บรรยากาศคึกคัก! งานลอยกระทงแบบดิจิทัลที่คลองโอ่งอ่าง ประชาชนแห่ร่วมกิจกรรม

บรรยากาศประเพณีลอยกระทงที่คลองโอ่งอ่าง ซึ่งปีนี้กรุงเทพมหานครได้พยายามรณรงค์การลอยกระทงแบบดิจิทัล ควบคู่ไปกับการลอยกระทงในสถานที่อื่นๆ เพื่อลดขยะที่เกิดขึ้น ท่ามกลางบรรยากาศของประชาชนมาร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก


งานลอยกระทงที่คลองโอ่งอ่างปีนี้ กรุงเทพมหานครได้นำกิจกรรมลอยกระทงดิจิทัลผ่าน Projection Mapping มาใช้เป็นครั้งแรก เพื่อลดการเพิ่มขยะลงในแม่น้ำ โดยประชาชนสามารถวาดรูปบนกระดาษที่เราเตรียมไว้ สามารถระบายสี เขียนชื่อ เขียนอวยพร เขียนความในใจ และลอยเป็นแสงไฟลงในคลองได้ทันที ซึ่งกิจกรรมนี้ก็ได้รับการตอลรับที่ดีจากประชาชนจำนวนมาก


โดยปีนี้นอกจาก กทม.จะรณรงค์ตามแนวคิด 3 ป. คือ ลอยกระทงโดยปลอดวัสดุที่ไม่ได้มาจากธรรมชาติ / ปลอดภัย / และปลอดพลุหรือดอกไม้ไฟ ทางกรุงเทพมหานครยังตั้งเป้าลดขยะที่เกิดจากกระทง


นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษก กทม. ระบุว่า แม้การลอยกระทงออนไลน์สามารถช่วยลดขยะได้จริงแต่ก็ไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ทางกทม.จึงคิดวิธีการลอยกระทงแบบดิจิทัลในพื้นที่จริงขึ้น เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างการท่องเที่ยว เศรษฐกิจและวัฒนธรรม โดยยังคงไว้ซึ่งประเพณีได้


เมื่อช่วง 2 ทุ่มที่ผ่านมาข่าว 3 มิติ ได้ล่องเรือไปดูปริมาณกระทงตั้งแต่ช่วงไอคอนสยามมาจนถึงสะพานพระปกเกล้า ก็มีปริมาณกระทงที่ลอยมาตามน้ำจำนวนมาก แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ของ กทม. คอยดักเก็บตลอดทาง โดยแบ่ง 3 ช่วง ตลอดระยะทางของแม่น้ำเจ้าพระยา รวม 15 กิโลเมตร


ซึ่งจะมีเรือบดขยะลำใหญ่ประจำอยู่บริเวณสะพานพระปกเกล้า และ สะพานพระราม8 ตรงจุดนี้ก็จะคัดแยกกระทงวัสดุธรรมชาติ กับ โฟม ทันที ก่อนส่งต่อไปยังกระบวนการย่อยสลายต่อไป ที่โรงกำจัดขยะหนองแขมและ อ่อนนุช


สถิติปริมาณการจัดเก็บกระทงในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ ปี 60 พบว่าปริมาณขยะที่เกิดขึ้นมีการลดลงอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะกระทงที่ทำจากวัสดุโฟมที่มีจำนวนหายไปเกินกว่าครึ่ง มีเฉพาะปี 65 ที่ปริมาณกระทงเพิ่มขึ้นจากการเปิดท่องเที่ยวเต็มรูปแบบหลังสถานการณ์โควิด 19


ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่หันมาใช้กระทงจากวัสดุธรรมชาติมากขึ้นถึง 96% และ เหลือกระทงโฟมเพียง 4% เท่านั้น ทำให้ช่วง4 ปีที่ผ่านมา การรณรงค์ 1 ครอบครัว 1 กระทง ทำให้มีจำนวนกระทงลดลงในทุกๆ ปี จากกว่า 840,000 กระทงในปี 2561 เหลือ 572,000 กระทงในปี 2565 แต่ก็ยังสูงกว่า ปี 64 ที่ดูแล้วมีปริมาณการใช้กระทงโฟมเพิ่มจากร้อยละ 3.5 เป็น 4.3