ผอ.รพ.บางเลน ขอโทษครอบครัว เด็กวัย 2 วัน เผยอาการเด็กตอนี้มีภาวะเลือดออกในสมอง

ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ส.ค.) นายอลงกรณ์ เพชรดี กำนันตำบลบางภาษี พาครอบครัวของเด็กชายวัย 2 วัน เข้ามาพบกับนายแพทย์กมลลักษณ์ จินดาไตรรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ที่โรงพยาบาลบางเลน เพื่อสอบถามถึงความรับผิดชอบและการเยียวยา หลังลูกชายถูกนายนันทจักษ์ บุกเข้ามาอุ้มหายไปในช่วงกลางดึกของวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยตำรวจใช้เวลาราว 7 ชั่วโมงในการตามหา จนพบเด็กอยู่ในสภาพบอบช้ำ ได้รับบาดเจ็บ ต้องนำส่งโรงพยาบาลทันที


นายแพทย์กมลลักษณ์ และทีมงาน ได้มอบกระเช้าแบรนด์ เพื่อเป็นการขอโทษและแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนเปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับทางคุณพ่อและคุณแม่ รวมถึงญาติของเด็กชายวัย 2 วันแล้ว โดยทางโรงพยาบาลยืนยัน “จะดูแลทางครอบครัว พร้อมชดเชยเยียวยาครอบครัวอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง” ซึ่งจากการที่ได้พูดคุยกันในบางส่วนกับทางครอบครัว ก็ค่อนข้างสบายใจในระดับหนึ่งแล้ว เพราะทางโรงพยาบาลสัญญาจะดูแลทางครอบครัวเป็นอย่างดี โดยเบื้องต้นก็ได้รับความร่วมมือและเข้าใจกันทั้ง 2 ฝ่าย


ส่วนหลังจากที่ส่งตัวน้องไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนครปฐมแล้ว เบื้องต้นเท่าที่ได้เช็กอาการของเด็ก พบว่า มีภาวะเลือดคลั่งในเนื้อสมอง แต่อาการทั่วไปยังอยู่ในเกณฑ์ไม่รุนแรง โดยมื้อเที่ยงแพทย์ก็ได้ให้เด็กเริ่มทานนมแม่แล้ว หลังแม่ปั๊มนมเองได้ แต่ในส่วนของภาวะของสมอง แพทย์ยังต้องตรวจซ้ำอีกครั้งและต้องเอกซเรย์อย่างละเอียด พร้อมติดตามพัฒนาการต่อเนื่อง โดยตอนนี้ทางแพทย์ก็รักษาตามขั้นตอนและให้ยาอยู่ในห้องปลอดเชื้อ


ส่วนบาดแผลตามร่างกาย ก็ยังมีรอยช้ำ และรอยนูนที่ศีรษะอยู่ พร้อมยืนยันว่า ช่วงจังหวะที่คนร้ายอุ้มเด็กออกไป เด็กไม่ได้ร่วงหล่นพื้น เพราะได้ตรวจดูจากกล้องวงจรปิดแล้ว


ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลยังยืนยันจะเยียวยาจิตใจและด้านอื่น ๆ กับทางครอบครัว เป็นสัญญาใจ รวมถึงการจัดรถรับส่งให้คุณพ่อคุณแม่มาเยี่ยมลูกที่โรงพยาบาลนครปฐม ส่วนเรื่องตัวเลขในการเยียวยา ทางโรงพยาบาลไม่ได้ระบุ แต่ได้ยึดหลักตาม สปสช. จึงได้ให้ทางครอบครัวเขียนแบบฟอร์ม เพื่อยื่นให้คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินในเบื้องต้นแล้ว


เมื่อถามถึงจากการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบชุดพยาบาลที่เข้าเวรห้องหลังคลอด และบุคคลที่เกี่ยวข้องในคืนวันเกิดเหตุนั้น อยู่ระหว่างรอผลตรวจสอบข้อเท็จจริงในชั้นผู้บริหารของสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม ซึ่งเบื้องต้นได้สอบถามบุคคลที่เกี่ยวข้องอยู่ในคืนวันเกิดเหตุแล้ว พบว่า “สาเหตุที่ไม่มีพยาบาลอยู่ เพราะมีเคสคลอดใหม่ พยาบาทจึงต้องไปดูแลเคสใหม่ก่อน”


โดยช่วงเกิดเหตุในคืนวันดังกล่าว ยังตรวจสอบอีกว่า มีเด็กอยู่ในห้องหลังคลอด 3 คน ซึ่ง 1 ใน 3 ก็มีพ่อและแม่ของเด็กชายวัย 2 วัน นอนข้างเตียงเด็กอยู่ (น้องอยู่เตียงที่ 2) และมีเคสรอคลอดอีก 1 เคส ซึ่งตามหลักแล้วพยาบาลก็จะเข้าเวรอยู่ในห้องทุกห้อง โดยเวรเช้าจะมีพยาบาลเฝ้า 5 คน เวรบ่าย เวลา 16.00-23.00 น. 3 คน และเวรดึกถึงเช้าอีก 2 คน ซึ่งในพื้นที่ผู้ป่วยในประตูอัตโนมัติจะล็อกปิดตั้งแต่ 3 ทุ่ม และห้ามเข้าเยี่ยม ส่วนห้องคลอด จะล็อกในช่วงเวลา 2 ทุ่ม


ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลก็ได้เพิ่มมาตรการการดูแลที่เข้มข้นมากขึ้น และเพิ่มความรัดกุม พร้อมควบคุมการเข้า-ออกบุคคลที่เข้าออกโรงพยายาล รวมถึงเพิ่มกำลังพนักงานรักษาความปลอดภัย หลังก่อนหน้าที่มีเพียงแค่คนเดียว ส่วนประวัติของคนร้าย ไม่พบว่าเคยมีการเข้ารักษาที่โรงพยาบาลบางเลน แต่เคยก่อคดีในพื้นที่โรงพักมาแล้ว


นอกจากนี้กล้องวงจรปิดของทางโรงพยาบาลเป็นระบบลบข้อมูลต่อเนื่องภายใน 1 เดือน โดยยอมรับว่า ยังไม่ได้ตรวจสอบช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุว่าคนร้ายแอบมาวนเวียนในพื้นที่ก่อนหรือไม่ แต่เท่าที่ทราบคนร้ายคิดว่าพ่อเด็กเป็นแฟนเก่า เลยเข้ามาแอบเอาเด็กไป แต่ความจริงพ่อเด็กไม่เคยรู้จักกับคนร้ายมาก่อน


ขณะที่แม่เด็กวัย 2 วัน ระบุว่า ไม่ได้ติดใจอะไรแล้วและพอใจกับข้อตกลงของทางโรงพยาบาลที่สัญญาว่าจะดูแลเป็นอย่างดี ส่วนอาการที่ได้ไปเยี่ยมน้องในช่วงเช้า พบว่าสมองมีเลือดออก แพทย์ได้ให้ยากันชัก


ส่วนการที่แม่ของคนร้ายโทรศัพท์มาขอโทษทางญาติ พร้อมบอกว่ายังไม่มีเวลาเข้ามาหา ก็เข้าใจ เพราะแม่ไม่ได้เกี่ยวอะไร พร้อมยืนยันว่าเธอและสามีไม่ได้รู้จักกับคนร้ายมาก่อน ส่วนค่าทำคลอดทางโรงพยาบาลได้ดูแลให้แล้ว แต่ในส่วนการเข้ามารักษาที่นี่ก็ใช้สิทธิบัตรทอง