สังคม

ตร.ลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังนักธุรกิจสาวร้อง ถูกเจ้าหนี้ดอกโหด ขู่ทำร้ายร่างกาย-เอาชีวิตครอบครัว

โดย weerawit_c

7 ม.ค. 2567

96 views

วานนี้ (6 ม.ค.) นางสาวอุไรวรรณ อาษาอุทัย อายุ 40 ปี นักธุรกิจค้าสัตว์ส่งออกประเทศอเมริกา ร้องเรียนนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย กรณีถูกเจ้าหนี้เงินกู้ดอกโหด ในพื้นที่ จ.อุทัยธานี ข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย เอาชีวิตครอบครัว

นางอุไรวรรณ เล่าว่า เมื่อ 26 กันยายน 2566 ได้ไปกู้เงินกับนายยะ ในพื้นที่ จ.อุทัยธานี จากการแนะนำของญาติ โดยมีการกู้ในลักษณะหลายสัญญา ทั้งส่งเอกรายสิบวัน/เจ็ดวัน/ห้าวัน รวมทั้งรายวัน รวมยอดเงินต้นเป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท ส่งดอกวันละ 3,500 บาท ที่ผ่านมา มีการส่งออกระยะ 3 เดือน รวมเป็นเงินกว่า 940,000 บาท แต่ที่ผ่านมา 2-3 วัน ตัวเองยอมรับว่าขาดส่งกับเจ้าหนี้ ทำให้นายยะโทรข่มขู่ เอาชีวิตครอบครัว


บางช่วงนางสาวอุไรวรรณ ได้โทรติดต่อไปยังปลายสาย ที่ชื่อนายยะ และได้เจรจา ก็ยังมีการข่มขู่ ว่า “กูกำลังจะเข้าไปบ้านมึง จะไม่ทำอะไร แค่จะไปคุยกับญาติ” ทำให้นางสาวอุไรวรรณ รู้สึกสะเทือนใจ ร้องขอ ว่าอย่าเข้าไปเนื่องจากพ่อแม่อายุมาก กลัวไม่สบายใจ และยินดี จะชดใช้หนี้ ซึ่งที่ผ่านมา ได้ส่งดอกมาโดยตลอด แต่ยอมรับว่าช่วงนี้เงินหมุนไม่ทัน ทำให้ปลายสาย คือนายยะ ใช้น้ำเสียง ใช้วาจาไม่สุภาพ ไม่ยอม ก่อนที่นางสาวอุไรวรรณ จะวางสายไป


นางสาวอุไรวรรณ ยังเล่าว่า ที่ผ่านมามีการร้องเรียนไปที่ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรสงมหาดไทย แต่เรื่องยังเงียบ ยังไม่ได้รับการติดต่อ รวมทั้งขณะนี้ ยังไม่ทราบ รัฐบาลมีโครงการให้ลูกหนี้นอกระบบ เข้ามาขึ้นทะเบียนในระบบ เพื่อไกล่เกลี่ยหนี้ พร้อมย้ำว่า ตนเองยินดีชดใช้หนี้ แต่รับไม่ได้กับการถูกข่มขู่ เอาชีวิตครอบครัว แต่หากไม่สามารถแก้ปัญหาตัวเองก็พร้อมยอมตาย


ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ได้ประสานไปยังหัวหน้าคณะทำงานนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ที่รับผิดชอบดูแลในพื้นที่ จ.อุทัยฯ ว่าจะไปแก้ไขปัญหา เบื้องต้น ที่ตรวจสอบ ผู้เสียหายจ่ายดอกเบี้ยเกินเงินต้นไปกว่า 5 เท่า ในระยะเวลาสามเดือน ซึ่งตามเงื่อนไข จ่ายหนี้ของรัฐบาลลูกหนี้ ควรหยุดชำระแล้ว


ส่วนกรณีการข่มขู่ ทำร้าย จะพาผู้เสียหายไปแจ้งความ ดำเนินคดี กับเจ้าหนี้รายนี้ และจากการตรรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหนี้รายนี้ ปล่อยเงินกู้เกินกฎหมายกำหนด หากตรวจสอบพบเข้าข่ายมูลฐานความผิดฟอกเงิน จะเข้าข่ายการเงินทรัพย์


วันนี้ ( 7 ม.ค. ) เวลา 08.40 น. พ.ต.อ.ภาคิน วรรณศรี ผกก.สภ.หนองฉาง พร้อมด้วยกำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี และนายบำรุง วงษ์ปาน กำนัน ตำบลหนองนางนวล ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่บ้านของครอบครัว นางสาวอุไรวรรณ อาษาอุทัย อายุ 40 ปี นักธุรกิจค้าสัตว์ส่งออกประเทศอเมริกา ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านหนองขุนทอง หมู่ที่ 1 ตำบลหนองนางนวล อำเภอหนองฉาง จังหวัด อุทัยธานี ภายหลังได้ร้องเพจสายไหมต้องรอด หลังจากที่เธอนั้นเป็นหนี้นอกระบบจากชายคนหนึ่งชื่อว่านายยะ ไปเมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา โดยมีการทำสัญญากันหลายฉบับ ทั้งส่งดอกรายวัน รายห้าวัน รายเจ็ดวัน และรายสิบวัน รวมเป็นยอดเงินต้นจำนวน 200,000 บาท โดยต้องจ่ายดอกเบี้ยวันละ 3,500 บาท รวมระยะเวลาประมาณ 3 เดือน จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ครั้งนี้ไปแล้ว 940,000 บาท


แต่ตอนนี้ทุกข์ใจมาก เนื่องจากถูกข่มขู่เอาชีวิตคนในครอบครัว หลังเจ้าตัวขาดส่งเงินค่าดอกเบี้ยรายวันมา 3 วัน ซ้ำเจ้าตัวยังได้ยืนยันว่า ก่อนหน้านี้ได้ติดต่อไปที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ จึงทำให้ต้องมาร้องผ่านเพจสายไหมต้องรอด โดยได้พบ พ่อ พี่ชาย และลูกสาวอยู่ที่บ้าน


พ.ต.อ.ภคิน วรรณศรี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองฉาง กล่าวว่า ก่อนหน้าที่ตนเองได้ทราบเรื่องดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่งก็ที่ยังไม่เป็นข่าวผ่านจากการประสานของคณะทำงานของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ซึ่งตอนนั้นก็ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่มาตรวจสอบทันที ซึ่งผลปรากฏ ตอนนั้นไม่มีใครมาที่บ้านแต่มีคนมาถามหาตัวผู้กู้ในพื้นที่จริง


โดยหลังจากที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น ทางตนเองและเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ก็ได้ลงพื้นที่กันอีกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลกับทาง กำนัน จากทางพ่อ พี่ชาย และลูกสาวของผู้แจ้ง ซึ่งทั้งหมดนั้นให้ข้อมูลตรงกันว่า ตอนนี้ยังไม่ทีใครโทรศัพท์ หรือมาที่บ้านเพื่อข่มขู่ เอาเงินแต่อย่างใด แต่หากว่ามีใคร หรือคนแปลกหน้าเข้ามาพบและไม่รู้จัก ให้โทรศัพท์แจ้ง 191 ทันที่ เพื่อที่จะส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลความปลอดภัย รวมถึงมีเจ้าหน้าที่สายตรวจตำบลเข้ามาสังเกตการณ์ด้วย ส่วนฝั่งตัวผู้แจ้งนั้นทราบว่า ไปทำงานที่กรุงเทพฯ


ซึ่งการกู้ยืมเงินดังกล่าวนั้นยังไม่ทราบว่าเหมือนกันว่ากู้ยืมกันที่ไหน ส่วนในเรื่องของความปลอดภัยนั้น ตอนนี้ได้แจ้งกับครอบครัวไปแล้วว่า หากมีการข่มขู่เกิดขึ้นไม่ว่าทางใดก็ตาม ให้รีบแจ้งกับทางกำนัน หรือทางตำรวจเลยทันที ซึ่งตอนนี้ทาง สภ.หนองฉางนั้น ก็ได้จัดให้ทางชุดสายตรวจตำบลเข้ามาดูแลความปลอดภัยให้กับครอบครัวไปจนกว่าเรื่องจะคลี่คลาย ผกก.สภ.หนองฉาง กล่าว


ด้าน นายบำรุง วงษ์ปาน กำนัน ตำบลหนองนางนวล เปิดเผยว่า นางสาวกุมภารัตน์ฯนั้น เป็นคนในพื้นที่จริง แต่ไม่ได้อยู่ที่นี่มานานกว่า 3 ปีแล้ว ทราบว่าไปทำธุรกิจส่งออกสัตว์อยู่ที่กรุงเทพ ฯ ซึ่งหลังจากที่ตนเองและตำรวจได้ลงพื้นที่พูดคุยกับครอบครัวของ นางสาวกุมภารัตน์ฯแล้วนั้น ทางครอบครัว ก็ได้ให้ข้อมูลว่าตอนนี้ยังไม่มีใครโทรศัพท์ หรือเข้ามาข่มขู่แต่อย่างใด แต่ทราบจากร้านค้าในหมู่บ้านทั้ง 2 ร้านมาว่ามีคนมาสอบถามบ้านของ นางสาวกุมภารัตน์ฯ อยู่ด้วยเหมือนกัน ก่อนหน้าทางพี่ชายของ นางสาวกุมภารัตน์ฯ ก็เคยมาหยิบยืมเงินส่งไปให้น้องสาวใช้หนี้อยู่ด้วยเหมือนกัน แต่ส่วนตัวไม่ค่อยไปพบเจอหรือพูดคุยกับ นางสาวกุมภารัตน์ฯ เนื่องจากเจ้าตัวนั้นไม่ค่อยได้อยู่ที่บ้านหลังนี้ แต่ว่าชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านที่นี่


ส่วนนางสาวกุมภารัตน์ อาสา ลูกสาวของผู้ร้องเรียน ได้เล่าว่า ตนเองนั้นพอจะทราบเรื่องที่แม่นั้นเป็นหนี้เงินกู้นอกระบบอยู่บ้าง วันที่แม่ไปร้องเพจสายไหมนั้นตนเองก็ทราบเรื่องด้วยเหมือนกัน ซึ่งเหตุผลที่แท่ไปนั้นน่าจะเป็นเพราะเป็นห่วง ตา (พ่อของแม่) เพราะกลัวว่าคนที่ปล่อยเงินกู้นั้นจะมาตามทวงเงินที่บ้านตามที่บอกจริง เพราะแม้นั้นได้เล่าว่า ถูกคนปล่อยเงินกู้รายนี้ข่มคู่ว่าจะมาเผาบ้านบ้าง จะฆ่าทั้งบ้านบ้าง จึงน่าจะทำให้แม่รู้สึกกลัว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีใครมาที่บ้าน


แต่เมื่อวานนี้มีคนบอกว่า มีคนมาที่บ้านแต่ตนเองนั้นไม่อยู่บ้านจึงไม่รู้ว่าใครมา แต่มีคนโทรศัพท์มาาอบถามตนเองเหมือนกันว่าบ้านอยู่ที่ไหน ซึ่งตนเองก็บอกไปว่าบ้านอยู่หนองนางนวล ส่วนตัวแม่นั้นยอมรับเป็นหนี้บ่อยครั้งจริง เพราะทางน้าชาย (พี่ชายของแม่) ก็เคยไปหาหยิบยืมจากคนในหมู่บ้านเพื่อช่วยใช้หนี้ให้กับแม่อยู่บ่อยครั้งแล้วด้วยเหมือนกัน


ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/fwi6VT8ljy8

คุณอาจสนใจ

Related News