สังคม

เปิดหลักฐานลอบฝังขยะเคมี อ.ปากช่อง สู่การแจ้งเอาผิด บ.เอกอุทัย

โดย panwilai_c

24 เม.ย. 2566

234 views

หลังจากที่เมื่อคืนนี้ ข่าว 3 มิติ นำเสนอภาพการลักลอบฝังน้ำเสียสารเคมี ลงบนบ่อดินในที่ดินของกรมป่าไม้ ซึ่งอยู่ด้านหลังของโรงงานบริษัทเอกอุทัย จำกัด สาขากลางดง จังหวัด นครราชสีมา โดยขณะนั้นบริษัทเอกอุทัย ยืนยันว่าพฤติกรรมดังกล่าว ไม่เกี่ยวกับบริษัทเอกอุทัย



อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมมลพิษ ซึ่งจัดเจ้าหน้าที่ไปขุดบ่อดินดังกล่าว ขึ้นมาตรวจพบว่าเป็นสารเคมีอันตราย และมีหลักฐานหลายอย่างที่นำไปสู่การแจ้งความบริษัทเอกอุทัย จนนำไปสู่การแจ้งค่าเสียหายและค่าดำเนินการกว่า 165 ล้านบาท โดยจะย้อนกลับไปปมเหตุที่นำมาสู่การยอมขุดบ่อดินขึ้นมาตรวจสอบ จนนำมาสู่การพบหลักฐานดังกล่าว



ภาพแอบถ่ายพฤติกรรมการลักลอบฝังน้ำเสียสารเคมีลงบนดินที่ขุดขึ้นเป็นบ่อ และเมื่อน้ำเสียสารเคมีเริ่มซึม ก็นำดินและหินคลุกลงทับถม ก่อนจะโรยปูนขาวทับอีกชั้น นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อราวธันวาคม 2563 และต้นปี 2564 ซึ่งทำให้ผู้คนรอบข้างได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็นฉุนอย่างมากในขณะนั้น และทำให้น้ำบาดาลก็มีกลิ่นเหม็นฉุน นำมาสู่การร้องเรียนของคนในพื้นที่ นำโดยเทศบาลบลสีมามงคล อ.ปากช่อง



กระทั่งกลางเดือนพฤษภาคม 2564 ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ ประสานกับหลายหน่วยงานเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นโล่ง เรียกกันว่าหน้าถ้ำ อยู่ด้านหลังของโรงงานเอกอุทัยสาขากลางดง และมีทางเข้าออกทางเดียว คือต้องผ่านบริษัทเอกอุทัย กลางดง เท่านั้น



วิธีการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ขณะนั้นคือการนำรถแบคโฮ สุ่มเจาะลงพื้นดินที่สงสัยว่าจะเป็นจุดที่มีการลักลอบฝังสารเคมี และปรากฎว่าเมื่อทดสอบขุดในระดับ 4 ถึง 6 เมตร พบว่าทุกจุดมีกลิ่นเหม็นฉุนสารเคมีรุนแรง โดยเฉพาะ 4 จุดที่ขุด ก็มีค่าไอระเหยของสารอินทรีย์ระเหยง่าย /บางจุดยังมีควันพวยพุ่งขึ้น



เจ้าหน้าที่พบว่าลักษณะของพื้นดินมีการทับถมเป็นชั้นๆ บางชั้นมีลักษณะของสารเคมีปนเปื้อน ขณะนั้นจึงทำบันทึกและเก็บตัวอย่างไปตรวจวิเคราะห์ในห้องปฎบัติการ



อย่างไรก็ตาม บริษัทเอกอุทัย สาขากลางดง ยืนยันในขณะนั้นว่าไม่เกี่ยวข้องกับการฝังกลบสารเคมีดังกล่าว และชี้แจงว่าเป็นผู้มาใช้ประโยชน์ที่ดินต่อจากการซื้อจากเจ้าของเดิม จึงตั้งข้อสังเกตุว่าเป็นเหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะมาซื้อกิจการหรือไม่



อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลจากคนในพื้นที่ว่า ขณะเจ้าของกิจการเดิมใช้ประโยชน์ที่ดินแปลงนี้ มีอาคาร 2 หลังอยู่แล้ว ต่อมาบริษัทเอกอุทัยเข้ามาสร้างเพิ่มอีก 1 หลัง แต่ก็ถูกเทศบาลตำบลสีมามงคล ดำเนินคดีฐานก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงรื้อหลังที่ 3 ออก เหลือเพียงโครงหลังคากองอยู่กับพื้น / และต่อมาก็พบว่าใต้หลังคาที่คลุมอยู่นั้น ก็มีน้ำเสียสารเคมีกักเก็บอยู่จนถึงขณะนี้



อีกด้านหนึ่งกรมควบคุมมลพิษ ได้ตรวจวิเคราะห์ชนิดของสารเคมีดังกล่าว และมีหลักฐานอื่นๆประกอบ จนนำมาสู่การส่งหนังสือ เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา ถึงบริษัทเอกอุทัย สาขากลางดง และกรรมการอีก 2 คน เพื่อให้แสดงเจตนาว่าจะ ชดใช้เงินค่าดำเนินการต่างๆ รวม 165 ล้านบาท หรือไม่ ภายใน 30 วันนับจากได้รับหนังสือ โดยหนึ่งในสาระสำคัญของหนังสือนี้ ก็คือการบ่งชี้ว่าบริัษัทเอกอุทัย เป็นผู้ลักลอบทิ้งน้ำเสียสารเคมีลงบ่อดินดังกล่าว



นายกเทศบาลตำบลสีมามงคล อำเภอปากช่อง เปิดเผยว่ากรณี้เกิดขึ้นมาจะ 2 ปีแล้ว แต่การดำเนินคดีเอาผิด และการชดใช้เยียวยา หรือการบำบัดฟื้นฟู จุดที่ถูกลักลอบทิ้งสารเคมียังไม่เริ่ม ซึ่งสร้างความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมอย่างมาก



สำหรับงานบริษัทเอกอุทัย สาขากลางดง เป็นหนึ่งในกิจการของบริษัทเอกอุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งสาขาที่กลางดง ได้รับอนุญาตกำจัดขยะด้วยวิธีการเผา และกิจการที่นี่ก็เป็นโรงงานปูนขาว แต่ขณะนี้โรงงานถูกกรมโรงงานอุตสาหกรรมสั่งหยุดประกอบกิจการชั่วคราว หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ปริศนาขึ้น 2 ครั้ง



เหตุเพลิงไหม้ครั้งที่ 1 เกิดขึ้นราว 4 ทุ่มของวันที่ 16 กรกฎาคม ปี 2564 จุดที่เกิดเพลิงไหม้ เป็นบ่อเก็บน้ำมันเก่าใช้แล้ว และขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่คนงานนำน้ำมันเก่า จากมาบตาพุด จ.ระยอง เข้ามาเก็บในโรงงาน ขณะนั้นมีคนงานบาดเจ็บ 1 คน



ต่อมาก็เกิดเพลิงไหม้อีก เมื่อวันที่ 4กันยายน 2564 ซึ่งขณะเกิดเหตุกลางดึก ต้องระดมรถดับเพลิงจากหลายท้องที่เข้าไปช่วยดับเพลิง ท่ามกลางกลิ่นเหม็นฉุนของสารเคมี และดับเพลิงได้ในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง



ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นเป็นต้นมา โรงงานก็ถูกสั่งระงับกิจการ แต่ระหว่างนั้นก็มีการร้องเรียนว่ามีการลักลอบนำกากขยะ สารเคมีจากที่ต่างๆมาเก็บไว้ที่นี่ โดยเก็บไว้ที่โล่งกลางแจ้ง ซึ่งผิดระเบียบการเก็บกากขยะเคมี จึงมีการร้องเรียนไปที่อุตสาหกรรมจังหวัดอีกครั้ง จนพบว่ากากขยะเคมีเหล่านั้นถูกย้ายออกไป



กระทั่งสัปดาห์ที่แล้ว ที่อธิบดีกรมโรงงาน ลงพื้นที่ซ้ำอีก พร้อมกับอายัดสารเคมีอีกจำนวนมากในโกดัง 3 หลัง พร้อมสั่งให้เอกอุทัยนำไปกำจัดภายใน 15 พฤษภาคมนี้

คุณอาจสนใจ

Related News