อาชญากรรม

เปิดคำรับสารภาพ ‘ไอ้ตาล’ ฆ่าผจก.แบงก์ฝังดิน อ้างไปทวงค่าแรง 5 พันถูกตบบ้องหู แม่ลั่น! ขอให้ประหาร

โดย petchpawee_k

21 เม.ย. 2566

133 views

รวบแล้ว ‘ไอ้ตาล’ ฆ่า ผจก.แบงค์ ฝังดิน สารภาพไปทวงค่าแรง 5 พัน แต่ถูกตบบ้องหู โมโหใช้พัดลมตั้งโต๊ะฟาดหัว-ใช้มือบีบคอใช้เข่ากระทุ้งชายโครงจนกระอักเลือดแน่นิ่ง ฆ่าเสร็จนอนเฝ้าศพ 2 คืน ก่อนใช้เชือกไนล่อนลากศพไปฝัง ใช้ทราย-หินกลบร่าง แม่ลั่น! “ขอให้เอ็งรับกรรมสู่หลักประหารเถอะ” ลูกสาวผู้ตายเกาะห้องขังตะโกนด่า“มึงทำพ่อกูทำไม”



จากกรณีนายทัศพงษ์ หรือตาล สุพรมอินทร์ อายุ 32 ปี  คนงานซ่อมแซมหอพัก ก่อเหตุฆ่านายโรจน์นฤเบศร์  หัสดินเดชดำรง อายุ 53 ปี นายจ้าง ผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่งและนำศพไปฝังดินในบริเวณบ้านพักที่ ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ก่อนจะล็อกกุญแจบ้านพร้อมกระเป๋าสะพายขึ้นแท็กซี่หลบหนีไป


ล่าสุดเมื่อวานนี้ (20 เม.ย.) ตำรวจจับกุมตัวนายทัศพงษ์ ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี นายทัศพงษ์ ข้อหาฆ่าผู้อื่นตาย และลอบฝังซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย  โดยจับได้บริเวณปากซอยประชาสงเคราะห์ 14  หรือซอยพร้อมพันธ์ แขวงและเขตดินแดง กทม.



โดยนายทัศพงษ์ หรือ ตาล ผู้ก่อเหตุหลบหนีเข้ามาในพื้นที่เขตนครบาล กระทั่งวันที่ 19 เมษายน เวลา 08.00 น. เดินจากสะพานแดง มุ่งหน้าแยกเกียกกาย โดยการแต่งกาย เสื้อยืดแขนยาว กางเกงผ้าร่มสีดำ สะพานเป้สีดำ มีอาการพูดกับตัวเองตลอดเวลาคล้ายคนวิกลจริต เจ้าหน้าที่ติดตามไปจับกุมนำตัวไปสอบสวนที่ สน.ดินแดง


พ.ต.อ.ศักยะ แสงสรรณ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่าผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ วันที่ 16 เมษายน ตนเองเข้าไปขอเงินค่าแรงจากนายจ้างซึ่งเป็นผู้ตาย แต่ผู้ตายไม่ยอมจ่ายตามที่สัญญาไว้ จึงเกิดการโต้เถียงกัน จนโมโหและผู้ต้องหาอ้างผู้ตายเข้ามาทำร้ายตนเองด้านหลัง จึงใช้พัดลมตั้งโต๊ะฟาดศีรษะ จนมึนก่อนใช้มือบีบคอจนเสียชีวิต


จากนั้นก็เอาศพไปฝังข้างบ้าน และนอนเฝ้าศพอยู่ 2 คืน จนกระทั้งช่วงเย็นวันที่ 18 เมษายน ลูกสาวผู้ตายเดินทางมาที่บ้านทำให้ผู้ต้องหาตกใจ จึงหลบหนีและนั่งรถแท็กซี่ หนีไปย่านบางเขน ก่อนจะเดินเท้ามานอนใต้สะพานแดงแถวเกียกกาย และเดินเท้าต่อมาที่ซอยประชาสงเคราะห์ 14 เพื่อมาหาเพื่อน แต่มีพลเมืองดีเห็นรูปพรรณสัณฐานตรงกับที่ออกข่าวเป็นคนร้ายฆ่าโหดนายจ้างฝั่งจึงโทรรีบแจ้ง 191 ก่อนเข้าจับกุม



ส่วนของกลางที่ติดตัวมา มีเงินของผู้ตาย จำนวน 1 พันบาท และบัตรเอทีเอ็ม ซึ่งระหว่างหลบหนีผู้ต้องหานำเอทีเอ็มไปกดที่ตู้กดเงิน แต่ไม่รู้รหัส จึงทำให้บัตรถูกยึดไป ส่วนหนังสือการ์ตูนกังฟูพกติดตัวเพราะความชอบส่วนตัว และอาวุธปืนก็เป็นของปลอม



ตรวจสอบข้อมูลพบว่า ผู้ต้องหาเป็นชาว จ.เลย เคยมีประวัติเคยขู่ฆ่าแม่ของตัวเองมาแล้ว และเพิ่งมารับจ้างซ่อมแซมหอพักให้ผู้เสียชีวิตได้ประมาณ 2-3 เดือน ต่อมา พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สส.ภ.จ.นนทบุรี พร้อมกำลังมารับตัวผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรน้อย ไปสอบปากคำ


จากการสอบสวนเบื้องต้นนายทัศพงษ์ ให้การรับสารภาพว่า ในวันที่เกิดเหตุได้เข้าไปหานายโรจน์นฤเบศร์ นายจ้าง ที่บ้านพักเรือนไม้หลังเล็กเพื่อทวงค่าแรงตำนวน 5 พันบาท ตามที่ได้ตกลงมาทำงานกับนายโจน์นฤเบศร์ ปรากฏว่าในตอนนั้นนายโรจน์นฤเบศร์ ได้นุ่งผ้าขนหนูอยู่เพียงผืนเดียว ซึ่งหลังจากนายทัศพงษ์ ได้เอ่ยปากทวงค่าแรงไปแล้ว นายโรจน์นฤเบศร์ ได้อ้างเหตุผลต่าง ๆ นานา ที่จะไม่จ่ายค่าแรงให้กับนายทัศพงษ์


ทำให้นายทัศพงษ์ เกิดความไม่พอใจ จึงนั่งรอนายโรจน์นฤเบศร์ อยู่ในห้องโดยนั่งหันหลังให้ แต่ถูกนายโรจน์นฤเบศร์ เดินอ้อมมาตบเข้าบ้องหูทั้งสองข้าง โดยนายทัศพงษ์ เกิดความโมโหบันดาลโทสะเข้าทำร้ายร่างกายนายโจน์นฤเบศร์ ด้วยการบีบคอและใช้เข่ากระทุ้งเข้าที่ชายโครง จนนายโรจน์นฤเบศร์ กระอักเลือดและแน่นิ่งไปในที่สุด ต่อมาหลังพบว่านายโรจน์นฤเบศร์ ได้เสียชีวิตแล้ว จึงได้ใช้เชือกไนล่อนที่อยู่ข้างบ้านของผู้ตายมาลากศพนำไปวางไว้ในกองทราย จากนั้นจึงใช้ทรายและหินมากลบร่างเอาไว้



ทั้งนี้ผลจากการชันสูตรของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุตรงกับคำให้การของผู้ต้องหารายนี้ว่านายโรจน์นฤเบศร์ เสียชีวิตจากการถูกรัดคอจนขาดอาการหายใจและกระดูกซี่โครงหักหลายท่อน


ต่อมาตำรวจ สภ.ไทรน้อย คุมตัวนายทัศพงษ์ หรือ ตาล  ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ


ที่บ้านเลขที่ 75/114 หมู่ 3 ซอยฉัตรหลวง 2 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี โดยจุดแรกภายในบ้านเรือนไม้ที่ทั้งคู่มีปากเสียงกัน และนายทัศพงษ์ ทำร้ายนายโรจน์นฤเบศร์ จนเสียชีวิต  จุดที่สอง หลังนายโรจน์นฤเบศร์ เสียชีวิต นายทัศพงษ์ ได้นำเชือกมามัดแล้วลากศพ ไปด้านหลังเรือนไม้แล้วขุดหลุดฝังร่างผู้ตาย ก่อนนำหินและทรายมากลบทับเพื่อปิดบังอำพราง จากนั้นได้ควบคุมตัวกลับมาที่ สภ.ไทรน้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ขณะที่ น.ส.ณกฤติกา อายุ 20 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต เดินทางไปที่ สภ.ไทรน้อย เพื่อขอดูหน้าผู้ต้องหา  โดยลูกสาวผู้เสียชีวิตยืนเกาะห้องขังตะโกนด่านายตาล ด้วยความโกรธแค้นว่า


“เลี้ยงสุขสบายมึงไปทำเขาทำไม มึงไม่สงสารกูหรือไง กูอายุเพียงเท่านี้ต้องมาโดนพ่อทิ้ง  มึงไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว คนอย่างมึงมันไร้ค่ายิ่งกว่าพ่อกูอีก มึงทำพ่อกูทำไม บอกกูอย่าใส่อารมณ์แล้วตอนมึงทำเขามึงถามเขาบ้างมั้ย  มึงก็พูดอะไรเพราะพ่อกูตายไปแล้ว กูถามมึงทำทำไม มึงพูดกับนักข่าวไม่เป็นความจริงสักอย่าง กูมีพยานหลักฐานทุกอย่าง มึงอยู่บ้านเขาไม่แหกตาดูว่ามีกล้องวงจรปิด โง่หรือเปล่าไอ้ควาย แล้วตอนที่เบิกเงินไปทำไมไม่พูดถึง”


ลูกสาวผู้เสียชีวิต กล่าวภายหลังจับกุมผู้ต้องหาได้ว่า รู้สึกสบายใจขึ้นที่จับกุมคนร้ายได้ ขอบคุณพลเมืองดีที่ส่งคลิปแจ้งเบาะแสเจอคนร้ายมาให้ตน จนตำรวจจับกุมตัวได้ ยืนยันคำเดิมจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดไม่ยอมความ อยากให้คนร้ายมาขอขมาศพ ตนจะไม่อโหสิกรรมให้คนร้าย เหตุที่เกิดขึ้นมันสะเทือนใจ  โหดจนไม่มีคำจพูด


ทั้งนี้พ่อของตนให้ค่าจ้างตลอดไม่เคยเบี้ยว จะมาพูดแบบนี้ไม่ได้ ต้องให้พ่อของตนเบี้ยวค่าแรงหรือด่าทอก็ไม่มีสิทธิ์มาฆ่า พูดดี ๆ กันได้ ไม่ใช่มาทำแบบนี้ ตนยืนยันคำเดิมอยากให้ประหาร ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต จะได้ไม่ต้องไปทำกับคนอื่นอีก เขาติดคุกพ่อแม่ญาติพี่น้องเขาก็ยังได้คุยไปเยี่ยมกันในคุกได้ แต่พ่อของตนจากไปโดยไม่ได้พูดร่ำลาอะไรสักคำ แม่ผู้องหามาขอโทษตนก็รับไว้ เพราะแม่ก็ไม่ได้เข้าข้างลูกตัวเอง


 น.ส.ทัศนีย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี แม่ของผู้ต้องหา เผยว่า โล่งอกที่ตำรวจจับกุมได้ เมื่อคืนนอนไม่หลับกลัวลูกชายย้อนกลับมาทำร้าย อยากให้ดำเนินคดีถึงที่สุด อยากให้ประหารไปเลย โดยแม่พูดถึงนายนายตาลว่า “ขอให้รับกรรม ตายตกไปตามกัน เกินเยียวยา สั่งสอนมาตลอดให้รู้จักกตัญญูทดแทนบุญคุณผู้มีพระคุณ เขาให้ที่อยู่ที่กินให้โอกาสในการทำงาน ไปทำร้ายเขามันโหดเหี้ยมมาก มันเกินคน ขอให้เอ็งรับกรรมนะ รับโทษประหารเถอะ แม่เชื่อว่าถ้าออกจากคุกมา ชีวิตคนอื่นจะต้องมาตายอีกหรือเปล่า อโหสิกรรมต่อกันแล้วขอให้เอ็งสู่หลักประหารเถอะ”


แม่ของผู้ต้องหา ยังบอกอีกว่า ลูกคนนี้ไม่เอาแล้ว เพราะถ้าเขาคิดว่าเป็นลูกเราจะไม่ขู่ฆ่าเราแบบนี้ จะไม่ทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ทั้งนี้ตนได้กราบขอโทษลูกสาวผู้ตายไปแล้ว ลูกสาวผู้ตายไม่ได้พูดอะไร แต่หลานสาวผู้ตายรับไหว้/ ซึ่งตนตั้งใจสวมใส่ชุดดำ จะขอไปงานศพแต่ลูกสาวผู้ตายบอกตอนนี้ยังไม่ต้อง จึงตอบกลับไปว่า “แม่ เข้าใจความสูญเสีย”



อย่างไรก็ตามตนมองว่าลูกชายไม่สมควรทำ ถ้าไม่พอใจอะไรควรออกมา ไม่สมควรไปฆ่าเขา การที่เขาให้อยู่ในบ้านก็ดีมากแล้ว ความผิดของแม่คือไม่สามารถเลี้ยงเขาให้เป็นคนดีได้  แม่คิดว่าลูกชายไม่ได้วิกลจริตเพราะบางครั้งเขาดูฉลาดมาก เวลาไม่ดื่มเหล้าจะคุยรู้เรื่องมาก ยืนยันจะไม่ไปเยี่ยมหรือประกันตัว ถ้าไปก็อยากไปตีและจะถามว่าทำเขาทำไม


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/o-X5rs8YN3M

คุณอาจสนใจ

Related News