แฟนส.ต.ท.หญิง ชี้จุดทำร้ายทหารรับใช้ที่คอนโด รับใช้ขาเก้าอี้ฟาด อ้างเพื่อสั่งสอน

น้องชายนักการเมืองชื่อดัง เข้ามอบตัวกับตำรวจ คดีทำร้ายร่างกายอดีตทหาร รับใช้สิบตำรวจโทหญิงแล้ว ยอมรับใช้ไม้ที่เป็นขาเก้าอี้ฟาดอีกฝ่ายจริง ถึงขั้นเลือดออก ด้านผู้กำกับ สภ.ชะอำ แจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนส่งศาลฝากขัง



วันนี้ นายคมสิทธิ์ จังพานิช น้องชายนักการเมืองท้องถิ่น อ.โพธาราม จ.ราชบุรี แฟน สิบตำรวจโทหญิง พร้อมทนายความ และคุณแม่ เดินทางมาที่ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำ หลังถูก น.ส.เอ อดีตทหารหญิง แจ้งความในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย และกักขังหน่วงเหนี่ยว เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา



โดยทันทีที่นายคมสิทธิ์ เดินทางมาถึง สื่อพยายามเข้าไปสอบถาม ซึ่งนายคมสิทธิ์ วันนี้พูดน้อยมาก บอกเพียงว่า เดินทางมากับทนายความ



ต่อมา นายคมสิทธิ์ ถูกพนักงานสอบสวน สอบปากคำประมาณ 3 ชั่วโมง และถูกคุมตัวลงมาพิมพ์ลายนิ้วมือ รับทราบข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเจ้าตัวให้การรับสารภาพว่าได้ลงมือทำร้ายนางสาวเอผู้เสียหายจริง



ขณะเดียวกัน น.ส เอ อดีตทหารหญิงผู้เสียหาย ได้เดินทางมาพร้อม นายพิพัฒน์ ลำจวน ทนายความ เพื่อทำเรื่องคัดค้านการประกันตัวของผู้ต้องหา ระหว่างนั้น ผู้เสียหาย บอกว่า หาก นายคมสิทธิ์ ได้รับประกันตัวออกไป ตัวเองกลัวจะไม่ได้รับความปลอดภัยทั้งตัวเอง และครอบครัว เพราะคู่กรณีเป็นน้องนักการเมืองท้องถิ่น



ทั้งนี้ น.ส.เอ ยังกล่าวถึงประเด็นที่นายคมสิทธิ์ บอกว่า ที่ตีทำร้ายเพราะรัก และเป็นการสั่งสอน ซึ่งตนเองอยากถามกลับว่า การกระทำที่บอกสั่งสอนมันเกินไปมั้ย



ขณะที่ นายคมสิทธิ์ หลังสอบปากคำ ต่อมาช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวไปตรวจค้นคอนโดฯ ชื่อดังกลางเมืองชะอำ เพื่อชี้จุดเกิดเหตุภายในห้องพัก ชั้นที่ 30 โดยให้สื่อรออยู่หน้าคอนโดฯ หลังตรวจค้นคอนโดฯ ประมาณ 1 ชั่วโมง นายคมสิทธิ์ได้เดินลงมา ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และไม่ยอมตอบคำถามใดๆ กับสื่อ ก่อนจะรีบเดินขึ้นรถ ไปพร้อมกับทนายความส่วนตัวทันที โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวพาไปส่งศาลจังหวัดเพชรบุรี ฝากขังตามกฎหมาย



ด้าน พ.ต.อ.วายุภักษ์ วงศ์ศักดิรินทร์ ผู้กำกับการ สภ.ชะอำ กล่าวว่า ได้แจ้งข้อหา "ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส" ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม ก่อนที่จะเรียกประชุมคณะทำงาน ในเรื่องคดีนี้เพิ่มเติม เพื่อการรวบรวมพยานหลักฐานในคดี พร้อมขอหมายค้นศาลจังหวัดเพชรบุรี เข้าตรวจสอบภายในห้องพักที่เกิดเหตุ



ซึ่งจากการตรวจสอบ พฐ.ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน พบคราบเลือดติดอยู่ภายในห้องจริง โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า ใช้ไม้ที่เป็นขาเก้าอี้ภายในห้อง ตีทำร้ายผู้เสียหายจริง แต่ได้ทิ้งไม้ของกลางไปแล้ว ส่วนเครื่องช็อตไฟฟ้า คาดว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ สิบตำรวจโทหญิง นำติดตัวกลับไปด้วย เนื่องจากผู้ต้องหาระบุว่า เครื่องช็อตไฟฟ้าดังกล่าว สิบตำรวจโท จะพกพาติดตัวอยู่ตลอดเวลา



กรณี ส.ต.ท.หญิง ยังมีประเด็น เรื่องที่มีรายชื่อไปช่วยราชการ "กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า" แต่ไม่ได้ปฏิบัติงานจริง ล่าสุด ผู้บัญชาทหารทหารบก ระบุว่าได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว ก็ย้ำ "หากมีข้อบกพร่อง ก็ต้องตรวจสอบแก้ไข ไม่มีใครสมบูรณ์ 100%"



พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ รอง ผอ.รมน. เปิดเผยกรณีการนำชื่อของ ส.ต.ท. หญิง ที่ทำร้ายร่างกายอดีตทหารหญิง ไปช่วยราชการ กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า แต่ไม่ได้ไปปฏิบัติงานจริง ว่า "หน่วยงานกำลังตั้งกรรมการตรวจสอบอยู่ ซึ่งตามระบบราชการ เวลาพบข้อบกพร่อง ก็ต้องตรวจสอบ และแก้ไข ไม่มีใครสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์



ผู้สื่อข่าวถาม ที่มีการแฉของกำลังพลจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ผ่านเพจออนไลน์ ว่าเป็นเหมือนกาฝากกองทัพ เบียดบังอัตราของกำลังพล ผู้บัญชาการทหารบก ระบุว่า ก็ต้องตรวจสอบ ว่า "อะไรเป็นอะไร หากไม่ถูกต้อง หรือมีข้อบกพร่องก็ต้องแก้ไข เพราะกำลังพลของกอ.รมน. มีหลายหมื่นคน"



ส่วนมีการขีดเส้นระยะเวลาการตรวจสอบหรือไม่ ก็ย้ำว่าเรื่องนี้ต้องเป็นไปตามระเบียบอยู่แล้ว

รับชมทางยูทูปที่ : https://youtu.be/NHLTPdEYuTE