให้ทนายความเบาๆหน่อย แต่ตนในฐานะทนายความไม่ได้ไปกลั่นแกล้งใคร ซี่งตนมีหลักฐาน  และตนอยากให้สังคมรับรู้ว่าเราไม่ได้กลั่นแกล้ง แล้วถ้าเราไม่เปิดหลักฐานออกมา สังตมจะตั้งข้อครหา เราจึงเปิดหลักฐานเท่าที่เราสามารถเปิดได้ แต่ส่วนหนึ่งก็ไม่อยากให้ไปกระทบต่อการสอบสวนของเจ้าหน้าที่

ทนายดนุเดช บอกว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ว่าคนที่เคยมีอำนาจ เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องระดับชาติ และพยายามให้ทนายความหยุด แต่ยืนยันว่าตนหยุดไม่ได้ แต่ได้บอกทางอธิบดีกรมการข้าวไปแล้วว่าถ้าไม่สบายใจให้ถอดถอนได้ ตนไม่ว่า แต่ตอนนี้ทำตามหน้าที่และอยากให้คดีเป็นไปตามที่ตั้งไว้ แต่ถ้ากลัวแล้วคุณจะตอบสังคมอย่างไร ส่วนหนึ่งสังคมก็อยากเห็นว่า ทนายน้อย  อธิบดีกรมการข้าวและภรรยา รวมทั้ง รองเต่าฯและตำรวจ ต้องการอยากให้สังคมเห็นว่าเรามีหลักฐานว่าไม่ได้กลั่นแกล้งจากการกล่าวอ้างของอีกฝั่งว่าถูกกลั้นแกล้ง ก่อนจะยืนยันว่าทั้งหมดนี้คือหลักฐานเพียงส่วนหนึ่งให้สังคมได้รู้ว่าเป็นอย่างไร กลั้นแกล้งหรือไม่ ซึ่งสังคมจะรู้ได้เอง


ช่วงท้ายทนายดนุเดช ยืนยันว่า ผู้ใหญ่ที่ว่า คือ นักการเมือง อักษรย่อ ป. พร้อมบอกว่าจากพยานหลักฐาน พบว่านักการเมือง ป. ที่เคยมีอำนาจ มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องรู้จักกันมาก่อนกับ จ. เมื่อก่อนมีอำนาจ ตนดูจากบัตรสนเทห์ก็รู้ได้ว่ามันเชื่อมโยงกันหมด


ส่วนกรณีที่มีคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง ภรรยาอธิบดีกรมการข้าว และ นาย จ.  ซึ่งนาย จ. มีการอ้างร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ทราบเรื่องรีดทรัพย์ เรื่องนี้ ทนายดนุเดช ระบุว่า คลิปเสียงอาจจะพูด แต่ความเป็นจริงคิดว่าไม่ได้มาเกี่ยวข้อง แต่คนพูดอาจจะอ้างและพูดเลยเถิดไป และในฐานะที่เป็นนักกฎหมายมองว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง


ช่วงท้าย ทนายดนุเดช ฝากถึง คุณ ศ. คุณ ต. และ คุณ จ. ว่า “ผมไม่มีเหตุกดเครื่องและไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ผมไม่มีเหตุใดที่ต้องไปกลั่นแกล้ง  รวมทั้งท่านอธิบดีกรมการข้าวและภรรยา  พฤติการณ์ที่ท่านทำท่านรู้อยู่แก่ใจของท่านดี ด้วยพยานหลักฐานคลิปเสียงต่างๆมันบ่งบอกในตัวอยู่แล้ว ไม่มีใครไปกลั่นแกล้งเลย เพราะว่าคุณต้องการแบบนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามผลขอกฎหมาย”


เมื่อถามว่าอยากให้แก๊งนี้ออกมาเปิดหน้าชนกันเลยหรือไม่ ทนายดนุเดช กล่าวว่า ฝั่งเราออกมาพูดให้สังคมได้รู้ แต่ฝั่งคุณที่ว่าบริสุทธิ์ พอนักข่าวถามแล้วคุณก็ปิดโทรศัพท์หนี แบบนี้ก็ให้สังคมคิดเอาครับ”


ก่อนจะย้ำว่า มีหลักฐานผูกมัดตัวละครทุกตัว ผมเป็นทนายความรู้ว่าจะไปลักษณะไหนอย่างไร ตอนนี้มีการพยายามจะแก้ว่าได้เพิกถอนคำสั่งแต่ตั้งแล้ว นั่นคือการพยายามออกมาแก้และหาทางหนีทีไร่ไม่ให้เป็น จนท.ของรัฐ


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/hHVDqqBVH0c


คุณอาจสนใจ

Related News