"ครูยุ่น" พบพนักงานสอบสวน สภ.อัมพวา หลังถูกออกหมายเรียก คดีทำร้ายเด็กและใช้แรงงานเด็ก

"ครูยุ่น" พบพนักงานสอบสวน สภ.อัมพวา หลังถูกออกหมายเรียก คดีทำร้ายเด็กและใช้แรงงานเด็ก



จากกรณีเด็กในมูลนิธิคุ้มครองเด็ก จ.สมุทรสงคราม ออกมาร้องเรียนว่าถูก นายมนตรี หรือ ครูยุ่น ผู้ดูแลมูลนิธิ ที่เด็กๆเรียกว่าพ่อ ถูกทำร้ายร่างกาย และนำไปทำงานที่รีสอร์ตหญิงคนสนิท  

หลังจากเมื่อวาน (2 พ.ย.) พม.และตำรวจเข้าตรวจสอบที่มูลนิธิ และนำตัวเด็กที่สมัครใจออกจากมูลนิธิไปอยู่ในความคุ้มครองของ พม.



ล่าสุด เช้าวันนี้(3 พ.ย.) ครูยุ่น พร้อมด้วย กลุ่มอดีต สว. และนายแก้วสรร อดีต สว.ซึ่งเป็นประธานมูลนิธิ เดินทางมาที่มูลนิธิ และพูดคุยกัน ก่อนที่จะพาครูยุ่นไปพบพนักงานสอบสวน สภ.อัมพวา

โดยครูยุ่นบอกว่าตำรวจออกหมายเรียก ก็จะไปพบ ผู้สื่อข่าวถามว่า ตร.แจ้งข้อหารุนแรงไปหรือไม่ ครูยุ่นตอบว่า ไม่เป็นไรทุกคนทำตามหน้าที่

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์พูดคุยกับ นายศิริศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เกี่ยวกับกรณีร้องเรียนมูลนิธิว่า จังหวัดมอบให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด และทีมสหวิชาชีพ พูดคุยกับนักเรียนที่ถูกทำร้าย จำนวน 8 คน ซึ่งเด็กทั้ง 8 คนตอนนี้อยู่ในความดูแลของ พม.แล้ว



ส่วนเด็กในมูลนิธิคนอื่น พม.ได้มีการนำตัวไปดูแลแล้ว จึงเหลือเด็กอีก 24 คนที่สมัครใจอยู่ในมูลนิธิต่อ ซึ่งอายุเด็กน้อยที่สุดคือ 2 ขวบและมากสุด 16 ปี



ตอนนี้จังหวัดอยู่ระหว่างพิจารณา หลักฐานต่างพร้อมเสนอคณะกรรมการจังหวัดพิจารณา หากพบว่ามีความผิดจริงตามที่มีผู้ร้องเรียน ผู้ว่าราชการจังหวัดก็มีอำนาจที่จะสั่งเพิกถอนใบอนุญาตมูลนิธิดังกล่าวได้



ล่าสุดทีมข่าวติดต่อไปยังมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ของครูยุ่น ซึ่งได้พูดคุยสอบถามกับเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯ โดยเจ้าหน้าที่ บอกว่า ตอนนี้ ครูยุ่นกำลังเตรียมเอกสารเพื่อนำไปแสดงกับตำรวจ เนื่องจากตำรวจมีหมายเรียกขอตรวจสอบเอกสารการก่อตั้งมูลนิธิฯ และ เอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้อง

โดยในช่วงบ่าย วันนี้ทางครูยุ่น และเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ จะแถลงข่าวทีเดียวพร้อมกับทนายความและนายแก้วสรร ประธานมูลนิธิฯ ชี้แจงและตอบทุกประเด็น ตอนนี้ยังไม่สามารถให้รายละเอียดอะไรได้ ซึ่งสภาพจิตใจของครูยุ่นตอนนี้ยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้



ส่วนเหตุการณ์เมื่อวานที่เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พร้อมกับตำรวจนำตัวเด็กๆออกไปบางส่วน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็กวัยรุ่นชายหญิง อายุ 16-18 ปี ที่อยากออกไปจากมูลนิธิฯ แต่เด็กเล็กๆ ส่วนใหญ่ไม่อยากไป และยังอยากอยู่ที่มูลนิธิฯต่อ ซึ่งประเด็นนี้ทางมูลนิธิพร้อมต่อสู้เพื่อเด็กอย่างเต็มที่และยืนยันที่ผ่านมาทำเพื่อเด็กมาโดยตลอด