อาชญากรรม

ทำแผน ‘วิน’ มือยิงครูเจี๊ยบ-น้องหยอด รับวางแผนเป็นขบวนการ ฝากถึงรุ่นพี่-รุ่นน้อง “ขอให้จบที่รุ่นเรา”

โดย petchpawee_k

22 ธ.ค. 2566

135 views

คุมตัว ‘วิน มือยิง’ ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด ทำแผน 9 จุด ‘รอเป้าหมาย-ลั่นไก-หลบหนี’ ยอมรับ วางแผน เตรียมการมาก่อน โดยนำรถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุมาจอดซ่อนไว้ ดูสถานที่หลบหนี ก่อนจะเอาออกไปลงมือก่อเหตุแล้วเปลี่ยนสี วิน ยกมือไหว้ขอโทษครอบครับครูเจี๊ยบ-น้องหยอด ฝากถึงเพื่อน รุ่นพี่-รุ่นน้องทั้งสถาบันเดียวกันและคู่อริ ขอให้จบที่รุ่นเราอย่าให้เกิดเหตุสูญเสีย ลั่นต้องยิงซ้ำเพราะต้องทำเหมือนกับที่เพื่อนตนเองโดน ร่ำไห้กราบลาย่า  


วานนี้ (21 ธ.ค.) ตั้งแต่ 06.00 น.ตำรวจสืบสวนนครบาล และตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 นำโดย พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 คุมตัวนายอนาวิน หรือ วิน ผู้ต้องหามือยิงครูเจี๊ยบ และน้องหยอดเสียชีวิต ไปทำแผนประกอบรับสารภาพ ทั้งหมด 9 จุด


เริ่มจุดแรก คือ บริเวณ หน้าธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (ทีทีบี) สาขาคลองเตย ถนนสุนทรโกษา ใกล้แยก ณ ระนอง ใกล้กับโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ เป็นจุดที่นายวิน ลงรถที่นายเลาะขี่ แล้วก็ได้วิ่งเลาะริมฟุตบาท ติดตามกลุ่มของผู้เสียชีวิตไป และเล็งปืนไป แต่กระสุนนัดแรก พลาดไปโดนครูเจี๊ยบ ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 2 เมตร จากนั้นก็ได้หันมายิงน้องหยอดทางด้านหน้าจนล้มลง นายวิน ได้วิ่งหนีมาขึ้นรถ แต่นายเลาะ ให้ไปยิงซ้ำนายวิน จึงวิ่งกลับไปยิงน้องหยอดซ้ำอีกหนึ่งครั้ง ก่อนหลบหนีไปทางสี่แยกตลาดคลองเตย


จากนั้น ตำรวจคุมตัวต่อไปยังจุดที่ 2 ที่ซอย58/5 ถนนกรุงเกษม แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน ซึ่งจุดนี้ เป็นจุดที่นายวิน อ้างว่าไปกินก๋วยเตี๋ยวในวันเกิดเหตุ 11 พ.ย. เพื่อมีลักษณะรอเป้าหมาย ก่อนที่จะไปก่อเหตุ


ต่อด้วย  จุดที่ 3 บริเวณซอย 18 ถนนประชาสงเคราะห์ 23 แขวงดินแดง เป็นจุดที่ เวลา 22.00 น. ของวันที่ 10 พ.ย. ผู้ต้องหา ไปขโมยแผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ละแวกนี้ แล้วนำมาสลับ กับรถของตนเองก่อนไปก่อเหตุในวันถัดไป


จุดที่ 4 คุมตัวนายวิน ไปที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ใน ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่ง เป็นจุดที่นายวิน กลับมาบ้านพร้อมกับอาวุธปืน แล้วได้นำค้อนปอนด์มาทุบปืนเพื่อทำลายหลักฐาน โดยจุดที่บ้านพักนี้นายวิน อาศัยอยู่กับย่า หลังชี้จุดเสร็จ ตำรวจก็พานายวิน ไปก้มกราบเท้าเพื่อขอขมาย่า กับสิ่งที่ตนเองได้กระทำลงไป และกราบลาย่า ซึ่งนายวิน ก็ร้องไห้ออกมา ย่าบอกนายวินว่า “โชคดีนะลูกนะ ดูแลตัวเองด้วยนะลูก”

ก่อนที่จะคุมตัวนายวินไปยังจุดที่ 5 บริเวณวัดตำหนักเหนือ จ.นนทบุรี รอมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยนาย วิน ผู้ก่อเหตุ ได้ชี้จุดและให้การรับสารภาพว่า ตนเองได้นำเศษอาวุธปืนที่ถูกทุบทำลาย มาทิ้งบริเวณท่าน้ำของวัด โดยได้ปาออกไปอย่างเต็มแรง ซึ่งจุดที่อาวุธปืนตกลงน้ำ จะอยู่ห่างจากท่าน้ำประมาณ 10 เมตร แล้วก็มาต่อ


จุดที่ 6 จุดพ่นสี ต.โคกช้าง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจุดนี้ เป็นจุดที่นายเลาะ และนายวิน ขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนีมาหลังก่อเหตุเพื่อมาพ่นสีรถ หมวกกันน็อกและรองเท้า บริเวณหญ้ารกร้าง เพื่อพรางตัว โดยเข้ามาจากถนนประมาณ 50 เมตร ซึ่งนายวินให้การยืนยันว่า มาพ่นสีบริเวณจุดนี้หลังจากก่อเหตุยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ต่อไปยัง อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ซึ่งจุดนี้ นักข่าวพยายามสอบถามรายละเอียดเรื่องการพ่นสีรถ ว่าใครเป็นคนพ่น ระหว่างนายวินกับนายเลาะ แต่นายวิน ขอไม่ตอบคำถาม ให้ตำรวจเป็นคนตอบ


จากนั้นไปต่อยังจุดที่ 7 ในพื้นที่ อ.บางปลาม้า สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นจุดที่นายวิน ผู้ต้องหาพร้อมด้วยนายเลาะ ขี่รถจักรยานยนต์ ไปจอดทิ้งไว้ จากนั้นเปลี่ยนขึ้นรถกระบะ ไทรทัน โดยมีนายนพวุฒิ เรืองศรี หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ไปรับแล้วพาขับรถหลบหนีต่อไป อ.เสาไห้ จ.สระบุรี เพื่อหลบหนีต่อไป


จุดนี้นายวิน ให้การว่าหลังจากเปลี่ยนสีรถที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ก็ขี่รถจักรยานยนต์ มาพักรอในป่าห่างจากถนน 300 เมตร และก่อนที่จะมาจอดรถเพื่อพักรอ ขณะที่มาพักรอรถกระบะไทรทัน ก็จอดรถที่ ริมถนน และคนขับรถเดินเข้ามาหา จากนั้นก็ออกไปขึ้นรถ พร้อมกับนำรถจักรยานยนต์ขึ้นหลังกระบะแล้วใช้ผ้าคุลม คลุมออกไป นายวิน ยังให้การอีกว่า รถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ เคยนำมาจอดแอบซ่อนไว้ที่ในป่าแห่งนี้ ก่อนหลายวันเพื่อรอนำไปก่อเหตุ


ซึ่งขณะนี้ติดสติ๊กเกอร์สีเหลือง แล้วพอเอารถไปก่อเหตุ ก็เอาสติ๊กเกอร์สีเหลืองออก ทำให้รถเปลี่ยนเป็นสีแดงไปใช้ก่อเหตุ ก่อนจะเอาไปพ่นสีหลังก่อเหตุเป็นสีน้ำเงินเพื่อหลบหนีแล้วขี่มาที่นี่ นายวิน ยอมรับเลยว่ามีการวางแผนไว้แล้วล่วงหน้าและเคยมาดูสถานที่ไว้ก่อนก่อเหตุ รวมถึงยอมรับว่ามีการแบ่งหน้าที่กันทำด้วย


และคุมตัวไปต่อจุดที่ 8 บริเวณริมถนนแจ้งวัฒนะ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งจุดนี้นายวิน ให้การอ้างว่า หลังจากหลบหนี ขึ้นรถกระบะไทรทัน จาก อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี รถกระบะก็มาจอดส่งตนเองบริเวณจุดนี้ จากนั้นตนเองก็ต่อแท็กซี่เพื่อกลับบ้านในช่วงเวลาประมาณตี 4 -ตี 5 ของวันที่ 12 พ.ย.


ก่อนจะคุมตัวนายวิน มายังจุดสุดท้าย จุดที่ 9 บริเวณซอยวงศ์สว่าง 19 ซึ่งที่เป็นเซฟเฮ้าส์ของกลุ่มผู้ต้องหา ที่ตำรวจได้บุกเข้าไปจับกุมขบวนการนี้ได้ โดยจุดนี้ นายวินให้การว่า บ้านหลังดังกล่าว เพื่อนตนเองเป็นคนเช่านานแล้ว เป็นบ้านเช่าที่เปิดให้เช่าปกติ ไม่ได้รู้จักอะไรเป็นการส่วนตัว ซึ่งเอาไว้ใช้รับน้อง และบ้านหลังนี้ไม่ได้ใช้วางแผนทำผิด ไม่ได้เก็บอุปกรณ์ที่ไว้ใช้ก่อเหตุ และไม่มีเป็นลัทธิใดๆ แต่บ้านหลังนี้มีไว้เพื่อทำกิจกรรมรับน้องเท่านั้น


โดยช่วงหนึ่งตำรวจถามนายวินว่าอยากจะเตือนไปยังเพื่อน รุ่นพี่รุ่นน้องในสถาบันและต่างสถาบัน เพื่อให้มันจบที่รุ่นเราอย่างไรบ้างหรือไม่ นายวิน ระบุว่า “ฝากถึงพี่น้องสถาบันผม สถาบันฝั่งตรงข้าม หรือทุกสถาบัน ผมไม่อยากให้เกิดความสูญเสียแบบนี้อีก เพราะการสูญเสียไม่ได้สูญเสียแค่คนที่โดน แต่ไปถึงคนที่ 3 อย่างเช่นครูเจี๊ยบ”


จากนั้นนายวิน ได้ยกมือไหว้ พร้อมพูดว่า “ขอโทษครูเจี๊ยบ ผู้ปกครองครูเจี๊ยบ ผู้ปกครองน้องหยอด ผมขอโทษจริงๆ” นายวิน ยังบอกอีกว่า ตนเองไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้วนลูปเกินไปประเทศของเรา และเหตุยิงกันแบบนี้ ไม่ใช่แค่ปีนี้ มันมีเกิดขึ้นทุกปี แล้วคนก่อเหตุก็ติดคุก ผู้ปกครองก็เสียใจ


ทั้งนี้ นายวิน ไม่ขอพูดถึงเพื่อนๆ ที่ยังไม่รับสารภาพ และไม่ขอพูดถึงนายเลาะ คนขี่รถจักรยานยนต์ที่ยังหลบหนี ส่วนเขาจะมามอบตัวหรือไม่เป็นสิทธิของเขา ส่วนรูปที่เคยติดไว้ในบ้าน ยอมรับว่าเป็นรูปของเพื่อนตนเองที่โดนจ่อยิงที่บางกอกน้อย โดยถูกสถาบันคู่อริมายิงเสียชีวิต นายวิน ยังบอกถึงเหตุผลที่กลับมายิงน้องหยอดซ้ำ ด้วยว่าตอนที่เพื่อนตนเองโดนยิงก็โดนแบบนี้ ผมเลยเลยต้องทำให้เหมือนกันทุกสิ่งทุกอย่าง ยืนยันว่าไม่มีใครสั่ง


จากนั้นตำรวจได้คุมตัวนายวิน ไปสอบปากคำที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 เพิ่มเติม ก่อนที่ในวันนี้ (22 ธ.ค.) จะนำตัวไปฝากขังที่ ศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งตลอดการทำแผนทั้ง 9 จุด ตำรวจไปกันทั้งหมด 4 คันรถตู้ ใช้กำลังทั้งหมด มากกว่า 30 นาย คุมเข้ม ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไว้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุที่ไม่คาดคิดจากฝั่งตรงข้ามเกิดขึ้น


พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้าการตามล่าตัวนายอับดุลเลาะ ดือราแม หรือเลาะ อายุ 28 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์และสั่งให้ฆ่าน้องหยอด ว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้ โดยได้จัดชุดไล่ล่าอย่างเต็มที่ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงาน และจะขยายจับกุมตัวขบวนการให้ได้ทั้งหมดตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งขาติได้สั่งการ


ซึ่งตั้งแต่เมื่อวานได้รื้อคดีค้างเก่าขึ้นมาดูใหม่ทั้งหมด เบื้องต้นพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนละกลุ่ม คนละองค์กร แต่อยู่ในเขตของนครบาล จคงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบและตอนนั้นตนก็ยังไม่ได้เข้ามารับตำแหน่งไม่เหมือนกับคดีนี้ที่เกิดขึ้นในช่วงที่เข้ามารับตำแหน่งพอดี


ส่วนกรณีที่พ่อแม่ของน้องหยอด ร้องขอให้ตำรวจดำเนินอย่างรัดกลุมและขอให้ช่วยดูแลความปลอดภัยเนื่องจากถูกข่มขู่นั้น พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ตนได้พบกับแม่ของเหยื่อและทราบรายละเอียดแล้ว ซึ่งจากนี้ก็จะติดตามจับกุมผู้ข่มขู่ให้ได้ทั้งหมด ไม่อยากให้ว่าเป็นเรื่องนี้ สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้น คนเป็นพ่อเป็นแม่สูญเสียลูกแล้วยังต้องมาคุกคาม ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลก็ได้กำชับให้ดำเนินคดีทั้งหมด

----------------------------------------------------

ขณะที่ เพจ 'สืบนครบาล' โพสต์ข้อความ ระบุ "สืบนครบาล ขอความร่วมมือประชาชน หากท่านใดพบ หรือมีเบาะแสข้อมูลของสามคนร้ายร่วมก่อเหตุ ยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด จนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 66 เวลา 09:30 น.


>>> นาย อับดุลเลาะ ดือราแม อายุ 28 ปี บ้านเกิด จ.ปัตตานี <<<


ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 1071/2566 ลงวันที่ 22 พ.ย. 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระผิดฐาน “ร่วมกัน ฆ่าผู้อื่น โดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกัน พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในตัวเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกัน ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน, ร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 นี้”


หากประชาชนท่านใดพบเบาะแส สามารถแจ้งได้ที่เฟซบุ้กเพจ “สืบนครบาล IDMB”


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/FLADaiHNe58


คุณอาจสนใจ

Related News