เลือกตั้งและการเมือง

'ฝ่ายค้าน' ซ้อมอภิปราย 2 วัน 2 คืน เตรียมเชือดรัฐบาล วันอภิปรายร่างงบประมาณปี 67

โดย nattachat_c

3 ม.ค. 2567

29 views

เมื่อวานนี้  (2 ม.ค.67)  ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร  เปิดเผยถึงกรอบเวลาการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ว่ารองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง  ได้เชิญแต่ละฝ่ายได้หารือแล้ว 4 ฝ่าย  คือ ผู้แทนคณะรัฐมนตรี ผู้นำฝ่ายค้าน วิปฝ่ายค้าน และวิปรัฐบาลได้ตกลงกันแล้ว เพื่อตกลงกรอบเวลาระหว่างวันที่ 3-5 มกราคมนี้  และเชื่อมั่นว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะได้ใช้เวลาการอภิปรายร่างกฎหมายงบประมาณตามสาระสำคัญเพื่อประโยชน์ของประชาชน และจะใช้เวลาทั้ง 3 วันให้เป็นประโยชน์ที่สุด ซึ่งจะได้เห็นการพัฒนาการอภิปรายรูปแบบใหม่ที่ฝ่ายค้านและรัฐบาลตั้งใจทำเพื่อเป็นประโยชน์


เมื่อถามว่าในการอภิปรายสามารถอ้างอิงกล่าวถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่นั้น ประธานรัฐสภากล่าวว่า  การอภิปรายเรื่องงบประมาณ หากไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นงบประมาณ ก็จะไปเป็นเรื่องญัตติกระทู้หรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยในการอภิปราย 3 วันเป็นเฉพาะเรื่องงบประมาณ 2567 เชื่อว่าทุกคนจะทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ไม่ได้กำชับเป็นพิเศษ

------------

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 มกราคม 2567 ที่อาคารรัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล เป็นประธานการประชุมวิปรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 3-5 มกราคม โดย นายวิสุทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลไม่กังวลการพิจารณางบประมาณในครั้งนี้ รัฐมนตรีทุกคนเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี มีการเตรียมข้อมูลที่คาดว่าจะถูกอภิปรายมาชี้แจง ซึ่ง ส.ส.เพื่อไทยรุ่นใหม่ให้ความสนใจการอภิปรายครั้งนี้อย่างมาก เชื่อว่าการประชุมจะเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาเกิดขึ้น


นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายโยงไปถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในระหว่างการอภิปรายงบประมาณในส่วนของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมนั้น โดยหลักการไม่ควรไปแตะต้องบุคคลภายนอก เพราะเป็นผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดทำงบประมาณ ฝ่ายค้านไม่ควรเอาการเมืองมาเล่นในสภา เพราะยังไม่ถึงเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หากไปพาดพิงถึงบุคคลภายนอก อาจไม่ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองในสภา และอาจถูกฟ้องกลับได้ แต่หากมีการพาดพิงมาถึงนายทักษิณ รัฐบาลก็พร้อมจะชี้แจงว่าระเบียบของกรมราชทัณฑ์ฉบับใหม่ในเรื่องการคุมขังนักโทษนอกเรือนจำได้ออกมาตั้งแต่ปี 2563 เป็นเรื่องที่นักโทษทุกคนได้ประโยชน์ทั้งหมด ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใครคนใดคนหนึ่ง หากต้องยกเลิกระเบียบดังกล่าวก็จะเป็นผลเสียต่อนักโทษทั้งหมด
------------

เมื่อวานนี้  (2 ม.ค.67)  ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน  (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ในการประชุมวิปฝ่ายค้าน วานนี้ (2 ม.ค.67)  ได้เชิญ 3 หน่วยงานได้แก่ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สภาพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจแห่งชาติ(สศช.) มาชี้แจงถึงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2567 มีสาระสำคัญอย่างไร และมีเหตุผลการปรับเปลี่ยนงบประมาณด้านต่างๆ อย่างไร  ส่วนที่ฝ่ายรัฐบาลขอให้การอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณครั้งนี้ไม่ให้โยงถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น คิดว่าไม่เกี่ยวข้องอะไร สส.ทุกคนทราบอยู่แล้วว่า ถ้าวาระที่ไม่เกี่ยวข้อง ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเอ่ยถึงบุคคลภายนอก


เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านจะแบ่งเวลาอภิปรายงบประมาณให้พรรคเล็กอย่างไร เพราะการประชุมวานนี้มีตัวแทนพรรคประชาธิปไตยใหม่เข้าร่วมด้วย ทั้งที่ไม่เคยมาร่วม นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เรื่องการแบ่งเวลาคุยกันเรียบร้อยแล้ว มีการแบ่งเวลาให้พรรคเล็กด้วย แม้สัปดาห์ที่แล้วไม่มีการประชุมวิปฝ่ายค้าน  แต่ได้โทรศัพท์แจ้งพรรคการเมืองต่างๆ ถึงการแบ่งเวลาแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 200นาที พรรคไทยสร้างไทย 1ชั่วโมง พรรคเป็นธรรม 20นาที ส่วนพรรคเล็ก อย่างพรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคใหม่ ได้เวลาพรรคละ 10นาที


ส่วนการจัดหมวดหมู่อภิปรายนั้น พรรคก้าวไกลประกาศไปแล้วว่า เตรียมการอภิปราย คือ วิกฤติแบบใด ทำไมจัดงบแบบนี้ เพราะรัฐบาลบอกตลอดเวลาว่า ประเทศไทยอยู่ในวิกฤติต้องกู้เงินมาทำโครงการต่างๆ เช่น การทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่สุดท้ายการกระทำจะสะท้อนออกมาผ่านการจัดทำงบประมาณว่า รัฐบาลมองประเทศมีวิกฤติจริงหรือไม่ เท่าที่ดูยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงในการจัดสรรงบประมาณเปลี่ยนไปจากรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากเท่าไร เราเข้าใจดีว่า รัฐบาลเพิ่งมาบริหารประเทศได้ไม่กี่เดือน  แต่ต้องบอกว่า ตอนที่รัฐบาลรับตำแหน่ง ร่างพ.ร.บ.งบปี 67พร้อมเข้าสภาอยู่แล้ว แต่เมื่อล่าช้ามาขนาดนี้ เราจึงคาดหวังเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญว่า เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว และทิศทางการหาเสียงแตกต่างจากรัฐบาลที่แล้วพอสมควร ดังนั้นทิศทางการใช้งบประมาณ ต้องเห็นความแตกต่างจากรัฐบาลที่แล้ว แต่ไม่เห็นว่าจะแตกต่างมากมายแค่ไหน


เมื่อถามว่า ช่วงหยุดปีใหม่ ฝ่ายค้านได้ศึกษาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ เห็นความผิดปกติอย่างไรบ้าง นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ความผิดปกติ คือ มีการจัดงบเหมือนปกติ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่แน่ใจว่า 3เดือนที่ผ่านมากว่าร่างพ.ร.บ.งบปี67จะเข้าสภาฯ และกว่าจะบังคับใช้ได้ มีความล่าช้าไปครึ่งปี ก็เหมือนปกติ แทบไม่เปลี่ยนแปลงอะไร การอภิปรายระหว่างวันที่ 3-5 ม.ค.2567 นี้ ฝ่ายค้านวางไว้หลายด้าน เช่น วิกฤติเศรษฐกิจปากท้องที่พรรคเพื่อไทยเน้นย้ำอย่างมากว่าเราอยู่ในวิกฤติเศรษฐกิจ ฝ่ายค้านจะชี้ให้เห็นว่า การบอกว่า มีวิกฤติเศรษฐกิจแล้วจัดงบแบบนี้หรือ รวมถึงงบด้านสิ่งแวดล้อม ความเหลื่อมล้ำที่พรรคการเมืองพูดถึงวิกฤติความเหลื่อมล้ำ แต่การจัดงบไม่สามารถบรรเทาความเหลื่อมล้ำในประเทศได้เลย และวิกฤติทรัพยากรมนุษย์ ตั้งแต่เด็กเกิดน้อย การศึกษาของเยาวชนเติบโตจนเป็นแรงงานด้านต่างๆ เราได้งบประมาณเพื่อรองรับการเติบโตของทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ ที่รัฐมนตรีเพิ่งออกมาพูดถึงอัตราเด็กเกิดต่ำ อาจกระทบในอนาคต การจัดงบประมาณสะท้อนวิกฤติปัญหาเหล่านี้หรือไม่


เมื่อถามว่า การอภิปรายครั้งนี้เป็นครั้งแรกของฝ่ายค้านจะทำให้ไม่แพ้การอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า คิดว่าเข้มข้นไม่ต่างจากการอภิปรายงบประมาณของพรรคก้าวไกลในปีที่ผ่านมา เมื่อถามย้ำว่า หากมีการประท้วงเกิดขึ้น ฝ่ายค้านตั้งทีมรองรับหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เรามีทีมวิปเฝ้าสภาอยู่แล้ว มั่นใจว่า การอภิปรายงบประมาณปีที่ผ่านๆมา แทบไม่เคยมีการประท้วง เพราะเนื้อหาสาระเป็นเรื่องเกี่ยวกับงบประมาณ จริงๆแล้วรัฐบาลก็บอกเองว่า ไม่ได้กังวลอะไร ไม่จัดองค์รักษ์เป็นพิเศษ คิดว่า เป็นเรื่องที่ถูกแล้ว ที่ผ่านมา 4 ปี เราเห็นแล้วว่า การอภิปรายงบประมาณเป็นไปด้วยความราบรื่น เพราะพูดถึงงบประมาณล้วนๆ


ส่วนที่รัฐบาลส่งร่างพ.ร.บ.งบประมาณล่าช้านั้น ทำให้กระทบการทำงานฝ่ายค้าน แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีปัญหา ช่วงหยุดปีใหม่ พวกเราไม่ได้หยุด 2 วันที่ผ่านมา ตนใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนฟังการซ้อมอภิปรายของ สส.ก้าวไกลแต่ละคน ดังนั้นการพิจารณางบประมาณรอบหน้า คาดหวังและขอให้ ครม.ส่งร่างงบประมาณมาให้เร็วกว่านี้ ขอให้ยึดเสมอว่า การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณเป็นเรื่องของสภา การที่รัฐบาลมีปฏิทินอยากให้พิจารณาวันนี้แล้วไปรับงานที่สำคัญในสัปดาห์อื่นๆ เหมือนมัดมือชกให้สภาต้องพิจารณาในสัปดาห์นี้เท่านั้น เป็นการไม่ให้เกียรติสภา  ดังนั้นการพิจารณาร่างงบประมาณฉบับหน้า รัฐบาลควรพูดคุยกับสภาก่อนจะพิจารณาวันใด ส่วนความกังวลจะพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณเสร็จไม่ทันตามกรอบ 105 วันนั้น เชื่อว่า สามารถพูดคุยทำความเข้าใจกันได้ เราพร้อมให้ความร่วมมือ

-------------

เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2567 นายสรรเพชญ บุญญามณี ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ที่จะมีการพิจารณาวาระแรกในวันที่ 3-5 มกราคม ว่า การพิจารณางบประมาณในครั้งนี้มีเวลาน้อยมากเนื่องจากงบประมาณปี 2567 ต้องใช้งบประมาณของปี 2566 ไปพลางก่อน สภาซึ่งมีเวลาในการพิจารณางบประมาณภายใน 105 วัน ใน 3 วาระ จึงต้องเร่งศึกษาในประเด็นต่างๆ ที่อยู่ในงบประมาณเพื่อให้งบประมาณที่สภาจะพิจารณาแล้วอนุมัตินั้นเป็นงบประมาณที่จะได้ใช้อย่างคุ้มค่า โปร่งใส และตรวจสอบได้เพื่อประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด


นายสรรเพชญกล่าวว่า ในส่วนการจัดสรรรายจ่ายงบกลางสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับตั้งแต่ ปีงบประมาณ 2563-2567 มีการจัดสรรงบกลางไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 2.9 ล้านล้านบาท เฉลี่ย 5.8 แสนล้านบาทต่อปี โดยในปีงบประมาณ 2567 มีการจัดสรรงบกลางกว่า 6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 16,295 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณที่มากที่สุดในกลุ่มประเภทรายจ่ายที่ได้รับการจัดสรร โดยส่วนใหญ่เป็นงบประมาณรายจ่ายเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐถึงร้อยละ 82.9 และเป็นงบประมาณเพื่อสำรองจ่ายในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 98,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 6,100 ล้านบาท จากปี 2566


”งบประมาณในส่วนนี้เป็นการตีเช็คเปล่าให้นายกฯหรือไม่ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่างบกลางเป็นงบที่ตรวจสอบยากที่สุด และเมื่อย้อนไปฟังคำอภิปรายของ ส.ส.และ ครม. ซึ่งหลายท่านวันนั้นท่านนั่งทำหน้าที่ฝ่ายค้านอยู่ตรงนี้ ท่านวิจารณ์รัฐบาลชุดที่ผ่านมาว่าใช้งบกลางเป็นจำนวนมากและของบกลางเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี แต่มาวันนี้ท่านกลับทำในสิ่งที่ตนได้พูดไว้ในอดีต การกระทำแบบนี้เข้าข่าย ‘ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง’ หรือไม่ ซึ่งผมในฐานะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ จะติดตามการใช้จ่ายงบประมาณอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การใช้งบประมาณมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน” นายสรรเพชญกล่าว

-------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Q2MblMZkZYU


คุณอาจสนใจ

Related News