อาชญากรรม

พ่อเลี้ยงโต้! ทำร้ายโหดเด็ก 14 อ้างเด็กเคยรักษาป่วยจิตเวช ชอบกุเรื่อง-ทำร้ายตัวเอง ถ้าพ่อแท้ๆ อยากเลี้ยงก็ยินดี

โดย petchpawee_k

13 ก.พ. 2567

94 views

พ่อเลี้ยงโต้! ไม่ได้ทำร้ายร่างกายลูกเลี้ยง เด็กกุเรื่อง เผย เคยรักษาจากอาการป่วยจิตเวชชอบทำร้ายตัวเอง หนีออกจากบ้านมีพฤติกรรมเกเรก้าวร้าว เลี้ยงไม่ไหวแล้ว หากพ่อแท้ ๆ อยากเอาลูกกลับไปเลี้ยงก็ยินดี ด้านพ่อแท้ๆ จูงมือลูกเข้าแจ้งความ ตร.สอบปากคำทั้ง 2 ฝ่าย พิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง ลั่น!ความจริงมีหนึ่งเดียว


กรณีพ่อเลี้ยงโหดทำร้ายลูกเลี้ยงวัย 14 ใช้ไฟแช็กลนที่อวัยวะเพศ ใช้เท้า-มือดีดเตะที่อวัยวะเพศ หนังยางดีดดวงตา ใส่กุญแจมือซ้อมเตะต่อยจนกระดูกใบหน้าร้าว ใช้ไม้กอล์ฟทุบตี ใช้สายไฟฟาด บุหรี่จี้ตามร่างกายบังคับให้กินอุจจาระแมว-หมา ใช้น้ำมันราดที่มือจุดไฟเผา บังคับให้กินฉี่พ่อเลี้ยง-ฉี่ตัวเอง ให้เสพยาบ้า บอกให้เด็กฆ่าพ่อแท้ๆ ซึ่งระหว่างที่เด็กรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล พ่อแท้ๆ ได้สอบถามถึงพฤติกรรมของพ่อเลี้ยง และถ่ายคลิปขณะลูกชายเล่าเหตุการณ์ไว้เป็นหลักฐาน


คืบหน้าวานนี้ (12 ก.พ.) เวลา 10.00 น. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ ‘กัน จอมพลัง’ พาเด็กชายวัย 14 ปี และพ่อแท้ๆ พร้อมเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรปราการ เดินทางไปที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เข้าพบ พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผู้กำกับการ สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อช่วยเหลือและแจ้งความดำเนินคดีกับพ่อเลี้ยงรายนี้ และทำการสอบปากคำเด็กโดยสหวิชาชีพ


โดยพ่อแท้ๆ ของเด็กชายวัย 14  ปี เล่าว่า ตนเองถูกภรรยาและสามีใหม่แจ้งความจับในคดีฉ้อโกงเมื่อเดือนกันยายน ปี 2562 ท้องที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ จากนั้นไม่มีใครดูแลลูก ถัดมา 2 เดือน ลูกชายของตนถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกายอย่างทารุณ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ พม.เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งน้องสารภาพกับเจ้าหน้าที่ พม.ว่า น้องทำร้ายตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวน้องกลับไปอยู่กับพ่อเลี้ยงและแม่เหมือนเดิมเมื่อช่วงเดือน มกราคม ปี 2566


จากนั้นเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566 ซึ่งเป็นวันที่ตนพ้นโทษออกมา จึงพยายามตามหาลูก กระทั่งไปพบลูกที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งลูกก็ไม่ทราบว่าตนเองออกมาจากคุก วันนั้นจึงกอดกันด้วยน้ำตาพร้อมกับเล่าให้ฟังว่า ลูกหนีออกมา โดยหวังจะไปขอความช่วยเหลือกับหลวงปู่ที่บวชเป็นพระสงฆ์แห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์


ซึ่งระหว่างทางได้มีการขอติดรถจากพลเมืองดีหลายคน เมื่อไปถึงที่วัดก็ได้เจอหลวงปู่ และหลวงปู่ได้ช่วยเหลือไว้ ทำให้มีโอกาสได้เจอกับลูกตนเอง โดยทันทีที่เห็นพบบาดแผลทั่วร่างกาย จึงสอบถามลูกว่าเกิดอะไรขึ้น ลูกชายก็อ้างว่าถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกายสารพัด นอกจากนี้พ่อเลี้ยงเคยยื่นข้อเสนอว่าถ้าอยากให้หยุด ต้องเอาฟัน 2 ซี่ มาแลก น้องจึงถอนฟันซี่ที่โยกอยู่ให้ไป แต่ปรากฏว่าวันต่อมายังโดนกระทำอีก


นอกจากนี้ตนยังเคยโทรศัพท์สอบถามพ่อเลี้ยงและภรรยาว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชาย ซึ่งทั้งสองคนก็อ้างว่าลูกชายทำร้ายตนเอง แต่ตนมองว่าคำกล่าวอ้างของทั้งสองคนนั้นขัดแย้งกับคำให้การของพยานแวดล้อมและคำให้การของเด็ก พร้อมยืนยันว่าจะดำเนินตามกฎหมายถึงที่สุดเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกชาย


ต่อมาครอบครัวของพ่อเลี้ยงเดินทางมาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ และโต้แย้งว่า ตนและครอบครัวไม่เคยทำร้ายร่างกายเด็กเลยสักครั้ง บาดแผลทั้งหมดที่เห็นตามร่างกายนั้นเกิดขึ้นมาจากที่น้องทำร้ายตัวเอง อีกทั้งน้องยังชอบหนีออกนอกบ้านอยู่บ่อยครั้ง บ้างครั้งไปแถวสีลม หัวลำโพง บางซื่อ และทุกครั้งตนจะเป็นผู้ไปตามหาน้อง และทุกครั้งที่ไปตามหาก็จะพบว่าน้องมีบาดแผลทั่วร่างกายทุกครั้ง ที่ผ่านมาตนเคยถาม น้องก็บอกว่าถูกขอทานเจ้าถิ่นทำร้ายร่างกาย เหตุผลที่หนีออกจากบ้านนั้น น้องอยากใช้ชีวิตอิสระ


ส่วนเรื่องที่ครอบครัวของตนเคยแจ้งความดำเนินคดีกับพ่อของน้องนั้น ยืนยันว่าเป็นความจริง ซึ่งเหตุการณ์วันนั้นขอชี้แจงว่า ทางครอบครัวได้มีการส่งภาพและข้อมูลให้พ่อแท้ๆ ของเด็กทราบว่าเด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าว โดยหวังจะขอคำปรึกษาให้ช่วยกันรักษาเด็ก แต่พ่อของเด็กกลับเอาข้อมูลดังกล่าวไปแจ้งทาง พม. พร้อมกับกล่าวหาว่าครอบครัวของตนทำร้ายร่างกายเด็ก ทำให้ตนเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพ่อเด็ก


ส่วนครั้งนี้ตนยืนยันว่าตนและครอบครัวเป็นผู้บริสุทธิ์และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมกับฝากบอกพ่อแท้ๆ ของเด็กว่า อยากให้ยอมรับความจริงว่าลูกของตนมีพฤติกรรมดังกล่าวแทนที่จะช่วยกันหาทางออกหรือพาไปรักษาให้อาการหายขาด แต่ถ้าหากพ่อแท้ๆ อยากจะเอาลูกกลับไปเลี้ยงเองก็ยินดีที่จะให้กลับไป เพราะตอนนี้ตนและครอบครัวไม่สามารถจะเลี้ยงไหวแล้ว เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว

ขณะที่แม่ของเด็กคนดังกล่าว ชี้แจงว่า ลูกชายเคยเข้ารับการรักษาจากอาการป่วยจิตเวชเมื่อตอนอายุ 5 ปี แต่ลูกชายมักจะปฏิเสธการกินยาอยู่บ่อยครั้ง ส่วนพฤติกรรมของลูกชายเวลาอยู่บ้านมักจะชอบเรียกร้องความสนใจตลอดเวลา ซึ่งมีครั้งนึงนั่งอยู่ดีๆ แล้วไม่มีคนที่บ้านคุยด้วยก็เอาศีรษะโขกกับพื้น


เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้วเคยมีพฤติกรรมอนาจารลูกสาวคนเล็ก และยังเคยมีพฤติกรรมรุนแรงด้วยการผลักน้องสาวให้รถชนอีกด้วย อีกทั้งที่ผ่านมา ครอบครัวเคยส่งลูกชายไปเรียนหนังสือแล้ว แต่น้องมีพฤติกรรมชอบทำร้ายร่างกายเพื่อนและเกเร หนีออกจากโรงเรียนอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ครอบครัวตัดสินใจให้น้องหยุดการศึกษา ทั้งนี้แม่ยังได้บอกอีกว่า พ่อของน้องเคยถูกดำเนินคดีฉ้อโกง และพรากผู้เยาว์อีกด้วย


นายตูน พลเมืองดีที่เคยให้การช่วยเหลือเด็กชายอายุ 14 ปี เล่าให้ฟังว่า ตนเคยช่วยเหลือเด็กคนนี้อยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งก็จะจับเด็กคนนี้มาอาบน้ำทำความสะอาด ซึ่งมีครั้งหนึ่งได้เห็นบาดแผลที่บริเวณอวัยวะเพศของน้องจึงได้ถามว่าไปโดนอะไรมา ซึ่งน้องให้การยอมรับว่าทำร้ายตนเองด้วยการเอาหนังยางรัดเพียงเพราะหวังว่าอยากให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และมีครั้งหนึ่งน้องเคยหยิบแผลที่ตกสะเก็ด เข้าปากเคี้ยวแล้วกลืนอีกด้วย รวมถึงจากการสอบถามทำให้ทราบว่าน้องมีพฤติกรรมชื่นชอบความรุนแรง

พ.ต.อ. นพดล ช่างเรือน ผู้กำกับการ สภ.เมืองสมุทรปราการ ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ทั้งผู้เสียหายพ่อและผู้ถูกกล่าวหา เบื้องต้นยังมีบางประเด็นที่ยังให้การไม่ตรงกัน สุดท้ายความจริงมีหนึ่งเดียว อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง โดยต้องรวบรวมข้อมูลจากทางบ้านพักเด็ก ซึ่งเด็กอาศัยอยู่สองที่คือบ้านในพื้นที่ อ.พระประแดง และบ้านราชาวดี ใครทำผิดก็ต้องได้รับโทษ


ด้าน ‘กัน จอมพลัง’ ระบุว่า ทางผู้กำกับการ สภ.เมืองสมุทรปราการ มีข้อมูลทั้งสองฝ่ายที่ให้ปากคำไว้แล้ว โดยได้ข้อมูลจากทางพ่อเลี้ยงและบ้านพักเด็ก ส่วนประเด็นที่พ่อเลี้ยงอ้างว่าเด็กทำร้ายตัวเอง ตนมองว่าจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากเด็กมีบาดแผลบริเวณท้ายทอยด้านหลังซึ่งยากต่อการทำร้ายตัวเอง


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/dkrsrBU-oO8

คุณอาจสนใจ

Related News