ขยายผลค้นชุมชนนครปฐม เจอชายมีพิรุธ ค้นเจอยาบ้าคาตัว วอนอย่าเรียกยาบ้า ให้เรียกว่ายาบำรุงเม็ดสีส้ม

ตำรวจค้นชุมชนทางหลวง นครปฐม จุดที่พ่อให้ลูกไปซื้อยาบ้าและทำหล่น ยึดยาบ้าพร้อมจับคนเสพ ด้านประธานชุมชนยอมรับมีการค้ายาเสพติดจริง แต่เป็นรายย่อยไม่กล้าแจ้งตำรวจ เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยตัวเอง ขณะที่ผู้เสพเปิดใจ มีค้าขายยาบ้าจริงเปรียบเหมือนอาชีพเสริม วอนอย่าเรียกยาบ้าให้เรียกว่ายาบำรุงเม็ดสีส้ม


จากกรณีนายโยธิน ทำร้ายร่างกายทุบตี ชกต่อย ลูกวัย 9 ขวบ บนสะพานซอย 3 ถนนทิพากร เขตเทศบาลนครนครปฐม อ.เมืองนครปฐม เพราะโมโหที่ลูกชายทำยาบ้าที่ซื้อมาห้าเม็ดหล่นไปหนึ่งเม็ดและถูกรถทับยาบ้าแตกเป็นผง ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุดตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยชุดสืบสวนและฝ่ายปกครองจังหวัดสนธิกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่ชุมชนชุมชนทางหลวง ซึ่งเป็นจุดที่นายโยธินพ่อของเด็กให้การว่ามาซื้อยาบ้าจากบุคคลในชุมชนนี้

โดยชุมชนนี้เป็นลักษณะชุมชนเปิดมีผู้อยู่อาศัยประมาณ 100 ครัวเรือน ทางเดินแคบๆ ขณะที่ทีมข่าวเดินตรวจสอบก็พบชายรายหนึ่งนั่งสูบ คล้ายบุหรี่แต่ไม่ได้กลิ่นบุหรี่นั่งอยู่ริมกำแพง เมื่อเห็นทีมข่าวเดินเข้ามาชายรายนี้ก็รีบเดินหนีออกไปด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน

ทันทีที่ลงพื้นที่ตำรวจก็พบชายรายหนึ่ง มีท่าทางพิรุธเห็นตำรวจแล้วเกิดอาการตัวสั่น และหน้าตาเป็นกังวลตำรวจจึงขอตรวจค้น เจ้าตัวบอกว่ามาซื้อน้ำแข็งไม่ได้มาซื้อยาบ้า แต่ยอมรับว่าเสพมาหลายวันแล้ว

เมื่อตำรวจค้นตัวก็พบยาบ้า 2 เม็ด เจ้าตัวรับสารภาพว่าซื้อมาใน ราคาเม็ดละ 40 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปตรวจปัสสาวะพบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วงจึงดำเนินคดีฐานผู้เสพเพราะมียาบ้าเพียงแค่สองเม็ด


นอกจากนี้ในการเข้าไปตรวจค้นชุมชนยังพบยาบ้าจำนวนหนึ่งวางไว้ตามจุดซอกมุมต่างๆ แต่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ

การตรวจค้นเริ่มที่จุดแรก เป็นบ้านของอดีตเกี่ยวข้องกับเสพติดรายหนึ่งก็พบชายลักษณะคล้ายผู้เสพยาเสพติด ตำรวจจึง เชิญตัวไปตรวจปัสสาวะแต่ไม่พบสารเสพติด

นอกจากนี้จุดต่อมาจุดที่ 2 ยังเข้าไปตรวจค้นบ้านเป้าหมายที่เคยพบประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่ไม่พบว่ามีใครอยู่บ้าน ซึ่งคาดว่าเจ้าตัวรู้ตัวว่าตำรวจจะเข้ามาตรวจจึงไม่อยู่บ้าน

จุดที่ 3 พบว่าเป็นบ้านที่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตำรวจจึงขอเข้าตรวจค้น พบว่าขณะที่ตรวจค้นมีชายวัยรุ่นรายหนึ่งที่อยู่ในบ้านเกิดอาการเครียดและร้องไห้ส่งเสียงดัง ตำรวจจึงถามว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น เจ้าตัวบอกตำรวจว่ากังวลเพราะกลัวตำรวจมาจับพ่อ ซึ่งเคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่เมื่อตำรวจตรวจค้นพ่อและที่ห้องพักก็ไม่พบยาเสพติดพบเพียงอุปกรณ์ มีด เขียง กระดาษฟอยล์ ไฟแช็ก

โดยเจ้าตัวอ้างว่าอุปกรณ์เหล่านี้ใช้สำหรับสูบกัญชา เมื่อตำรวจตรวจค้นในห้องพักก็พบกระสุนปืนหนึ่งนัด ส่วนอาวุธปืนไม่พบเจ้าตัวบอกว่าไม่รู้ว่าเป็นกระสุนของใคร และยืนยันได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดแล้ว ตำรวจจึงเชิญตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองนครปฐม


พันตำรวจเอกพัลลภ สุริยกุล ณอยุธยา เปิดเผยว่า ชุมชนดังกล่าวนั้นเป็นชุมชนที่เฝ้าระวังของตำรวจมีการตรวจเป็นระยะ ยอมรับว่ามีการค้ายาเสพติดจริง แต่เป็นการค้ารายย่อยตำรวจเข้าไปทีนึง เค้ารู้ตัวก็หลบ พอตำรวจไปก็มาขาย ซึ่งมีแฟ้มประวัติไว้แล้ว แต่อุปสรรคปัญหาการจับกุมของชุมชนนี้คือเป็นชุมชนเปิดลักษณะทางเข้าออกหลายจุดจึงทำให้ยากในการจับ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการลงพื้นที่กวดขันมากขึ้น


ด้านคุณอรชร ปทุม ประธานชุมชนทางหลวง เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนเองเป็นประธานชุมชนที่นี่มานานรู้ดีว่าปัญหาเกิดจากอะไร และการค้าขายก็มีจริง โดยเป็นการขายในลักษณะรายย่อยในพื้นที่ไม่ได้เป็นการขายรายใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมาตนเองก็พยายามที่จะแก้ไขปัญหา แต่ก็ไม่อยากยุ่ง เพราะหากยุ่งเรื่องยาเสพติดแล้วจะเกิดปัญหากับตนเอง

โดยคุณอรชร บอกว่า เคยมีการประชุมเรื่องยาเสพติดแล้วตนเองบอกปัญหายาเสพติดในชุมชนไป พอเลิกประชุมและกลับมาบ้านก็ถูกชาวบ้านด่า และมีการพูดประชดเสียดสี ทำให้ตนเองรู้สึกกลัว และไม่อยากยุ่งกับเรื่องนี้ มองว่าเป็นการทำอาชีพทำมาหากินของใครของมัน แต่หากเป็นปัญหาของชาวบ้าน การช่วยเหลือในชุมชนตนเองพร้อมช่วยดูแลอย่างเต็มที่

ซึ่งปัญหายาเสพติดในชุมชนนี้ตำรวจควรเป็นผู้จัดการเมื่อรู้ว่าใครเป็นคนค้า-คนเสพ ก็เข้ามาดำเนินการมากกว่าให้คนในชุมชนจัดการกันเองเพราะเป็นอันตราย

ทีมข่าวได้สอบถามกับชายรายหนึ่งที่อยู่ในชุมชนเค้ายอมรับว่าตนเสพยาบ้ามาหลายวันแล้ว และยอมเปิดใจกับเรื่องราวภายในชุมชน โดยบอกว่า ที่ชุมชนแห่งนี้ขายยาบ้า และทั่วประเทศก็มีขาย แต่ที่ชุมชนนี้ ของแท้ มีทั้งขายปลีกขายส่งเริ่มตั้งแต่ราคา 30-50 และแบบเป็นแถว แถวละ 250 ถึง 300 บาทแล้วแต่ลูกค้า ถ้าเป็นลูกค้าประจำก็จะได้ราคาถูก

ในแต่ละวันก็มีคนเข้าออกซื้อขายกันเป็นประจำ จะรู้หน้ากันดีว่าใครซื้อขายกับใคร ก็จะซื้อกับคนนั้น  บางคนก็ทำเป็นอาชีพเสริม อย่างเช่น ตนเองค้าของเก่าไม่ได้มีการขายเหมือนคนอื่น ส่วนคนอื่นทำอาชีพสุจริตนะ แต่ก็ขายยาบ้า เป็นรายได้เสริม

ขายยาบ้าตำรวจไทยที่รู้ดีแต่จะจับก็จับไม่ได้ ถ้าจะมาลง มารอบนี้มีการเข้าประจำ แต่ก็ไม่สามารถปราบยาเสพติดในชุมชนนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดเห็นอย่างไรกับกรณีเรื่องการครอบครองยาบ้า 5 เม็ดถือว่าเป็นผู้เสพชาย รายนี้ยิ้มแต่ไม่ขอตอบคำถามและบอกว่า “ขอร้องนักข่าวและชาวบ้านทั่วไปอย่าเรียกว่ายาบ้าให้เรียกว่ายาบำรุงเม็ดสีส้ม”

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/UiadvYHrDJc