สังคม

แม่ร้อง ลูกสาวถูกหลอกเอาเงินร่วมลงทุนออมทอง สุดท้ายโดนโกง จำใจใช้หนี้แทนเกือบ 2 ล้านนานร่วม 3 ปี

โดย panisa_p

4 ก.ค. 2566

422 views

วันที่ 4 กรกฏาคม 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับนางสงกรานต์ อายุ 50 ปี หลังจากหมดหนทางในการหาเงินมาใช้หนี้ที่ลูกสาวต้องเป็นหนี้แต่ไม่ได้ใช้เงิน และบ้านก็กำลังจะถูกยึด โดยเล่าว่า นางสาวไอลดา อายุ 30 ปี ลูกสาว ซึ่งเคยมีอาชีพขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด แต่เมื่อปี 2563 ลูกสาวได้รู้จักกับคนชื่อหนิงทางเฟซบุ๊ก หนิงชวนลูกสาวมาร่วมทำธุรกิจออมทอง ลูกสาวจึงได้ชักชวนคนรู้จักนำเงินมาร่วมออมทองกับหนิง ช่วงแรกๆ ก็ได้ทอง แต่ระยะหลังหนิงขาดสภาพคล่อง


จึงได้ยืมเงินกับลูกสาว และให้ลูกสาวกู้เงินให้ หนำซ้ำหนิงยังให้ลูกสาวไปรับลูกหลานที่จังหวัดเลยมาอยู่ที่บ้านด้วยเกือบเดือน หลังจากที่ลูกสาวใช้เงินสดของตัวเองหมด จึงได้ยืมเงินจากญาติพี่น้อง รวมทั้งเอารถยนต์ไปเข้าไปแนนซ์ 3 คัน และเอาโฉนดที่ดินที่เป็นชื่อแม่ไปจำนองกับบริษัทเงินกู้ รวมแล้วกว่า 1,500,000 บาท


นอกจากนี้ชาวบ้านที่นำเงินมาให้ลูกสาวในการร่วมออมทอง เขาไม่ได้ทอง ก็มาทวงเงินจากลูกสาว ซึ่งลูกสาวได้ติดต่อคนชื่อหนิงให้นำเงินที่ร่วมออมทองมาคืนชาวบ้าน แต่หนิงบอกว่า ขายสวนยางและขายที่ดินได้จะเอามาคืนทั้งหมด แต่ก็ยังไม่นำมาคืนแม้แต่บาทเดียว สุดท้ายลูกสาวต้องหาเงินมาคืนชาวบ้านเอง โดยไปยืมเงินหลวงตาที่เป็นเจ้าอาวาสวัดมาใช้หนี้ และอยู่บ้านไม่ได้ จนต้องหนีเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ พ่อกับแม่ต้องรับจ้างหาเงินมาส่งบริษัทเงินกู้ที่จำนองที่ดินบ้านเอาไว้ 


จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับเจ้าอาวาสวัดปทุมพร บ้านหนองทุ่ม ต.วังหินลาด อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ซึ่งพระ เล่าว่า เมื่อประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา หลานสาวชื่อแนนมายืมเงินจำนวน 60,000 บาท โดยบอกว่ายืมไปช่วยเพื่อน และเพื่อนจะนำมาคืนให้ แต่ทุกอย่างก็เงียบหายไป จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้เงินคืน


ขณะเดียวกัน น้องแนน ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า เมื่อปี 63 หลังจากเห็นหนิงโพสต์ออมทองในโซเชียล จึงสนใจเข้าไปคุย ก็ได้สมัครเป็นตัวแทน ก่อนจะมีการเปิดรับลูกค้าโดยให้วางเงินดาวน์ก่อน แล้วรับทองไปผ่อนต่อ ซึ่งทำมาเรื่อยๆ และได้มีโอกาสไปที่บ้านพร้อมตัวแทนคนอื่นๆ โดยรอบแรกที่ทำและเอาทองมานั้นได้จริง จนตนเองกลายเป็นตัวแทนรายใหญ่ของหนิง ซึ่งมีลูกค้ามาวางเงินดาวน์ถึง 400,000 บาท


หลังจากนั้นมาตั้งแต่ ก.ค. 63 เริ่มไม่ได้ทอง จึงมีการสอบถามไปว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ได้รับคำตอบเป็นข้ออ้างต่างๆ ซึ่งก็รอแล้วรออีก ทั้งตามไปหาที่ กทม. ก็ได้คำตอบเพียงว่าบริษัทมีปัญหา ทำให้ยังไม่สามารถเอาทองให้ได้ แต่ลูกค้าที่วางเงินดาวน์ผ่อนทองก็ทวงถามกับตนเองอยู่ตลอดเวลา ตนเองจึงหาเงินมาคืนก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น เพราะหวังจะได้เงินคืนจากหนิง ซึ่งตนนั้นทั้งเครียดและถูกนำไปโพสต์ด่า โพสต์ประจาน จึงตัดสินใจเอาเงินตัวเองที่มี คืนคนอื่นไปจนหมดแต่ก็ยังจ่ายคืนไม่ครบทุกคน


จากการพูดคุยกหับหนิง หนิงบอกว่าทำเอง เพราะอยากทำ แต่ยังไม่ได้เงิน และช่วงที่มีปัญหาไม่ได้ทอง ลูกค้าของหนิงก็ตามมาทวงถึงที่บ้านที่ จ.เลย พร้อมทั้งรวมตัวจะเข้าแจ้งความ แต่ทราบอีกครั้งว่าไม่ได้เข้าแจ้งความ แต่พากันรวมตัวเข้าไปยึดทรัพย์สินของหนิงมาใช้หนี้แทน แต่ตนเองไปไม่ทันจึงไม่ได้ทรัพย์สินอะไรสักอย่าง และมีลูกค้ารายหนึ่งแจ้งความเอาไว้ด้วย ทำให้หนิงไม่สามารถเข้าบ้านได้ ก็โทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือให้ไปรับหลานกับน้องจากบ้านไปอยู่ด้วย เพราะเดือดร้อนโดนทวงหนี้


ก่อนหน้านี้เข้าไปแจ้งความที่ สภ.ชุมแพ แต่ตำรวจบอกว่าต้องรวมคนให้ถึง 20 คน จึงจะเป็นคดีได้ ตนเองจึงไม่ได้ทำอะไรต่อ เพราะไม่สามารถรวมผู้เสียหายได้ และอีกทางคือ ต้องจ้างทนายทำเรื่องให้ ซึ่งตนเองไม่มีเงินแล้ว จึงจำใจชดใช้หนี้มานานร่วม 3 ปี โดยแต่ละเดือนต้องหาเงินตามใช้หนี้ทั้งในระบบนอกระบบ ตอนนี้ยังมีลูกค้าตามทวงอยู่ตลอด จนต้องเดินทางเข้า กทม.เพื่อหาเงินให้ได้มากกว่านี้ โดยไปรับจ้างรายวันและอาศัยกับน้องสาวเพื่อหาเงินใช้หนี้แทนหนิงให้หมด

คุณอาจสนใจ

Related News