ศรีสุวรรณยื่น ปปช.ให้เอาผิด พล.อ.ประยุทธและคณะรัฐบาล กรณี พ.ร.ก.อุ้มหาย

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 6 มิ.ย.66 ที่สำนักงาน ปปช. ถนนนนทบุรี ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายพิศิษฐ์ พัฒนกิจจำรูญ ผอ.สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงาน ปปช.เพื่อให้ไต่สวนเอาผิดคณะรัฐบาลหลังออกพ.ร.ก.เลื่อนการบังคับใช้กฏหมายอุ้มหาย

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา กรณีที่ส.ส.ได้เข้าชื่อกัน 99 คนเพื่อเสนอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร เสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยว่าการที่ คณะรัฐมนตรีหรือรัฐบาล ออกพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อเลื่อนการบังคับใช้พระราชบัญญัติการอุ้มหาย ออกไปจากวันที่ 22 กุมภาพันธ์ปี 66 ไปเป็นวันที่ 1 ตุลาคมปี 66 การกระทำดังกล่าวอ้างว่ามีความจำเป็น ที่สามารถกระทำได้ตามมาตรา 172 วรรคแรก ของรัฐธรรมนูญ แต่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยชัดเจนแล้วว่า การใช้อำนาจตามมาตรา 172 วรรคแรก ของรัฐบาลนั้นไม่สามารถทำได้ ขับต่อรัฐธรรมนูญตกไปทำให้กฎหมายฉบับดังกล่าวต้องบังคับใช้ทันทีในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ปี 66



นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลที่เริ่มต้นโดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เสนอเรื่องเข้าครม.เพื่อขอเสนอความเห็นชอบและอนุมัติ ให้มีการเสนอพระราชกำหนดออกมา เพื่อเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายอุ้มหาย ต้องมีความรับผิดชอบหรือแสดงความรับผิดชอบต่อคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะคนที่เกิดการสูญเสียจากการสูญหายของบุคคลอันเป็นที่รักของตนเองไป



นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า การที่รัฐบาลรัฐบาลมาเลื่อนการบังคับใช้กฎหมาย นอกจากจะไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 172 วรรคแรกแล้ว ในรัฐธรรมนูญมาตรา 53 ก็ระบุไว้ชัดเจนว่ารัฐบาลมีหน้าที่ในการที่จะบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด การที่รัฐบาลใช้อำนาจโดยพลการ เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายที่มีความสำคัญเหล่านี้ ถือว่าเป็นการอาจจะเข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจที่จะละเลยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่จนก่อให้เกิดผลกระทบ ซึ่งอาจจะเป็นความผิดทางด้านจริยธรรมอย่างร้ายแรง เรื่องนี้สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญจึงรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดมายื่นให้ป.ป.ช.เพื่อดำเนินการไต่สวนสอบสวนและเอาผิดนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ผู้เริ่มก่อการและคณะรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต่อไป



นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ผมก็ไปร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ร้องกกต.การเลือกตั้งที่ผ่านมาสำหรับพรรคของพลเอกประยุทธ ผมก็ไปร้องเรื่องการหาเสียงโดยการดึงสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมร้องทุกฝ่ายขึ้นอยู่กับว่าช่วงเวลาใดมีประเด็นกฎหมายที่ไม่ชอบไม่ถูกไม่ต้อง ผมก็รวบรวมพยานหลักฐานมา ซัดหมดครับถ้าใครทำผิดหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม เราก็ทำหน้าที่ของเรา แน่นอนการไปร้องตรวจสอบฝ่ายค้านกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลก็ไชโยโห่ฮิ้ว ผมมาร้องฝ่ายรัฐบาลบ้างกลุ่มทางด้านฝ่ายค้านก็ไชโยโห่ฮิ้ว แต่พอไปร้องฝ่ายค้านมากๆ FC ของฝ่ายค้าน เขาก็ตำหนิติดเตียนบางทีก็มาถล่มผมใน facebook แต่ไม่ระคายผิวผม เพราะว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่เราทำหน้าที่ตามปกติของเรา ใครจะตำหนิติเตียน ใครจะว่าอะไรก็เรื่องของเขา เพราะว่านักเลงที่แท้จริงต้องมาทำอย่างผมนี่ นักเลงที่ไม่แท้จริงหรือนักเลงที่กระจอก ก็คือการไปนั่งอยู่หน้าคอมแล้วก็โพสต์ความเห็นแสดงความเห็นตำหนิติเตียนหรือแซะคนอื่นไปเรื่อยๆ