คุมมือยิง 'น้องหยอด-ครูเจี๊ยบ' ทำแผน เจ้าตัวฝากถึงพี่น้องร่วมสถาบัน ให้มันจบที่รุ่นเรา

ตำรวจคุมตัว นายวิน มือยิง น้องหยอด-ครูเจี๊ยบ ชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 9 จุด ก่อนเตรียมส่งศาลฝากขังในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ ขณะที่ นายวิน ลั่นฝากเตือน อยากให้ปัญหาจบที่รุ่นเรา



ตำรวจสืบสวนนครบาล และตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 คุมตัวนายอนาวิน หรือ วิน ผู้ต้องหามือยิงครูเจี๊ยบ และน้องหยอดเสียชีวิต ไป ทำแผนประกอบรับสารภาพ ตั้งแต่เช้าวันนี้ โดยพาไปทำ 9 จุด



จุดแรก คือ บริเวณ หน้าธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด สาขาคลองเตย ใกล้กับโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ เป็นจุดที่ นายวิน ลงรถจักรยานยนต์ที่นายเลาะขี่ แล้ววิ่งตามกลุ่มของผู้เสียชีวิต ก่อนจะเล็งปืนแต่พลาดไปโดนครูเจี๊ยบ ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 2 เมตร จากนั้นหันมายิงน้องหยอดทางด้านหน้าจนล้มลง จากนั้น นายวิน กลับมาแต่นายเลาะ สั่งให้ยิงซ้ำ จากนั้นทั้งคู่ก็หลบหนีไป



จุดที่ 2 เป็นร้านก๋วยเตี๋ยว ในซอย58/5 ถนนกรุงเกษม แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน จุดนี้ยายวิน อ้างว่า ไปกินก๋วยเตี๋ยวรอก่อนที่จะไปก่อเหตุ



จุดที่ 3 บริเวณซอย18 ถนนประชาสงเคราะห์23 แขวงดินแดง เป็นจุดที่ก่อนวันเกิดเหตุ นายวินและเพื่อนไปขโมยแผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์คนอื่นแล้วนำมาสลับ กับรถคันก่อเหตุ



จุดที่ 4 บ้านพัก ที่ตำบลคลองพระอุดม อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เป็นจุดที่นายวิน กลับมาบ้านพร้อมกับอาวุธปืน แล้วนำค้อนปอนด์มาทุบปืนเพื่อทำลายหลักฐาน



โดยบ้านพักนี้เป็นบ้านย่าของนายวิน และเมื่อตำรวจพามาชี้จุด นายวินได้ก้มกราบเท้าย่าเพื่อขอขมากับสิ่งที่ทำลงไปด้วย



จุดที่ 5 บริเวณวัดตำหนักเหนือ จังหวัดนนทบุรี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นจุดที่นายวิน นำเศษอาวุธปืนที่ถูกทุบทำลาย มาทิ้งบริเวณท่าน้ำของวัด โดยได้ปาออกไปอย่างเต็มแรง ซึ่งจุดที่อาวุธปืนตกลงน้ำ จะอยู่ห่างจากท่าน้ำประมาณ 10 เมตร



จุดที่ 6 บริเวณพงหญ้ารกร้าง ที่ตำบลโคกช้าง อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นจุดที่ นายวินและนายเลาะ ขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนีมาหลังก่อเหตุ แล้วใช้สีสเปรย์พ่นรถจักรยานยนต์ หมวกกันน็อก และรองเท้า เพื่อพรางตัว นายวินให้การยืนยันว่า ที่มาพ่นสีบริเวณจุดนี้หลังจากก่อเหตุยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด ซึ่งจุดนี้ นักข่าวพยายามสอบถามรายละเอียดเรื่องการพ่นสีรถ ว่าใครเป็นคนพ่น ระหว่างนายวินกับนายเลาะ แต่นายวิน ขอไม่ตอบคำถาม



จุดที่ 7 ในพื้นที่ อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นจุดที่ นายวินและนายเลาะ ขี่รถจักรยานยนต์ ไปจอดทิ้งไว้ แล้วเปลี่ยนขึ้นรถกระบะ ไทรทัน ที่นายนพวุฒิ เรืองศรี หนึ่งในผู้ต้องหาขับไปรับ แล้วพาขับรถหลบหนีไป



โดยจุดนี้ นายวิน ให้การว่า หลังจากที่เพื่อนมารับ ก็ได้นำรถจักรยานยนต์ขึ้นหลังกระบะแล้วใช้ผ้าคุลมออกไป และยังบอกอีกว่า จุดนี้ เป็นจุดที่เคยนำรถจักรยานยนต์มาซ่อนไว้



นายวิน ยังให้การอีกว่า รถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ เคยนำมาจอดแอบซ่อนไว้ที่ในป่าแห่งนี้ ก่อนหลายวันเพื่อรอนำไปก่อเหตุ และเป็นจุดที่ใช้พ่นสีรถเป็นประจำ นายวิน ยังยอมรับอีกว่ามีการวางแผนไว้ล่วงหน้า และเคยมาดูสถานที่ก่อนก่อเหตุ รวมถึงยอมรับว่ามีการแบ่งหน้าที่กันทำด้วย



จุดที่ 8 บริเวณริมถนนแจ้งวัฒนะ จุดนี้นายวิน ให้การอ้างว่า หลังจากหลบหนี ขึ้นรถกระบะก็มาจอดส่งตนเองบริเวณจุดนี้ จากนั้นก็นั่งแท็กซี่เพื่อกลับบ้านในช่วงเวลาประมาณตี4 -ตี 5 ของวันที่ 12 พ.ย.



จุดที่9 บริเวณซอยวงศ์สว่าง 19 ซึ่งที่เป็นเซฟเฮ้าส์ของกลุ่มผู้ต้องหา ที่ตำรวจได้บุกเข้าไปจับกุมขบวนการนี้ได้ โดยจุดนี่ นายวิน ให้การว่า เพื่อนเป็นคนเช่ามานานแล้ว เอาไว้ใช้รับน้อง และบ้านหลังนี้ไม่ได้ใช้วางแผนทำผิด ไม่ได้เก็บอุปกรณ์ที่ไว้ใช้ก่อเหตุ และไม่มีเป็นลัทธิใดๆ แต่มีไว้เพื่อทำกิจกรรมรับน้องเท่านั้น



โดยช่วงหนึ่งระหว่างที่ตำรวจถามนายวินว่าอยากจะเตือนไปยังเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง ในสถาบัน หรือต่างสถาบัน หรือไม่พุงพฤติกรรมนี้ อยากให้มันจบที่รุ่นเราบ้างหรือไม่ นายวิน ก็ตอบว่า "ฝากถึงพี่น้องสถาบันผม สถาบันฝั่งตรงข้าม หรือทุกสถาบัน ผมไม่อยากให้เกิดความสูญเสียแบบนี้อีก เพราะการสูญเสียไม่ได้สูญเสียแค่คนที่โดน แต่ไปถึงคนที่ 3 อย่างเช่นครูเจี๊ยบ"



จากนั้นนายวิน ได้ยกมือไหว้ พร้อมพูดว่า "ขอโทษครูเจี๊ยบ ผู้ปกครองครูเจี๊ยบ ผู้ปกครองน้องหยอด ผมขอโทษจริงๆ" และยังบอกอีกว่า ตนเองไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้วนลูปเกินไปประเทศของเรา และเหตุยิงกันแบบนี้ ไม่ใช่แค่ปีนี้ มันมีเกิดขึ้นทุกปี แล้วคนก่อเหตุก็ติดคุก ผู้ปกครองก็เสียใจ



ส่วนรูปที่เคยติดไว้ในบ้าน ยอมรับว่า เป็นรูปของเพื่อนตนเองที่โดนคู่อริยิงที่บางกอกน้อย นายวินยังบอกถึงเหตุผลที่กลับมายิงน้องหยอดซ้ำ ด้วยว่า ตอนที่เพื่อนตนเองโดนยิงก็โดนแบบนี้ ผมเลยเลยต้องทำให้เหมือนกันทุกสิ่งทุกอย่าง ยืนยันว่า ไม่มีใครสั่ง จากนั้นตำรวจได้คุมตัวนายวิน มาคุมขัง ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ก่อนที่ในวันพรุ่งนี้ 22 ธันวาคม จะนำตัวไปฝากขังผัดแรกที่ ศาลอาญากรุงเทพใต้



ขณะที่ พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เผยความคืบหน้าการตามล่าตัวนายเลาะ คนขี่รถจักรยานยนต์และสั่งให้ฆ่าน้องหยอด ว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างติดตามตัว โดยจัดชุดไล่ล่าอย่างเต็มที่ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงาน และจะขยายจับกุมตัวขบวนการให้ได้ทั้งหมด และเมื่อวานนี้ได้รื้อคดีค้างเก่าขึ้นมาดูใหม่ทั้งหมด เบื้องต้นพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนละกลุ่ม คนละองค์กร แต่อยู่ในเขตของนครบาล



ส่วนกรณีที่พ่อแม่ของร้องหยอดร้องขอให้ตำรวจดำเนินอย่างรัดกุมและขอให้ช่วยดูแลความปลอดภัยเนื่องจากถูกข่มขู่นั้น พล.ต.ต.ธีรเดช บอกว่า ตนเองทราบรายละเอียดแล้ว และจะติดตามจับกุมผู้ข่มขู่ให้ได้ทั้งหมด สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้น คนเป็นพ่อเป็นแม่สูญเสียลูกแล้วยังต้องมาถูกคุกคามอีก

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/IIlWbtjxkAI