สังคม

ตร.คุมมือยิง 'น้องหยอด-ครูเจี๊ยบ' ทำแผน ด้าน 9 สถาบัน ร่วมพัฒนาแก้ปัญหาวิวาทต่างสถาบัน

โดย panwilai_c

21 ธ.ค. 2566

30 views

ตำรวจคุมตัว นายวิน มือยิง น้องหยอด-ครูเจี๊ยบ ชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 9 จุด ก่อนเตรียมส่งศาลฝากขังในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ ขณะที่ นายวิน ลั่นฝากเตือน อยากให้ปัญหาจบที่รุ่นเรา



ตำรวจสืบสวนนครบาล และตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 คุมตัวนายอนาวิน หรือ วิน ผู้ต้องหามือยิงครูเจี๊ยบ และน้องหยอดเสียชีวิต ไป ทำแผนประกอบรับสารภาพ ใน 9 จุด



จุดแรก คือ บริเวณหน้าธนาคารทหารไทยธนชาต สาขาคลองเตย ใกล้กับโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ จุดนี้เป็นจุดที่ นายอนาวิน ลงรถจักรยานยนต์ที่นายเลาะขี่ แล้ววิ่งตามกลุ่มของผู้เสียชีวิต ก่อนจะเล็งปืนแต่พลาดไปโดนครูเจี๊ยบ ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 2 เมตร จากนั้นก็หันมายิงน้องหยอดทางด้านหน้าจนล้มลง / โดยมีนายเลาะ สั่งให้ยิงซ้ำ แล้วทั้งคู่ก็หลบหนีไป



จุดที่ 2 เป็นร้านก๋วยเตี๋ยว ในซอย58/5 ถนนกรุงเกษม แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน ที่นายอนาวิน อ้างว่าไปกินก๋วยเตี๋ยวรอก่อนที่จะไปก่อเหตุ



จุดที่ 3 บริเวณซอย18 ถนนประชาสงเคราะห์23 แขวงดินแดง เป็นจุดที่ก่อนวันเกิดเหตุ นายอนาวินและเพื่อนไปขโมยแผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์คันอื่น มาสลับกับรถคันที่ก่อเหตุ



จุดที่ 4 บ้านพักที่ตำบลคลองพระอุดม อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เป็นจุดที่นายอนาวิน นำค้อนปอนด์มาทุบปืนเพื่อทำลายหลักฐาน



จุดที่ 5 บริเวณวัดตำหนักเหนือ จังหวัดนนทบุรี เป็นจุดที่นายอนาวิน นำเศษอาวุธปืนมาทิ้งบริเวณท่าน้ำของวัด



จุดที่ 6 บริเวณพงหญ้ารกร้าง ที่ตำบลโคกช้าง อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นจุดที่ นายอนาวินและนายเลาะ ขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนีมาหลังก่อเหตุ แล้วใช้สีสเปรย์พ่นรถจักรยานยนต์ หมวกกันน็อก และรองเท้า เพื่อพรางตัว



จุดที่ 7 ที่อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี คือ จุดที่นายวินและนายเลาะ ขี่รถจักรยานยนต์ ไปจอดทิ้งไว้ แล้วเปลี่ยนขึ้นรถกระบะ มีนายนพวุฒิ เรืองศรี หนึ่งในผู้ต้องหาเป็นผู้พาหลบหนี ไปพร้อมกับรถจักรยานยนต์ที่อยู่บนหลังกระบะ โดยใช้ผ้าคุลมออกไป ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่เคยนำรถจักรยานยนต์มาซ่อนไว้ เพื่อพ่นสีรถเป็นประจำ และนายอนาวิน ยังยอมรับอีกว่าได้วางแผนไว้ล่วงหน้า และเคยมาดูสถานที่ก่อนก่อเหตุ รวมถึงยอมรับว่ามีการแบ่งหน้าที่กันทำด้วย



ส่วนจุดที่ 8 เป็นจุดที่รถกระบะมาจอดส่งบริเวณริมถนนแจ้งวัฒนะ ก่อนนั่งแท็กซี่กลับบ้านไป



และจุดที่ 9 คือเซฟเฮ้าส์ของกลุ่มผู้ต้องหา บริเวณซอยวงศ์สว่าง 19 ที่ตำรวจได้บุกเข้าไปจับกุมขบวนการนี้ได้ ที่จุดนี้นายอนาวิน ให้การว่า เพื่อนเป็นคนเช่าบ้านหลังนี้ไว้นานแล้ว แต่ไม่ใช้สถานที่สำหรับวางแผน และ ไม่ได้เก็บอุปกรณ์ที่ไว้ใช้ก่อเหตุ รวมทั้งยืนยันว่าไม่ได้เป็นลัทธิใดๆ แต่มีไว้เพื่อทำกิจกรรมรับน้องเท่านั้น



นายอนาวินผู้ต้องหา ได้ฝากถึงสถาบันทุกสถาบัน ว่า ไม่อยากให้เกิดความสูญเสียแบบนี้อีก เพราะการสูญเสียไม่ได้สูญเสียแค่คนที่โดน แต่ไปถึงคนที่ 3 อย่างเช่นครูเจี๊ยบ โดยได้ยกมือไหว้ พร้อมพูดว่า ขอโทษครูเจี๊ยบ ผู้ปกครองครูเจี๊ยบ ผู้ปกครองน้องหยอด อีกทั้งยังบอกอีกว่า ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้วนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ส่วนรูปที่เคยติดไว้ในบ้าน ยอมรับว่า เป็นรูปของเพื่อนที่โดนคู่อริยิงที่บางกอกน้อย เหตุผลที่กลับมายิงน้องหยอดซ้ำ ก็เพราะว่า ตอนที่เพื่อนโดนยิงก็โดนแบบนี้ จึงต้องทำให้เหมือนกันทุกสิ่งทุกอย่าง โดยยืนยันว่า ไม่มีใครสั่ง



จากนั้นตำรวจก็ได้คุมตัวนายวิน มาคุมขัง ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ และในวันพรุ่งนี้ จะนำตัวไปฝากขังผัดแรกที่ ศาลอาญากรุงเทพใต้



พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตามล่านายเลาะ คนขี่จักรยานยนต์และคนที่สั่งให้ฆ่าน้องหยอด โดยจัดชุดไล่ล่าอย่างเต็มที่ จึงขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงาน และจะขยายจับกุมตัวขบวนการให้ได้ทั้งหมด



ขณะที่เมื่อวานนี้ก็ได้รื้อคดีค้างเก่าขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เบื้องต้นพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนละกลุ่ม คนละองค์กร แต่อยู่ในเขตของนครบาล



ส่วนกรณีที่พ่อแม่ของน้องหยอดร้องขอให้ตำรวจดำเนินการอย่างรัดกุมและขอให้ช่วยดูแลความปลอดภัยเนื่องจากถูกข่มขู่นั้น พลตำรวจตรี ธีรเดช บอกว่าทราบรายละเอียดแล้ว และจะติดตามจับกุมผู้ข่มขู่ให้ได้ทั้งหมด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้น



ขณะกระแสการก่อคดีระหว่างนักเรียนอาชีวะ รุนแรงมากขึ้น และเกิดขึ้นต่อเนื่อง อีกด้านหนึ่ง นักวิชาการ และผู้เกี่ยวข้อง ก็พยายามหามาตรการ หรือวิธีการ ที่จะทำให้ นักเรียนแต่ละสถาบัน ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ล่าสุดวันนี้ นักเรียนอาชีวศึกษา 9 สถาบัน ในเขตกรุงเทพ และปริมลฑล ได้เข้าร่วมโครงการสร้างความสัมพันธ์ และเรียนรู้การเคารพสิทธิ์ผู้อื่น และเน้นที่การไม่ก่อความรุนแรง และเคารพกฎหมาย เพื่อสร้างสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ หรือ E-Lernning สำหรับนักเรียนอาชีวะทั่วประเทศ



นักเรียนเหล่านี้ กำลังสร้างมิตรภาพที่ดีต่อกัน ทำความรู้จัก และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน นี่คือกิจกรรมเริ่มต้นโครงการกองทุนศึกษาระดมความคิดเห็น สร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา เคารพกฎหมาย และเคารพสิทธิของผู้อื่น เพื่อให้เด็กๆจาก 9 สถาบันการศึกษาในกรุงเทพ และปริมลฑล ได้สะท้อนมุมมองและแนวความคิด เพื่อให้นักวิจัย จากภาควิชาสังคมศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นำไปสร้างสื่อความรู้ออนไลน์ หรือ E-Lernning ในการสร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบของนักเรียนอาชีวะ



นักเรียนคนนี้ สะท้อนความคิดว่า การที่เขา ได้มารู้จักกับเพื่อนใหม่ต่างสถาบัน นอกจากจะเป็นการสร้างมิตรภาพส่วนตัวกันแล้ว ในระดับสถาบันก็น่าจะพัฒนาไปในทิศทางที่ดี



ส่วนนักเรียนคนนี้ บอกว่า การสร้างมิตร ดีกว่าการเป็นศัตรูกัน ทำให้เขา เข้ามาร่วมกิจกรรมครั้งนี้



ดร.อรรถพล กาญจนพงษ์พร หัวหน้าภาควิชาสังคมศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เห็นว่า คุณธรรมจริยธรรมเป็นสิงสำคัญต่อสังคมไทย โดยเฉพาะเรื่องความตรงต่อเวลา ก่อนจะพัฒนาไปสู่การซื่อสัตย์สุจริต



นายทวีศักดิ์ คิ้วทอง ผู้อำนวยการสำนักติดตามและประเมินผลการอาชีวศึกษา ระบุว่า การเคารพสิทธิของผู้อื่น และ เคารพกฎหมาย ถือเป็นกุญแจสำคัญดอกหนึ่งในการลดความรุ่นแรง การสร้างสื่อความรู้ออนไลน์ หรือ E-Lernning เพื่อสร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบของนักเรียนอาชีว ซึ่งจะต้องทำควบคู่กับมาตราอื่นๆด้วย



ข้อมูลจากสำนักแผนงานและงบประมาณ กองบัญชาการตำรวจบาล ระบุว่า รับแจ้งการก่อเหตุทะเลาะวิวาทในเขตกรุงเทพหมานครปี 2564 มากถึง 895 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากช่วงสถานการณ์โควิด กว่าหนึ่งเท่าตัว โดยปี2563 มีการแจ้ง 254ครั้ง ปี2562 มีการแจ้ง 317 ครั้ง ส่วนปีที่มีการแจ้งมากที่สุดคือ 2560-61 จำนวน 951 และ 932 ครั้ง

คุณอาจสนใจ

Related News