สังคม
ทนาย-ลูกน้อง 'บิ๊กโจ๊ก' แฉเส้นเงินเว็บพนัน โยง 'นายพล ต.' ด้าน 'บิ๊กต่อ' ท้า มีหลักฐานก็เปิดชื่อเลย
โดย panwilai_c
19 มี.ค. 2567
55 views
ทีมทนายของพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดแถลงข่าว ตอบโต้หลักฐานในคดีพนันออนไลน์ ที่ถูกแชร์ในโซเชียลมีเดีย พร้อมทั้งเปิดเส้นทางเงินจากบัญชีม้าพนันออนไลน์ ที่พลตำรวจตรี นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ 1 ใน 8 ผู้ใต้บังคับบัญชาของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ถูกดำเนินคดีเครือข่ายมินนี่ ได้ขึ้นเวทีแถลงระบุ เงินเชื่อมถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูง ตัวย่อ ต.
ประเด็นสำคัญที่ทีมทนายความของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้แถลงข่าวคือ เรื่องเงินทำบุญกฐินพระราชทาน วัดศาลาปูนวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 2 แสนบาท ยืนยันว่า เงินจำนวนนี้เป็นเงินทำบุญของหญิงสาวที่ชื่อว่า น.ส.หลุยส์ ที่ฝากพันตำรวจโท คริษฐ์ ปริยะเกตุ มาทำบุญเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 และได้รับใบอนุโมทนาบัตรมาแล้ว
ส่วนใบอนุโมทนาบัตรของ บิ๊กโจ๊ก ได้ร่วมทำบุญให้กับที่วัดวันที่ 29 ตุลาคม 2565 เป็นเงินส่วนตัวของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และผู้ที่ร่วมสมทบเงิน ไม่ได้เกี่ยวกับเงินที่พันตำรวจโท คริษฐ์ โอนไป ทีมทนายเชื่อว่า คณะพนักงานสอบสวนเอามาโยงกัน เพราะยอดเงินเหมือนกัน แต่พอมาไล่เรียงเส้นเงินดีๆ จะเจอว่าเป็นเงินคนละส่วน และไม่ได้เกี่ยวข้องกัน
จากนั้นทนายความ ได้เปิดชาร์ตแผนผังบัญชีม้าที่พันตำรวจโท คริษฐ์ ใช้ มีทั้งหมด 6 บัญชี คือ และบัญชีที่เชื่อมโยงถึงบิ๊กโจ๊ก มีชื่อว่า "พิมพ์วิไล" ซึ่งเป็นคนที่ถูกกล่าวหาว่า ทำบัญชีให้กับเว็บ BNK master และยังมีรายชื่อไปปรากฎอยู่ในสำนวนของเว็บพนันมินนี่ด้วย ประกอบกับพนักงานสอบสวนที่ทำคดีมินนี่ส่วนใหญ่ก็เป็นชุดที่ทำคดี BNK master ทีมทนายจึงเชื่อว่า 2 คดีนี้ เชื่อมโยงกัน และควรรวมเป็นสำนวนเดียวกัน ดังนั้นคดีมินนี่ ป.ป.ช.รับไว้ไต่สวนแล้วเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2567 ดังนั้นคดี BNK master พนักงานสอบสวนก็ไม่มีอำนาจสอบสวนต่อ
ในการร้องทุกข์กล่าวโทษ ได้บอกว่ามีรายละเอียดเส้นทางการเงินหมุนเวียนในคดีรวมกันไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท ทั้ง 2 คดี ซึ่งถือเป็นคดีที่มีข้อหาเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน มูลค่าตั้งแต่ 300 ล้านบาท เป็นต้นไป และผู้ถูกกล่าวหาก็เป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งตามระเบียบของกรมสอบสวนคดีพิเศษกำหนดให้อำนาจสอบสวนเป็นของกรมสอบสวนคดีพิเศษเท่านั้น ไม่ใช่คณะพนักงานสอบสวนที่มีการตั้งขึ้นมา ทำไมไม่ส่งให้ ป.ป.ช. หรือดีเอสไอ
ดังนั้นที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไปรับทราบข้อหาในวันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคมนี้ ต้องรอดูว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ เพราะทีมทนายเห็นว่าการออกหมายเรียกครั้งนี้ อาจจะทำไปโดยมิชอบ
ทนายความ บอกด้วยว่า ได้ประสานกับทนายความของนางสาว พิมพ์วิไล ขอรายการเดินบัญชี หรือ Statement มาตรวจสอบ พบว่า กลุ่มแรกสายสีเขียวเงินเชื่อมกลุ่มที่ถูกดำเนินคดี กลุ่มที่ 2 คือ สายสีเหลือง กลุ่มนี้มีความเชื่อมโยงแต่ยังไม่ถูกดำเนินคดี ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่เป็นตำรวจ และกลุ่มที่ 3 สายสีแดง มี 4 เส้นเงิน ซึ่งนางสาว พิมพ์วิไล เคยไปร้องต่อกระทรวงยุติธรรมว่า ถูกตำรวจเรียกรับเงิน ตอนนี้เรื่องอยู่ในชั้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่ยังไม่ได้รับความชัดเจน นางสาว พิมพ์วิไล จึงได้มีการไปแจ้งความที่ สภ.คอหงส์ จังหวัดสงขลา ทำให้ตำรวจออกหมายจับและดำเนินคดีกับ เส้นสีแดงสายที่ 1 และ 2 คือ นาย พ. ที่รับเงิน 9 ล้าน 2 แสนบาท ถูกจับแล้ว และ นาย จ.รับเงิน 13 ล้าน อยู่ระหว่างหลบหนี
ส่วนเส้นเงินที่ 3 และ 4 ทนายตั้งข้อสังเกตว่า เส้นเงินอีก 2 เส้นนี้หรือไม่ ที่ทำให้ยังไม่มีการส่งสำนวนไป ป.ป.ช. หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ
โดยเส้นเงินแรก เชื่อมโยงไปถึง นาย ค. (รอง ฟ.) และมีการโอนต่อไปยังผู้สื่อข่าวและสมาคมนักข่าว 1.4 แสนบาท / ตำรวจหลายหน่วยงาน 2.4 ล้านบาท / ญาติของผู้บังคับบัญชาระดับสูง โอนตรงเข้าบัญชี ภรรยา พี่สาว และบุคคลใกล้ชิด รวม 2.3 แสนบาท
หลังทีมทนายความแถลงจบ พลตำรวจตรี นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ 1 ใน 8 ผู้ใต้บังคับบัญชาของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ขึ้นอธิบายเส้นเงินต่อ โดยย้ำเส้นเงินที่ไปเชื่อมโยงกับคนใกล้ชิดของ นายพล .ต.
หลังการแถลงข่าว ทีมทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้นำหลักฐานเส้นทางการเงินที่แถลงในวันนี้ รวมถึงรายละเอียดที่พลตำรวจตรี นำเกียรติ ระบุหลังการแถลงข่าวว่า มีความเกี่ยวข้องกับนายพล ต. / ภรรยา ก. / พี่สาว จ. / พี่ชาย ช. ไปยื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ เพื่อไต่สวนหาข้อเท็จจริงของเส้นทางการเงินดังกล่าว รวมถึงให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบถึงอำนาจการสอบสวนของคดีด้วย พร้อมย้ำว่า สำนวนคดีของ นางสาวพิมพ์วิไล หรือสำนวนคดีที่เกี่ยวพันกับเว็บพนัน BNk Master อยู่ในอำนาจการของ ป.ป.ช.
จาก ป.ป.ช. ทีมทนายความ ได้ไปที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดขององค์กร ควรที่จะได้รับทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในสิ่งที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่วนนายกฯในฐานะผู้บังคับบัญชาจะมีความคิดอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกร้องให้ทีมทนายความของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยอักษรย่อที่ใช้อ้างอิงประกอบการแถลงข่าวเส้นทางการเงินจากเว็บพนันที่เชื่อมโยงถึงนายตำรวจระดับสูง และเครือญาติในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์หลังทีมทนายความทีมทนายของพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าว โดย ผบ.ตร.กล่าวว่าเส้นทางการเงิน เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ตรวจสอบได้ แต่กรณีทีมทนายความ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และพล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมกองบัญชาการตำรวจนครบาล อ้างชื่อตัวย่อบุคคลต่างๆนั้น อยากให้เปิดเผยมาเลย ซึ่งจะให้พนักงานสอบสวนเชิญมาให้ข้อมูล เพื่อให้ตรวจสอบคำกล่าวอ้างว่า มีจริงหรือไม่
ส่วนการณีที่อ้างว่ามีบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินเว็บพนัน แต่พนักงานสอบสวนกลับไม่แจ้งความดำเนินคดี แต่พุ่งเป้าไปที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และพวก กรณีนี้จะต้องมีการตรวจสอบว่า มีการดำเนินการตรวจสอบ ว่ามีการดำเนินการแบบนั้นจริงหรือไม่ รวมทั้งที่มีการกล่าวอ้างว่า เว็บพนันรู้จักกับนายตำรวจหญิง 2 นาย มีความสัมพันธ์กับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หากมีข้อมูลจริงก็ขอให้ออกมายืนยัน
ส่วนที่ พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมกองบัญชาการตำรวจนครบาล อ้างว่ามูลเหตุที่ขัดแย้งกัน เกิดจากทำคดีกำนันนกซึ่งอาจเชื่อมโยงกับส่วยทางหลวง และคดีเรียกรับเงินเว็บพนันออนไลน์ เป้รักผู้การ 140 ล้านบาท พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกัน
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยังเปิดเผยว่าได้มีคำสั่งมอบหมายให้ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะพนักงานสอบสวนชุดเก่า เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีเว็บพนัน BNK Master พื้นที่ สน.เตาปูน ซึ่งการสอบสวนในอนาคตหากพบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดก็จะมีการพิจารณาส่งสำนวนไปยัง ป.ป.ช. กรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ แต่ในเรื่องดังกล่าวทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ มี หนังสือขอข้อมูลมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งได้ส่งข้อมูลกลับไปแล้ว