สังคม

เตรียมดำเนินคดีนักธุรกิจสาวถีบหน้ารองผกก. พบถูกเป่าเมาคาด่านเดิมซ้ำรอยสองปีก่อน

โดย gamonthip_s

26 เม.ย. 2567

1.4K views

จากกรณีช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 23 ต่อเนื่องวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา เกิดเหตุผู้บริหารหญิงวัย 51 ปี เมาสุราขับขี่รถยนต์เข้าด่านตรวจ ย่านเลียบถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ ในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.ประเวศ โดยด่านดังกล่าวเป็นด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ของกองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจจราจร ซึ่งเหตุการณ์บานปลายจนมีการคุมตัวไปดำเนินคดี ที่สน.ประเวศ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ และมีการขัดขืนการคุมตัว จนมีการใช้เท้าถีบใบหน้ารองผู้กำกับการ 5 บก.จร. คนหนึ่งที่ทำหน้าที่ควบคุมเหตุการณ์ และเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ร่วมคุมตัวผู้ก่อเหตุรายนี้



พันตำรวจเอกสุรพงษ์ พุฒขาว ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลประเวศ ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ ตำรวจกองบังคับการจราจร มีการตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอลฮลล์ ที่บริเวณถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ ก่อนเข้าซอยทางลัดออกซอยกรุงเทพกรีฑา ซอย 8 ซึ่งขณะนั้นเวลาประมาณ 00.30 ของเช้าวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา



ผู้ก่อเหตุได้ขับรถเบนซ์สีดำ เข้ามาที่ด่านตรวจ และตำรวจบก.จร. ได้มีการเรียกตรวจตามขั้นตอน ซึ่งในตอนแรกก็มีการยินยอมให้ตรวจวัดตามปกติ จนผลการตรวจวัดพบมีปริมาณแอลกอลฮอลล์สูงถึง 104 มิลกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงมีการนำตัวไปส่งสน.ประเวศ เพื่อดำเนินคดี แต่ผู้ก่อเหตุเริ่มไม่ให้ความร่วมมือ จึงมีความจำเป็นต้องคุมตัวขึ้นรถไป ส่งสน.ประเวศ ซึ่งขณะนำตัวขึ้นรถเป็นช่วงการคุมตัวขึ้นที่เบาะหลังของรถตำรวจ และขณะที่ตัวผู้ก่อเหตุขึ้นรถไปแล้ว ช่วงขาของผู้ก่อเหตุอยู่นอกรถ ตัวรองผู้กำกับ บก.จร. ได้มีการพยายามรวบขาของผู้ก่อเหตุขึ้นรถ เพื่อเดินทาง แต่เป็นจังหวะที่ต้องมีการปล่อยมือเพื่อปิดประตูรถ ผู้ก่อเหตุได้ชักเท้าออกและถีบในลักษณะยันต์เข้าบริเวณใบหน้าด้านขวา ต่อเนื่องกับช่วงหมวกกันน็อก ทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าเล็กน้อย



ซึ่งเมื่อการเดินทางมาถึงที่ สน. ประเวศ เป็นที่เรียบร้อย ผู้ก่อเหตุได้มีการให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยยินยอมรับทราบข้อกล่าวหาในเรื่องการดื่มสุราแล้วขับรถ แต่ในส่วนข้อหาการทำร้ายร่างกายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานผู้ก่อเหตุปฏิเสธและไม่ขอปากคำใด ๆ ในประเด็นนี้ โดยแจ้งว่าจะมีการประสานทนายความที่ไว้วางใจเดินทางเข้ามาให้ปากคำกับทางตำรวจอีกครั้ง ซึ่งเบื้องต้นมีการนัดหมายกันเป็นทางลับว่าจะเป็นวันพรุ่งนี้



ทีมข่าวช่อง 3 ยังได้ตรวจสอบประวัติการถูกดำเนินคดีในข้อหาเมาแล้วขับของผู้ก่อเหตุรายนี้ พบว่ามีประวัติการถูกจับกุมและดำเนินคดีในข้อหาเมาแล้วขับในวันที่ 17 สิงหาคม 2565 เวลา 4 ทุ่ม นั้นมีการถูกดำเนินคดี และศาลลงโทษรอลงอาญาเป็นเวลาสองปี โดยการจับกุมดังกล่าวเป็นการจับกุมในพื้นที่ใกล้กับจุดเกิดเหตุครั้ง และตำรวจที่เป็นผู้จับกุมเป็นตำรวจจาก กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจจราจรเช่นเดียวกันกับครั้งนี้



ส่วนตัวพันตำรวจโทดาราธร ขจรศิลป์ รอง ผกก.5 ตำรวจสน. ประเวศจะมีการเชิญตัวมาให้ปากคำในรายละเอียดอีกครั้งแต่ในวันเกิดเหตุ ตัวนายตำรวจคนดังกล่าวได้มีการให้ข้อมูล และมีการส่งมอบบันทึกจับกุม ให้กับทางพนักงานสอบสวนสน.ประเวศเป็นที่เรียบร้อยเพราะคดีดังกล่าวเป็นการจับกุมซึ่งหน้า ซึ่งมีการบันทึกจับกุมผู้ก่อเหตุในครั้งนี้เอาไว้อย่างละเอียดชัดเจนสามารถใช้ประกอบสำนวนคดีได้ ทั้ง 3 ข้อหา



ขณะที่พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร รรท.ผบ.ตร. ยอมรับว่า ในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานกรณีผู้บริหารหญิงวัย 51 ของเว็บไซต์ชื่อดังระดับโลก เมาแล้วขับ ถูกตำรวจบก.จร.จับกุมที่บริเวณมอเตอร์เวย์ขาเข้า ก่อนส่งตัวพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลประเวศ แต่ในระหว่างนั้น ผู้ถูกกล่าวหามีการใช้คำหยาบด่าทอเจ้าหน้าที่ รวมทั้งมีการใช้เท้าถีบบริเวณใบหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับรองผู้กำกับได้รับบาดเจ็บ




ซึ่งเบื้องต้นตำรวจก็ได้แจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ ส่วนข้อหาทำร้ายร่างกายผู้ถูกกล่าวหาปฏิเสธ ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อที่จะเอาผิดกรณีทำร้ายร่างกายดังกล่าว



แต่ในส่วนของหลักกฎหมาย หากผู้ใดที่ได้มีการกระทำความผิดต่อเจ้าหน้าที่ในระหว่างปฎิบัติหน้าที่ ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไม่ละเว้น ส่วนจะดำเนินคดีในฐานความผิดใดตำรวจพื้นที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอน



อีกทั้งในเรื่องกรณีดังกล่าวจะเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมาหรือไม่ หรือว่าเกิดเมื่อคืนตนยังไม่ได้ได้รับรายงานแต่อย่างใด

คุณอาจสนใจ