สังคม
กรมโรงงานฯ-ตร. ตรวจที่ดินส่วนบุคคล หลังทราบ บ.เอกอุทัย เช่าลอบฝังกากสารเคมี
โดย parichat_p
9 มิ.ย. 2567
135 views
เมื่อวานนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมตำรวจภูธรอุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำหมายค้น ไปค้นที่ดินเปล่าแปลงหนึ่งในอำเภออุทัย หลังสืบทราบว่าบริษัทเอกอุทัย สาขาสามบัณฑิต เคยไปเช่าที่ดินแปลงนี้เพื่อเป็นที่จอดรถและสำนักงานชั่วคราว แต่ถูกเจ้าของที่ดินฟ้องขับไล่เพราะค้างค่าเช่า แต่ที่สำคัญคือพบการลักลอบฝังกากสารเคมีอันตราย ไว้บนที่ดินดังกล่าวด้วย เจ้าหน้าที่ได้อายัดของกลางทั้งหมด รวมถึงรถบรรทุกสารเคมีไว้ตรวจสอบ
เจ้าหน้าที่กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมกับตำรวจภูธรอุทัย และฝ่ายปกครองอำเภออุทัย นำหมายค้นศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจค้นที่ดินและบ้านหลังหนึ่ง ที่หมู่ 3 ตำบลเสนา อำเภออุทัย หลังจากสืบทราบว่าบริษัทเอกอุทัย เคยมาเช่าที่ดินแปลงนี้ไว้ตั้งแต่ปี 2564 ต่อมาถูกเจ้าของที่ดินฟ้องร้องเพราะไม่จ่ายค่าเช่าและที่สำคัญคือพบการลักลอบเก็กสารเคมีไว้จำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ได้นำรถแบ็คโฮเข้าไปขุดสำรวจบริเวณที่คาดว่ามีการลักลอบฝังกลบสารเคมีอันตรายจำนวน 3 จุด จนพบกากตะกอนสีดำ ,สีส้ม และมีกลิ่นเหม็นฉุนลอยขึ้นมา จึงเก็บตัวอย่างกากตะกอนดังกล่าว เพื่อนำมาตรวจวัดวิเคราะห์เบื้องต้นพบว่ามีค่า PH อยู่ที่ ศูนย์ ถึง 1 ( 0-1 ) หรือมีค่าเป็นกรดรุนแรง
และนอกจากพบการลักลอบฝังกากสารเคมีไว้ใต้ดินแล้ว ยังพบกรดเสื่อมสภาพในถัง IBC และกากสีในถังเหล็กขนาด 200 ลิตร วางเรียงรายกันอยู่จำนวนมาก บนพื้นที่ดังกล่าว จึงเก็บตัวอย่างทั้งหมดไปวิเคราะห์อย่างละเอียด
ข่าว 3 มิติ พบว่าที่ดินแปลงนี้ เดิมเป็นที่ว่างเปล่าเนื้อที่รวม 7 ไร่ เศษ บริษัทเอกอุทัย ได้เช่าที่ดินแปลงนี้ระบุว่าเพื่อเป็นที่จอดรถบรรทุก ทำสำนักงานชั่วคราว และเก็บสินค้าของบริษัท ค่าเช่าเดือนละ 55,000 บาท สัญญาเช่ากำหนด 3 ปี เริ่ม 2 พฤศจิกายน 2564 สิ้นสุด 2 พฤศจิกายน 2567
แต่นับจากสิงหาคม 2566 ถึง ตุลาคม 2566 เจ้าของที่ดินไม่ได้รับค่าเช่า ทวงถามแล้วก็ไม่ได้รับคำตอบ จนต่อมามีเหตุให้ต้องฟ้องร้องเป็นคดีทางแพ่ง เรียกค่าเช่าที่ค้างและค่าเสียหาย ซึ่งเจ้าของที่ดินชนะคดีต่อบริษัทเอกอุทัย และคดีสิ้นสุดแล้วและก็เป็นที่น่าสังเกตุว่า ในคำพิพากษา มีหลายช่วงที่ระบุว่าด้วยว่า จำเลยผิดสัญญาเช่า โดยนำวัตถุและสารเคมีอันตรายมาฝังกลบในที่ดินที่เช่า ถือว่าผิดเงื่อนไข
ข่าว 3 มิติยังได้ข้อมูลว่า เจ้าของที่ดินได้พบข้อสงสัยตั้งแต่ปีที่แล้วเช่นกัน ว่าที่ดินบริเวณให้เช่ามีน้ำเสียกลิ่นเหม็นฉุน /วัชพืช และต้นมะม่วงที่ปลูกอยู่ค้างเคียงยืนต้นต้น เจ้าของที่ดินเคยเข้าไปตรวจสอบบริเวณนั้นด้วยตัวเอง ประกอบกับช่วงนั้นมีข่าวการลักลอบทิ้งสารเคมีในอำเภอภาชี ที่เชื่อว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลของการทำหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าเมื่อตุลาคมปีที่แล้ว
โดยส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่า ส่งถึงบริษัทเอกอุทัย และกรรมการผู้มีอำนาจลงนามทั้ง 2 คน ในขณะนั้น คือนางสาววราลี กิจสอาด และนายกลวัชร เทพาพรสุวรรณ
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตุว่า ช่วงแรกๆ ที่บริษัทเอกอุทัยค้างจ่ายค่าเช่า เจ้าของที่ดินได้ทวงเงินไปที่ชายชื่อโอภาส และสื่อสารทางไลน์กับนายโอภาส เป็นหลัก กระทั่งได้เงินค่าเช่า แต่โอนมาจากบัญชีของบริษัทเอกอุทัย
หลังการตรวจค้นเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำรายงานแจ้งการตรวจค้นให้ศาลรับทราบ และได้ลงบันทึกประจำวันที่สภ.อุทัย ถึงการยึดอายัด ของกลางทั้งหมด โดยเฉพาะรถบรรทุก หัวลาก พ่วงลาก และรถยนต์ส่วนบุคคล พร้อมทั้งเตรียมแจ้งความดำเนินคดีฐานครอบครองวัตถุอันตราย ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ส่วนจะมีข้อกล่าวหาอื่นอีกหรือไม่ อยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม
แท็กที่เกี่ยวข้อง กรมโรงงานอุตสาหกรรม ,บ.เอกอุทัย ,โรงงานสารเคมี ,ลอบฝังสารเคมี