'ต้อม เซียนพระนครสวรรค์' ให้ปากคำปัดเอี่ยว หลังเป็นตัวกลาง 'เป้ รักผู้การ' โอนเงิน 28 ล้านเข้าบัญชี

ตำรวจแกะรอยเส้นทางการเงินจ่าเป้ ยืมเงินในกลุ่มพนันออนไลน์เคลียร์ชุดจับ ด้านเซียนพระดัง ต้อม นครสวรรค์ ให้ปากคำยันไม่เอี่ยวขบวนการนี้ แต่รู้จักเสี่ยบอย เพราะเป็นเพื่อนกัน บิ๊กโจ๊ก ลั่นไม่รับเงื่อนไขเสี่ยบอย ขอมอบตัวแลกได้ประกัน เร่งประสานขอหมายจับระหว่างประเทศไว้แล้ว เร่งขยายผลพบตำรวจเอี่ยวรีดเงินอีก 4 – 5 นาย พร้อมพลเรือน เตรียมเอาผิดเพิ่ม

วานนี้ (20 มิ.ย. 66) พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมพวกร่วมกันรีดทรัพย์ผู้ต้องหาเว็บพนันออนไลน์ 140 ล้านบาท วานนี้ (20 มิ.ย.) นายวีระ นาทรัพย์ หรือ “บอย” ได้ติดต่อมาหาชุดทำงานอีกครั้ง โดยเสนอยื่นเงื่อนไขกับชุดทำงานว่าถ้าหากเดินทางเข้ามอบตัว จะต้องได้ประกันตัว ซึ่งตนเองได้บอกชุดทำงานแล้วว่า “ไม่รับเงื่อนไขนี้”

ส่วนนายวีระ หรือ บอย จะเข้ามาหรือไม่เข้ามามอบตัว ก็เป็นเรื่องของเขา โดยล่าสุดได้ประสานไปยังกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอหมายแดง และอยู่ระหว่างเร่งไล่ล่าตัวผู้ต้องหาที่เป็นพลเรือนทั้ง 3 คน (นายวีระ หรือ บอย / นายพิสิษฐ์ หรือ ต้น / นางสาวลัดดาวัลย์)

นอกจากนี้ ชุดสืบสวนยังพบข้อมูลอีกว่า ยังมีตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ที่เกี่ยวข้องกับการรีดทรัพย์ในครั้งนี้ด้วยอีก 4-5 นาย รวมถึงพลเรือนอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการขอออกหมายจับเพิ่มเติม

พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยังระบุอีกว่า จากการตรวจสอบเงิน 28 ล้านบาท เบื้องต้นพบว่ามีการโอนเงินจำนวนเงินทั้งหมดไปสู่บุคคลที่รับซื้อขายพระ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบรายละเอียดหมดแล้ว และได้เชิญตัวเซียนพระมาสอบปากคำ

ในการสอบปากคำในครั้งแรก จะสอบในฐานะพยาน แต่อยากฝากถึงพยานว่า แม้เป็นการให้การในฐานะพยาน แต่ถ้าไม่พูดความจริง ภายหลังอาจจะมีความผิดฐานให้การเท็จ นอกจากนี้ยังยืนยันได้ว่าหลักฐานทั้งหมดมีความเชื่อมโยงกันหลายส่วนแล้ว แต่ต้องขอเวลาในการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม

-------------

วานนี้ (20 มิ.ย.) เวลา 14.30 น. ตำรวจได้เรียกนายกฤษฎา ไทยสำราญ หรือ “ต้อม นครสวรรค์” ซึ่งเป็นเซียนพระ เข้ามาให้ปากคำ หลังพบข้อมูลว่ามีความเกี่ยวข้องกับเงิน 28 ล้านบาท โดยมีรายงานจากการสืบสวนว่าเงิน 28 ล้านบาทนี้ เป็นเงินที่ นายเป้ ยืมมาจากบุคคลหนึ่งฝั่งเมียนมา เพื่อนำมาจ่ายให้กับนายบอย และนายต้น

โดยเจ้าของเงินได้สั่งการให้ผู้หญิง 2 คน นำเงินใส่กระเป๋าเดินทางไปส่งมอบให้ผู้ชายคนหนึ่งที่หลังวัดแสงแก้วโพธิญาน อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย หลังจากนั้นได้มีการโอนเงินดังกล่าวเข้าบัญชีม้าทั้งหมด 5 บัญชี ซึ่งชุดสืบสวนสามารถอายัดเงินได้ทัน 4 ล้านบาท แต่เงินจำนวนที่เหลือ 24 ล้านบาทนั้น พบเส้นทางว่าโอนต่อเข้าไปยังบัญชีของ “ต้อม นครสวรรค์” เซียนพระรายนี้

เวลา 15.50 น. “ต้อม นครสวรรค์” เซียนพระ ได้เดินออกจากห้องสอบสวนมาเข้าห้องน้ำ ซึ่งทีมข่าวได้พยายามสอบถามว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับเงิน 28 ล้านบาท โดยนายต้อม ตอบสั้นๆ ว่า “ไม่เกี่ยวข้อง ขอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน และเมื่อถามว่า รู้จักกับบอยหรือไม่ นายต้อม ยอมรับว่า รู้จักเพราะเป็นเพื่อนกัน” ต่อข้อถามว่าได้รับเงินหรือเปล่า เจ้าตัวระบุ "ไม่ใช่ครับ ผมเป็นเซียนพระเครื่อง"  

โดยพนักงานสอบสวนได้เรียกนายต้อม เซียนพระ มาสอบถามในหลายประเด็น อย่างไรก็ตามยังไม่ปรากฏข้อมูลว่านายต้อม เกี่ยวข้องกับการรีดเงินนายเป้ กว่า 140 ล้านบาท

ต่อมาลูกน้องของนายต้อม ได้เดินทางเข้าให้ปากคำเช่นเดียวกัน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่านายต้อม รู้จักกับนายบอย ในฐานะเซียนเช่าพระระดับวีไอพีจริงหรือไม่ แต่ลูกน้องนายต้อม ปฏิเสธ ขอเข้าให้ปากคำก่อน

ขณะที่มีรายงานเพิ่มเติมว่านายวีระ หรือ บอย เป็นคนติดต่อหานายต้อม เพื่อขอเช่าพระเครื่อง โดยมีการเช่าพระไปหลายองค์ ซึ่งเบื้องต้นนายต้อมให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า ไม่รู้ว่าเงินที่นายบอยนำมาเช่าพระ เป็นเงินที่ได้มาจากการรีดทรัพย์

-------------

วานนี้ (20 มิ.ย.) พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่าตำรวจมีหน้าที่ทำความจริงให้ปรากฏ ส่วนกรณีที่มีการพาดพิงถึงตำรวจระดับสูงกว่าผู้บังคับการจังหวัดชลบุรีเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้นั้น ยังไม่พบหลักฐาน

ย้อนสื่อมวลชนให้กลับไปถามนายชูวิทย์ ว่ามีหลักฐานในการกล่าวหาในสิ่งที่พูดหรือไม่ ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่เรื่องของการแซะเก้าอี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องของการร้องเรียนผู้เสียหายที่มาแจ้งความกับตำรวจที่ สภ.คูคต นำไปสู่การขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง

-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/sC8dmYmqSyE