แก๊งมิจฉาชีพเปลี่ยนมุก แฮกเฟซบุ๊กหลอกโอนเงิน ไม่เน้นจำนวนเงินแต่เน้นปริมาณเหยื่อ

มิจฉาชีพ ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะคิดฉ้อโกง หลังจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเหยื่อได้ยากขึ้น อีกทั้งถูกตำรวจจับไปหลายเครือข่าย ทำให้แก๊งมิจฉาชีพ ได้เริ่มกลับมาใช้วิธีการหลอกลวงรูปแบบเดิม ทั้งการแฮ็กเฟซบุ๊ก และการหลอกรายย่อย โดยเป็นการหลอกฉ้อโกงเป็นเงินจำนวนไม่มาก แต่เน้นปริมาณเหยื่อจำนวนมากขึ้น



การเข้าจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลบหนีกลับเข้ามาตามเส้นทางธรรมชาติ หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ออกหมายจับและการกวาดล้างกลุ่มนายทุนจีนเทา ที่บางกลุ่มเกี่ยวข้องกับนายทุนแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่นำเงินจากการหลอกคนไทย มาฟอกเงินในรูปแบบต่างๆ ทำให้ขณะนี้ การหากินของแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกได้ยากน้อยลงไปอย่างมาก



ทำให้มิจฉาชีพที่เคยหลอกลวงเป็นอาชีพ หรือเคยทำงานอยู่ในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แตกเป็นกองทัพมด แยกเป็นเครือข่ายรายย่อย แต่ยังคงรวมตัวกันฉ้อโกง หลอกลวงเช่นเดิม



อดีตผู้บริหารองค์กรหนึ่ง ถูกนำภาพในเฟซบุ๊กไปแอบอ้าง สร้างเป็นเฟซบุ๊กที่ชื่อเดียวกัน ใช้รูปภาพเดียวกัน และส่งข้อความไปหากลุ่มเพื่อนๆ เชิญชวนให้ร่วมบริจาคทำบุญ เพื่อซื้อเครื่องออกซิเจน บริจาคให้โรงพยาบาล จึงมีเพื่อนหลงเชื่อโอนเงินร่วมทำบุญ และมิจฉาชีพที่แอบอ้างเฟซบุ๊กยังขอยืมเงินทำบุญก่อน และจะโอนให้ในอีกไม่กี่ชั่วโมง

เมื่อมีเพื่อนหลงเชื่อโอนไปยังบัญชีม้าแล้ว มิจฉาชีพก็ปิดเฟซบุ๊ก ติดต่อไม่ได้ทันที ขณะนั้นได้มีเพื่อนหลายรายเริ่มโทรมาสอบถาม ทำให้เจ้าของเฟซบุ๊กตัวจริงเพิ่งทราบว่า ถูกมิจฉาชีพนำเฟซบุ๊กไปหลอกเงินเพื่อนให้ร่วมทำบุญ



ส่วนมาก เพื่อนที่โอนเงินจะเข้าใจว่าเป็นเพื่อนตัวจริง และไม่กล้าโทรไปสอบถาม เพราะมิจฉาชีพมักแอบอ้างผู้ที่เป็นหัวหน้างาน และส่งข้อความไปยืมเงินลูกน้อง ทำให้ลูกน้องไม่กล้าโทรไปสอบถาม



ขณะที่ตำรวจหญิงคนนี้ ถูกมิจฉาชีพแอบอ้างปลอมเฟซบุ๊กไปหลอกคนรู้จักเช่นเดียวกัน โดยมิจฉาชีพนำภาพจากเฟซบุ๊ก นำไปปลอมเป็นเฟซตัวเอง เพื่อขอยืมเงินจากลูกน้อง หลังมีลูกน้องโอนเงินไป ทำให้ตำรวจหญิงทราบเรื่อง จึงติดตามไปจับ พบ น.ส.ณัฐธยาน์ อายุ 25 ปี มีสมุดบัญชีธนาคารถึง 11 เล่ม และกำลังปลอมเป็นผู้อื่นร่วมกับพรรคหลอกลวงเหยื่ออยู่ มีผู้ตกเป็นเหยื่อหลายรายสูญเสียเงนรวมแล้ว 4 แสนบาท และมีหมายจับอีกหลายหมายในหลายท้องที่



มิจฉาชีพที่หันกลับมาหลอกเหยื่อรายย่อยทางออนไลน์ จะหลอกมูลค่าความเสียหายไม่มาก แต่กระจัดกระจายเป็นวงกว้างไปทั่วประเทศ สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว และจับได้ยาก



โดยล่าสุดตำรวจสืบสวนนครบาล จับ น.ส.ดวงอรทัย หรือหมูป้า อายุ 20 ปี มิจฉาชีพออนไลน์ตัวฉกรรจ์ ทั้งแฮ็กเฟซบุ๊ก หลอกลงทุน หลอกขายของออนไลน์ มีบัญชีกว่า 10 บัญชี มีเงินหมุนเวียนนับกว่าล้านบาท ก่อเหตุมานับครั้งไม่ถ้วน มีชื่อในแบล็กลิสต์ seller แต่มีผู้แจ้งความจับ 3 หมาย ในหลายจังหวัด แต่เจ้าตัวยังปฏิเสธ อ้างเป็นเพียงบัญชีม้า