สังคม

ออกจากราชการไว้ก่อน! 8 ตร.สามควายเผือก รีดทรัพย์ 2 แสน ต่างด้าวโรงงานไก่

โดย nattachat_c

23 เม.ย. 2567

48 views

วานนี้ (22 เม.ย. 67) เพจ สายไหมต้องรอด ได้พาเจ้าของโรงงานไก่ ในจังหวัดนครปฐม ร้องต่อนายกรัฐมนตรี หลังถูกตำรวจ สภ.สามควายเผือก จับลูกน้องที่เป็นต่างด้าว รีดเงิน 2 แสน สุดท้ายพอเรื่องแดง ถูกนักการเมืองท้องถิ่นโทร.มากดดัน ให้ถอนแจ้งความตำรวจชุดจับ


ทั้งนี้ มีภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะที่ นางสาว รัตนาภรณ์ มาลาอุบล เจ้าของโรงงานไก่แห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครปฐม พร้อมนายเทวราช กำเนิดแก้ว พี่ชาย นำเงินสด 15,000 บาท มามอบให้ ร้อยตำรวจเอก นที พงษ์หาญพาณิชย์ ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.สามควายเผือก จ.กาญจนบุรี เพื่อเป็นค่าปล่อยตัวแรงงานต่างด้าว 5 คน ที่โดนจับมา เมื่อช่วงเที่ยง วันที่ 29 มีนาคม 2567


ซึ่งเป็น 1 ในหลักฐานที่ นางสาว รัตนาภรณ์ นำมาใช้เป็นหลักฐานเอาผิดตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.สามควายเผือก 8 คน ว่าร่วมกันรีดไถเงินตน


ในภาพจะเห็นชายเสื้อขาว คือ นายเทวราช ได้นำเงินสด 15,000 บาท มาจ่ายให้ตำรวจนายหนึ่ง ก่อนที่จะยกมือไหว้ทางตำรวจคนดังกล่าว ส่วนชาวต่างด้าวที่ถูกจับกุมก็ได้ถูกปล่อยตัวกลับไป


นางสาว รัตนาภรณ์ เล่าให้ ดร.ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี ที่มารับเรื่องร้องเรียน ฟังว่า ตนมีอาชีพขายส่งไก่สด และเพิ่งย้ายมาในพื้นที่ สภ.สามควายเผือก เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ปรากฎว่า มีตำรวจอ้างว่ามาจาก ตำรวจภูธรภาค 7 / ตำรวจภูธร จังหวัดนครปฐม / และตำรวจจาก สภ.สามควายเผือก ทยอยกันเข้ามาขอให้ร่วมทำบุญ และสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของหน่วย ครั้งละ 3,000 - 5,000 บาท เป็นประจำ


จนกระทั่ง ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีตำรวจอ้างว่าเป็นชุดสืบสวน สภ.สามควายเผือก เข้ามาขอให้ร่วมทำบุญอีก ซึ่งตนเพิ่งร่วมทำบุญไป 3,000 บาท เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ครั้งนี้จึงให้ไปแค่ 100 บาท ทำให้ตำรวจชุดนี้ไม่พอใจ กลับไปเรียกพวกมา 8 คน เข้ามาตรวจค้นโรงงานโดยไม่มีหมายค้น พอบอกว่าขอดูหมายค้น แต่ตำรวจชุดนี้อ้างว่า "ที่นี่ นครปฐม ตำรวจสามารถเข้าค้นที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีหมาย" ก่อนจะจับแรงงานต่างด้าวไป 5 คน ทั้งที่มีเอกสารการทำงานถูกต้องครบถ้วน


โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ ในภาพจะเห็นกระบะขับเข้ามาจอดหน้าโรงงาน ก่อนที่กลุ่มตำรวจจะลงจากรถเข้าไปในโรงงาน โดยมีพนักงานโรงงานกำลังทำงานกันอยู่ ซึ่งทางตำรวจได้ทำการตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ของคนงานชาวต่างด้าว


ซึ่งทางตำรวจชุดนี้ ได้เรียกเงินค่าปล่อยตัวคนละ 4 หมื่นบาท รวมเป็น 2 แสนบาท และขู่ว่า กฎหมายไทยเป็นระบบกล่าวหา หากไม่จ่ายตรงนี้ ก็จะต้องไปประกันตัวสู้ในชั้นศาลเอาเอง แถมต้องหาเงินมาประกันตัว ต้องหาเงินมาจ้างทนาย ลูกจ้างก็ต้องติดคุกไปก่อน และที่สำคัญนายจ้างก็จะตกเป็นผู้ต้องหา มีคดีติดตัวไปตลอดชีวิต จนต้องเรียกพี่ชายมาช่วยเจรจา และจบลงที่ตนยอมจ่ายเงินไป 15,000 บาท


ผ่านไป 3 วัน ตำรวจชุดเดิมโทรศัพท์มาข่มขู่เรียกเงินอีก ตนจึงไปปรึกษากับตำรวจระดับสารวัตรนายหนึ่ง ซึ่งสารวัตรนายนี้ช่วยหาหลักฐานต่าง ๆ จนไปได้กล้องวงจรปิดในห้องสืบสวน เป็นภาพตอนที่รับเงินของตน แล้วเอาเงินไปแบ่งกัน


ซึ่งในภาพจะเห็นตำรวจใส่เสื้อสีดำแบ่งเงิน และไล่แจกทีละคน อีกทั้ง ยังมีการพูดคุยกันอย่างสนุกสนานสะใจ ทำให้ตนยิ่งรู้สึกไม่ดี จึงตัดสินใจเอาเรื่องให้ถึงที่สุด โดยร้องขอความช่วยเหลือผ่าน เพจ สายไหมต้องรอด


นายเอกภพ บอกว่า หลังจากตรวจสอบพบวงจรปิด และเอกสารหลักฐานต่างๆ น่าเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดจริง


จึงได้ประสานไปยัง พันตำรวจเอกพัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เพื่อพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดี


หลังจากสอบปากคำเสร็จ พลตำรวจตรีสุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ได้มีคำสั่งด่วนที่สุด ให้นายตำรวจทั้ง 8 นาย ไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมทันที พร้อมตั้งกรรมการสอบสวน


แต่หลังจากนั้น ได้มีนักการเมืองท้องถิ่น ติดต่อมาหาผู้เสียหาย อ้างว่ามีนายตำรวจระดับสูงของ สภ.สามควายเผือก ติดต่อให้มาช่วยเจรจา ให้ผู้เสียหายไปถอนแจ้งความ โดยให้ไปให้การใหม่ว่า ทั้งหมดเป็นการเข้าใจผิด เงิน 15,000 บาท ที่ให้ตำรวจทั้ง 8 นายไป เป็นเงินทำบุญ ไม่ใช่เงินสินบน แต่ผู้เสียหายไม่ยอม และยิ่งทำให้ผู้เสียหายกังวล กลัวจะถูกอุ้มฆ่าทั้งครอบครัว รวมทั้ง อยากเปลี่ยนตำรวจชุดทำคดี ไม่ให้ตำรวจพื้นที่ทำด้วย


ทีมข่าวติดต่อสัมภาษณ์ พันตำรวจเอก ยงลิต ศุภผล ผู้กำกับการ สภ.สามควายเผือก ที่ถูกกล่าวอ้างว่า เป็นคนเจรจาให้ นางสาว รัตนาภรณ์ กลับคำให้การ ซึ่งผู้กำกับยืนยันว่า ไม่ใช่ตนอย่างแน่นอน แต่กลุ่มตำรวจผู้ก่อเหตุ อาจมีพรรคพวก แล้วหาคนประสานไปเองเรื่องนี้จะต้องตรวจสอบ ที่ผ่านมาไม่เคยระแคะระคายถึงพฤติกรรมของตำรวจทั้ง 8 นาย มาก่อน


ส่วนการดำเนินการกับตำรวจที่ทำผิด ยืนยันว่า ได้ทำตามอำนาจหน้าที่ทุกอย่าง  และเรื่องนี้หลักฐานก็ค่อนข้างชัดอยู่แล้ว ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ตนไม่เคยระแคะระคายถึงพฤติกรรมของตำรวจทั้ง 8 นาย เพราะหากมีการร้องเรียนมา ตนต้องดำเนินการแก้ไขทันทีอยู่แล้ว


ด้าน พลตำรวจตรีสุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า ล่าสุด ได้มีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 8 นาย ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว พร้อมกับตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง หลังจากสอบปากคำโดยละเอียด และเห็นคลิปหลักฐาน


ส่วนการดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับการเรียกรับเงิน และมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตอนนี้ สอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว รอส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. และสั่งให้สายตรวจลงไปดูแลความปลอดภัยของผู้เสียหายแล้ว


สำหรับตำรวจทั้ง 8 นาย ประกอบด้วย

1. ร้อยตำรวจเอกนที  พงษ์หาญพาณิชย์ รองสารวัตรสืบสวน สภ.สามควายเผือก

2. ดาบตำรวจชัยพฤกษ์ ผุยรอด ผู้บังคับหมู่ สภ.สามควายเผือก

3. ดาบตำรวจประสูตร สายพร้อมญาติ ผู้บังคับหมู่ สภ.สามควายเผือก

4. ดาบตำรวจณรงค์ ห่อทอง ผู้บังคับหมู่ สภ.สามควายเผือก

5. จ่าสิบตำรวจโรจน์ศักดิ์ ศรีพูนพันธ์ ผู้บังคับหมู่ สภ.สามควายเผือก

6. สิบตำรวจเอกชัยวัฒน์ ตุ้มฉิม ผู้บังคับหมู่ สภ.สามควายเผือก

7. สิบตำรวจตรี วุฒิชัย ศรีพูนพันธ์ ผู้บังคับหมู่ กองร้อยควบคุมฝูงชน กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม รักษาราชการแทนผู้บังคับหมู่ สภ.สามควายเผือก

8. สิบตำรวจตรี นันทวัฒน์ เอี่อมจร ผู้บังคับหมู่กองร้อยควบคุมฝูงชน กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม รักษาราชการแทนผู้บังคับหมู่ สภ.สามควายเผือก

----------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Ea4yoIe-p0U

คุณอาจสนใจ

Related News