ล่า 2 มือปืน กระหน่ำยิงหนุ่มช่างเขียนแบบ ดับคาบ้าน ครอบครัวยันจะไม่เผาศพจนกว่าจะจับคนร้ายได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 25 ก.พ.66 ตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันภายในบ้าน หมู่บ้านวนารมย์ซอย 2 แยกจากซอยสุขสวัสดิ์ 100 มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง


โดยภาพจากกล้องวงจรปิด พบชายวัยรุ่นจำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงเกียร์ออโตเมติ ยังไม่ทราบรุ่นและยี่ห้อ โดยคนขับสวมเสื้อคลุมแบบแจ็กเก็ตสีขาว สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบยังไม่ทราบสี ส่วนคนซ้อนท้ายสวมเสื้อคลุมสีขาว สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีเทา สวมถุงมือผ้าสีขาว ได้ขับขี่เข้ามาในซอยหมู่บ้านวนารมย์ โดยเข้าไปในซอย 1 แล้วเลี้ยวลัดออกมาท้ายซอย 2 เมื่อมาถึงหน้าบ้านผู้เสียชีวิต คนซ้อนท้ายได้ลงจากรถ ก่อนที่จะชักปืนกระหน่ำยิงผู้ตาย แล้วรีบวิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป


ขณะที่กล้องวงจรปิดภายในบ้านที่เกิดเหตุ จับภาพวินาทีที่คนร้ายจอดรถบริเวณหน้าบ้าน ก่อนที่จะวิ่งลงมากระหน่ำยิง ผู้เสียชีวิตที่สวมเสื้อสีขาว ที่โดนยิงบริเวณท้อง ก่อนที่ผู้เสียชีวิตและเพื่อนจะวิ่งเข้าไปหลบด้านในบ้าน


ที่เกิดเหตุเป็นบ้านแบบทาวน์เฮ้าส์ขนาด 2 ชั้น บริเวณภายในบ้าน พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย ทราบชื่อภายหลัง นายพงษ์อนันต์ หรือ นายเต๋อ อายุ 28 ปี นอนหงายหายใจรวยรินอยู่บนพื้นบ้าน โดยมีญาติพี่น้องต่างช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ตรวจสอบตามลำตัวพบถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด เข้าบริเวณหน้าอกจำวน 3 นัด หน้าท้อง 2 นัด ทะลุหลังอาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ชีพเร่งนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง แต่ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบภายในบ้านพบหัวกระสุนปืนยังไม่ทราบขนาด ตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 2 หัว เจ้าหน้าที่จึงบันทึกภาพก่อนเก็บไว้เป็นหลักฐาน


สอบถาม นายกิตติศัพท์ อายุ 27 ปี เพื่อนผู้ตายที่อยู่ในที่เกิดเหตุ และเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เล่าว่า ผู้ตายเป็นนักเขียนแบบและออกแบบการก่อสร้างอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่งย่านประชาอุทิศ และตนอยู่บ้านติดกันกับผู้ตาย ก่อนเกิดเหตุตนกลับมาจากทำธุระย่านเทพารักษ์ และมาแวะนั่งคุยกับผู้ตายในบ้านเกิดเหตุ ระหว่างที่ตนนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ในเปล และผู้ตายกำลังยืนดูฟุตบอลต่างประเทศผ่านคอมพิวเตอร์อยู่หน้าบ้าน ได้เห็นรถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงเกียร์ออโตเมติสีแดงมาจอดบริเวณหน้าบ้าน


โดยมีชาย 2 คนขับขี่และซ้อนท้ายมาด้วยกัน ก่อนที่คนซ้อนท้ายจะเดินลงมาหน้าบ้านแล้วชักปืนไม่ทราบขนาด กระหน่ำยิงผู้ตาย 4-5 นัด ก่อนที่จะรีบขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดรออยู่หลบหนีไป ตนตกใจทำอะไรไม่ถูก เห็นผู้ตายวิ่งกระเสือกกระสนหลบเข้าไปในบ้าน และมีเลือดออกไหลเป็นทาง จึงตะโกนเรียกคนในบ้านให้รีบออกมาช่วยเหลือ พร้อมโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยให้รีบเดินทางมาช่วยเหลือ


ต่อมาวานนี้ (26 ก.พ.) เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณหมู่บ้านวรารมย์ซอย 2 ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุมือปืนยิงหนุ่มนักเขียนแบบจนเสียชีวิต พบว่าครอบครัวอยู่ในความโศกเศร้า โดยเฉพาะพ่อกับเเม่ ที่ทำใจไม่ได้และยังคิดถึงลูกชาย


โดย นายเกรียงศักดิ์ พ่อของผู้ตาย เล่าว่า จุดที่ลูกชายมาล้มลงเสียชีวิต หลังจากถูกยิงไป 3 นัด คือบริเวณหน้าห้องนอนของเขา ซึ่งอยู่ติดกับคุณพ่อ หลังจากถูกยิง นายเต๋อพยายามวิ่งเข้ามาในบ้าน พ่อออกมาจากห้องนอนเห็นนายเต๋อถูกยิง และพยายามช่วยประคอง จนนายเต๋อนอยเสียชีวิตบนตักของพ่อ โดยที่พ่อเสียใจที่ไม่สามารถช่วยชีวิตลูกได้และจากไปโดยไม่ได้ร่ำลา


นายเกรียงศักดิ์ บอกด้วยว่า นายเต๋อเป็นคนเรียบร้อย นิสัยดีมาก ถาม 100 คน ก็บอก 100 คน ว่าเขานิสัยดี เพื่อนรักทุกคน ขณะนี้คุณพ่อบอกว่า ก็ยังเดาไม่ถูก ว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไร เพราะเขาไม่มีศัตรูทั้งนั้น ลูกมีเเต่มิตร ทั้งปัญหาที่ทำงานพ่อบอกว่า เพื่อน ๆ ร่วมงานก็รักทุกคน ยังโทรมาเเสดงความเสียใจ ส่วนปัญหาเรื่องชู้สาว ก็ไม่มี แฟนสาวของลูกชาย นิสัยดี คบกันมา 10 ปี ลูกชายกำลังจะแต่งงานปลายปี เพิ่งคุยกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะไปสู่ขอแฟนสาว เพื่อแต่งงาน หลังจากนี้ต้องทวงความยุติธรรมให้กับลูกชาย ขณะนี้ยังไม่ได้รับการแจ้งความคืบหน้าจากตำรวจ อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว หากยังจับไม่ได้ ก็ยืนยันว่าจะไม่เผาศพลูกชาย


ขณะที่คุณเเม่ศศิมา ก็ต้องการขอความเป็นธรรมให้ลูก พร้อมเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คุณเเม่ร่ำไห้บอกว่า นายเต๋อเป็นเสาหลัก เเม่ก็ฝากความหวังกับเขาไว้ เเม่ภูมิใจลูกชาย ลูกชายเป็นคนเก่ง กว่าจะเรียนจบมาได้ก็ต้องเรียนถึง 5 ปี เเล้วก็มาพรากดวงใจแม่ไปอีก อยากถามเขาว่า อยู่ดีดีมาฆ่าเขาทำไม ผิดอะไรทำไมไม่คุยกันดี ๆ พร้อมตั้งคำถามว่า เเล้วทำไมปืนถึงหาซื้อกันได้ง่ายขนาดนี้ ยิงลูกจนพรุน รักษาไม่ได้ มันโหดร้ายเกินไป ถ้าลูกเกเรไปติดยากินเหล้า แม่จะไม่ว่าอะไรเลย นี่เขาอยู่กับพ่อกับเเม่ เเม่อยากให้คนทำ เขาตายตามลูกเเม่ไปเลย เเม่เลี้ยงลูกมาอย่างดี เหมือนไข่ในหิน


ขณะที่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ครอบครัวรับศพมาจากโรงพยาบาลตำรวจ หลังถูกนำไปผ่าชันสูตร ตั้งเเต่เมื่อคืนวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยบรรยากาศที่วัดใหญ่บางปลากด ศาลา 1 ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพนายเต๋อ มีบรรดาญาติและกลุ่มเพื่อนต่างช่วยกันจัดสถานที่พร้อมรอรับร่างของนายเต๋อ โดยเวลาประมาณ 14.30 น. รถตู้ที่นำร่างของนายเต๋อ มาถึงบริเวณศาลา บรรดากลุ่มเพื่อนและญาติพี่น้องต่างช่วยกันนำร่างของนายเต๋อ เข้าศาลาเพื่อเตรียมสวดพระอภิธรรม โดยจะสวดทั้งหมด 3 คืน และทำการฌาปนกิจศพ ซึ่งบรรยากาศทั่วไปอยู่ในอาการเศร้าโศก


ในส่วนทางด้านคดีนั้น ทาง พ.ต.อ.ทศพล ทองใบ ผู้กำกับการ สภ.พระสมุทรเจดีย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ระบุว่า ขณะนี้ตำรวจยังคงเร่งแกะรอยเส้นทางวงจรปิดตั้งเเต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งจากการปิดบังอำพรางใบหน้าและใส่หมวกกันน็อก ทำให้ยากต่อการติดตามตัว นอกจากนี้คนร้ายยังไม่ติดเเผ่นป้ายทะเบียน กล้องบางจุดก็มีเสีย โดยตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดไปจนถึงเขตกรุงเทพมหานครแล้ว แต่เนื่องด้วยเป็นวัดหยุด คงต้องรอประสานผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อขอดูภาพเพิ่มเติม


นอกจากนี้ยังมีการสอบปากคำพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ 4 ปาก สอบปากคำคนใกล้ชิด สอบเพื่อน สอบแฟนสาว ยังไม่ได้เค้าลางหรือชนวนการก่อเหตุ เพราะทุกปากต่างให้การตรงกันว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนดี เป็นคนเรียบร้อย ไม่มีเรื่องทะเลาะกับใคร ไม่ใช่คนเกเร ส่วนจะยิงผิดตัวหรือไม่ ไม่อยากยืนยัน เพราะกำลังแกะรอยเต็มที่


ทางผู้บังคับบัญชายังได้กำชับให้ติดตามตัวคนร้ายให้ได้เร็วที่สุด และจะให้ความเป็นธรรมกับพ่อเเม่ อย่างเต็มที่ นำคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด และดำเนินการอย่างเต็มที่ เพราะคดีนี้เป็นคดีอุกอาจ

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/QUZWaghYA6M