อาชญากรรม

หนุ่มเสพยา ปัดบังคับแฟนสาววัย 16 ตัดนิ้วพิสูจน์รักแท้ อ้างรักมาก คุมสติไม่อยู่เลยต้องทุบตี

โดย nattachat_c

26 ต.ค. 2565

121 views

หนุ่มเสพยาบ้าหึงหวงแฟนสาววัย 16 ลงมือทำร้าย หน้าปูดบวม ท้าฝ่ายหญิงใช้กรรไกรตัดนิ้วพิสูจน์รักแท้ นำนิ้วที่ขาดใส่ถุงแช่น้ำแข็งข้ามคืน น้ำแข็งละลายต่อกลับคืนไม่ได้ แฟนหนุ่มร้องไห้อ้าง เมา-เสพยาควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ทำไปเพราะรักมาก ไม่ได้บังคับให้ตัดนิ้ว ด้านแม่สาว 16  โต้ ลูกถูกบังคับตัดนิ้ว ถ้าไม่ทำจะให้ผูกคอตาย คบกันมา 8 เดือน ก่อเหตุทำร้ายลูกสาวหลายครั้ง


ที่ห้องเช่าไม่ทราบเลขที่ ม.2 ต.นราภิรมย์ อ.บางเลน จ.นครปฐม ซอยมุ่งหน้าตลาดน้ำลำพญานครปฐม หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเลน ได้รับแจ้งเมื่อวันที่ 24 ต.ค.ว่ามีเหตุสามี-ภรรยาทะเลาะกัน และฝ่ายหญิงโดนทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ


ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ พร้อมมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบหญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างจักรเย็บผ้า มีใบหน้าปูดบวม โดยเฉพาะที่บริเวณตาและแก้ม มีร่องรอยเขียวช้ำ ตรวจสอบพบว่านิ้วชี้ข้างขวา ได้ปิดด้วยพาสเตอร์ยา ส่วนที่นิ้วก้อยข้างขวา ถูกพันด้วยกระดาษทิชชูมีรอยคราบเลือดเป็นจำนวนมาก


จากการสอบถามหญิงผู้บาดเจ็บทราบชื่อ น.ส.กานต์สินี (สงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี เผยว่า คืนวันที่ 23 ต.ค.65 ที่ผ่านมา (คาบเกี่ยววันที่ 24 ต.ค.) ได้มีปากเสียงทะเลาะกับนายทองพลุ แฟนหนุ่ม อายุ 21 ปี ตนเองพยายามพูดอธิบายในเรื่องที่กำลังทะเลาะกันเรื่องหึงหวง แต่อธิบายเท่าไหร่แฟนหนุ่มก็ไม่เชื่อ ถามซ้ำไปมาว่าผ่านชายอื่นมาหรือไม่


ฝ่ายชายพูดว่าหากไม่มีเรื่องลักษณะดังกล่าว ให้พิสูจน์ความรักโดยการตัดนิ้วมือตัวเอง ตนเองจึงใช้กรรไกรตัดนิ้วก้อยข้างขวาของตัวเอง เพื่อพิสูจน์ให้แฟนหนุ่มเชื่อในสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริงไม่ได้โกหก จากนั้นจึงนำนิ้วที่ตัดขาดใส่ถุงและเอาน้ำแข็งแช่เอาไว้ข้ามคืน จนถึงวันที่ 24 ต.ค.65 และก็ได้เกิดมีทะเลาะกัน มีปากเสียงกันอีกรอบ โดยครั้งนี้แฟนหนุ่มลงไม้ลงมือ ชกต่อย ตบตีจนร่างกายและใบหน้ามีบาดแผล ปูดบวม


หลังจากนั้นก็มีคนโทรศัพท์แจ้งตำรวจ จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยหญิงผู้บาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่ได้ดูนิ้วที่หญิงคนดังกล่าว (ผู้บาดเจ็บ) แช่น้ำแข็งเอาไว้ ซึ่งเห็นว่าน้ำแข็งได้ละลายเป็นน้ำไปหมดแล้ว ทำให้เซลล์ตายไม่สามารถต่อนิ้วได้ มูลนิธิสุจศาลานุเคราะห์ จึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่เกิดเหตุ และนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลหลวงพ่อเปิ่น อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

ระหว่างที่ผู้บาดเจ็บขึ้นมาบนรถตู้กู้ภัย ได้มีชายตามขึ้นมาบนรถด้วย ซึ่งเป็นแฟนหนุ่ม ขึ้นมาเจรจากับผู้บาดเจ็บ ก่อนถูกนำตัวไป สภ.บางเลน จากนั้นผู้บาดเจ็บได้สนทนาทางโทรศัพท์คุยกับแม่และคุณยายซึ่งอยู่ลาดกระบัง กรุงเทพฯ ถามถึงอาการบาดเจ็บและมีเสียงร้องไห้ระหว่างคุยกับคุณแม่ผู้บาดเจ็บกล่าวว่า "แม่หนูโดนซ้อมอีกแล้ว"


แม่ของหญิงสาววัย 16 ปี เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ตอนนี้ลูกสาวกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านย่านลาดกระบัง กรุงเทพฯ ตามลำตัวยังมีรอยฟกช้ำดำเขียว หน้าบวม ขอบตาแดง ขณะที่นิ้วขาด 1 นิ้ว คือนิ้วก้อยขวาประมาณ 1 ข้อนิ้ว เบื้องต้นแพทย์วินิจฉัยว่ารอยฟกช้ำตามร่างกาย เกิดจากการถูกทุบตีทำร้าย ส่วนนิ้วที่ขาดถูกกรรไกรตัดผ้าตัดนิ้วและนิ้วไม่สามารถต่อได้ หลังจากนี้จะพบแพทย์ด้านกระดูกและรักษาตามขั้นตอน


คุณแม่ให้ข้อมูลว่า ลูกสาวคบหากับฝ่ายชายมาได้ประมาณ 8 เดือน และย้ายไปอยู่กับฝ่ายชายที่ห้องเช่าเกิดเหตุ ส่วนประเด็นที่มีการตัดนิ้ว สอบถามลูกสาวแล้ว ทราบว่าถูกฝ่ายชายบังคับให้ทำ ลูกสาวไม่ได้ตัดนิ้วมือเพื่อพิสูจน์รัก ถ้าไม่ตัดนิ้วมือก็ให้ไปผูกคอตาย หลังเกิดเหตุครอบครัวฝ่ายชายโทรมาพูดคุยขอไม่ให้แจ้งความ หลังจากนี้ก็จะดำเนินการตามกฎหมายถึงที่สุด


ตำรวจคุมตัวนายทองพลุ หรือโอ๋ แฟนหนุ่มที่ก่อเหตุ ออกจากห้องขังมาสอบปากคำ เผยกับทีมข่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองทะเลาะกับแฟนสาวเพราะชอบโกหก แอบแชตคุยกับแฟนเก่าในเฟซบุ๊ก ยอมรับตนห่วงแรงจึงลงมือทำร้ายร่างกายแฟนสาว ตนบอกกับแฟนสาวว่า “ถ้าโกหกจะอยู่ด้วยกันไปทำไม” มีปากเสียงทะเลาะกันเรื้อรังเรื่อยมาตั้งแต่เริ่มคบหากัน


ครั้งนี้ทะเลาะรุนแรง ตนเตะและชกต่อยที่ใบหน้าแฟนสาวนับ 10 ครั้ง นักข่าวถามว่าทำไมทำรุนแรงขนาดนั้น นายทองพลุ บอกว่า “ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองสงสัยรักเขามากเกินไปจึงลงมือทำ ยืนยันไม่ได้บังคับให้แฟนสาวตัดนิ้ว แฟนสาวบอกจะทำเพื่อพิสูจน์ว่ารัก ผมถามว่ามีวิธีอื่นไหมที่จะพิสูจน์ แต่แฟนสาวพูดว่า จะตัดนิ้วตัวเองเพื่อพิสูจน์ พอตัดนิ้วเสร็จแฟนสาวมาพูดกับตนว่านี่แหละได้พิสูจน์แล้ว ผมเห็นแล้วช็อค ผมยังไม่กล้าตัดนิ้วตัวเองเลย ผมจึงเชื่อว่าแฟนสาวไม่ได้โกหก”


นายทองพลุ ยอมรับ ก่อนลงมือทำร้ายร่างกายแฟนสาวได้เสพยาบ้า 2 เม็ด เสพเสร็จก็ลงมือก่อเหตุ ถ้าไม่เสพก็คงควบคุมอารมณ์ตัวเองอยู่ ส่วนจะบ้าเอามาจากเพื่อนแถวไทรน้อย ตนเองเสพยาบ้ามาตั้งแต่อายุ 14 ปี เคยหยุดเสพไปแล้วแต่กลับมาเสพอีกเพราะเครียดเรื่องแฟน


นักข่าวถามว่ายังรักแฟนสาวอยู่มั้ย? นายทองพลุ ร้องไห้ตอบว่า “ถ้าไม่รักผมไปทำขนาดนั้นหรอก ผมเจ็บใจไม่รักแล้วจะมาหลอกกันทำไม ผมเคยบอกไม่รักก็ให้จบกันแค่นี้แต่แฟนสาวไม่ยอม ผมรักเขาแต่เขาทำแบบนี้กับผม ที่ทำไปเพราะรักเขามาก ผมอยากกลับไปแก้ไขแต่มันคงไม่มีโอกาสแล้ว ต้องยอมรับความจริงที่ผมทำ”


นายทองพลุ กล่าวต่อว่า “ผมไม่น่าทำร้ายร่างกายแฟนสาวแต่ผมไม่มีโอกาสแก้ตัวแล้ว หมดโอกาสของผมแล้ว แต่ยังรักอยู่ ลืมไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา ที่ทำไปเพราะผมเมาและเล่นยา ผมควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ถ้าไม่เมาไม่เล่นยา ผมก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายแฟน ผมอยากขอโทษ อยากขอโอกาสอยากเลิกยาไม่อยากยุ่งกับมันอีกแล้ว มันทำให้ผมเสียทุกอย่างไป กว่าจะคิดได้มันสายไปแล้ว”


ขณะที่ตำรวจให้พ่อกับแม่ของนายทองพลุ (ผู้ต้องหา) นำกุญแจมาเปิดประตูห้องเช่าจุดเกิดเหตุ ซึ่งแม่ของผู้ต้องหาเปิดเป็นร้านเย็บผ้า เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าไปเก็บพยานหลักฐาน  นิ้วมื้อที่ฝ่ายหญิงตัดแล้วใส่ไว้ในแก้ว กรรไกรตัดผ้าที่ฝ่ายหญิงใช้ตัดนิ้วมือตัวเอง ซึ่งเสียบอยู่ที่จักรเย็บผ้า/ พร้อมทั้งนำตัวผู้ต้องหามาชี้จุดประกอบสำนวนคดี หลังชี้จุดเกิดเหตุเสร็จตำรวจได้คุมตัวขึ้นรถตู้ นายทองพลุ ร้องไห้ โดยพ่อของผู้ต้องหานั่งอยู่หน้าห้องเช่า มองดูลูกชายพูดว่า “เป็นลูกผู้ชายร้องไห้ทำไม”


แม่ของนายทองพลุ (ผู้ต้องหา) เผยว่า รักฝ่ายหญิงเหมือนลูก เห็นลูกชายทำร้ายลูกสะใภ้ตนยังไล่ให้มันไปตาย ตอนที่ลูกสะใภ้โดนลูกชายทำร้ายใช้กำปั้นตีใบหน้า ตนเองก็อยู่ในเหตุการณ์ จึงบอกว่า “มึงหยุดนะไอ้โอ๋ ถ้ามึงไม่หยุดกูจะไปแจ้งตำรวจ” จากนั้นตนล็อคประตูขังลูกชายไว้ในห้องเช่าไม่ให้หนีไปไหน จากนั้นก็แจ้งตำรวจมาระงับ เพราะกลัวลูกชายเอามีดหรืออาวุธมาทำร้ายลูกสะใภ้ ที่ผ่านมาทราบว่าลูกชายเสพยาเสพติด ทั้งคู่รักกันมาก ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายขนาดนี้  


ขณะที่พ่อของนายทองพลุ (ผู้ต้องหา) กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนอยู่ในห้องเช่าดังกล่าวด้วย ทั้งคู่มีปากเสียงกันประจำเพราะลูกชายถึงห่วงลูกสะใภ้ ทุกครั้งที่ทะเลาะกันก็จะพูดถึงแต่เรื่องเก่า ๆ บางครั้งเกิดเรื่องลูกสะใภ้ก็กลับไปหาครอบครัวที่ลาดกระบัง กรุงเทพฯ สุดท้ายก็กลับมาหาลูกชายของตนอีก ลูกสะใภ้นิสัยดีก็รักเหมือนลูก ยอมรับลูกชายยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เคยเตือนไม่ให้ไปยุ่งเพราะพ่อเกลียด ลูกชายบอกเลิกแล้วแต่ก็แอบไปเสพยาเสพติดอีก หากไม่มีเงินประกันตัวก็ปล่อยไปตามกระบวนการกฎหมาย


ด้าน พ.ต.อ.พงษกร พงศกร อุปพงษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า ทั้งคู่อยู่กินกันฉันสามีภรรยา อาศัยอยู่ด้วยกันประมาณปีกว่า ก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องทะเลาะกัน ซึ่งขนาดนั้นแม่ของเด็กหญิงวัย 16 ปี ได้มาเยี่ยมและพูดคุยกันตกลงกันได้ ฝ่ายหญิงจึงอยู่กินกับฝ่ายชายเรื่อยมา โดยฝ่ายชายทำงานรับจ้าง ส่วนฝ่ายหญิงไม่ได้ทำงานอะไร


สำหรับความรุนแรงที่เกิดขึ้นกรณีฝ่ายหญิงใช้กรรไกรตัดนิ้วมือตัวเอง โดยฝ่ายหญิงยอมรับว่าตัดนิ้วมือตัวเองจริง เพราะต้องการพิสูจน์ให้ฝ่ายชายทราบว่าสิ่งที่ตนเองพูดเป็นความจริงว่าไม่ได้กลับไปพูดคุยหรือคบหากับแฟนเก่า/ส่วนกรณีที่ฝ่ายชายลงมือทำร้าย ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำฝั่งผู้เสียหาย เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติม


ส่วนเรื่องยาเสพติดจะทำการขยายผล ขณะนี้ทราบว่านายทองพลุ (ผู้ต้องหา) รับยาเสพติดมาจากใคร จากการสอบสวนทราบว่าพักหลังฝ่ายชายเสพยาบ่อย สาเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากฝ่ายชายควบคุมอารมณ์ไม่ได้และเป็นคนขี้โมโห ชอบต่อสู้เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับเพื่อนร่วมงาน จากการตรวจสอบไม่พบประวัติต้องคดี


ประเด็นหญิงสาววัย 16 ปี โดนข่มขู่บังคับให้ตัดนิ้วมือหรือไม่  จากนี้จะสอบปากคำหญิงสาววัย 16 ร่วมกับสหวิชาชีพเพื่อทำการพิสูจน์ทราบ/ก่อนหน้านี้ฝ่ายหญิงเคยใช้กรรไกรตัดนิ้วมือตัวเองมาแล้วครั้งนึง เมื่อประมาณเดือนกันยายน 2565 แค่เป็นรอยเล็ก ๆ ไม่ถึงกับนิ้วขาด แต่ครั้งนี้ใช้กรรไกรตัดนิ้วมือตัวเองขาด


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายทองพลุ ไปตรวจร่างกายพบสารเสพติด จึงนำตัวส่ง สภ.บางเลน ดำเนินคดี 3 ข้อหา ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ,กระทำรุนแรงในครอบครัว ,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย
-----------
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/moTbdnUL2NY

คุณอาจสนใจ

Related News