ส่อโทษหนัก 'อั้งยี่ซ่องโจร' ศึกโรงน้ำแข็ง เรียกสอบกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมยิงถล่มกลางเมือง

ตำรวจระดม กำลัง 3 ฝ่าย เข้าค้นโรงงานน้ำแข็ง เหตุยิงถล่มกลางเมืองอยุธยา ด้านผู้จัดการยัน ไม่ได้แย่งลูกค้าแต่เกิดจากคนส่งน้ำแข็งทะเลาะกันเอง ตำรวจแจ้งข้อหา กำนันและผู้ใหญ่บ้าน หลังตรวจสอบแล้วไม่ใช่พลเมืองดีระงับเหตุ แต่คือคนร่วมก่อเหตุ

ความคืบหน้าเหตุการณ์ยิงถล่มกลางเมืองอยุธยา กว่า 20 นัด บริเวณหมู่ที่ 3 บนถนน วัดใหญ่ชัยมงคล-วัดพนัญเชิง ใกล้ทางกั้น รถไฟ ห่างจากวัดพนัญเชิง ราว 300 เมตร ซึ่งปมปัญหามาจากเรื่องของโรงงานน้ำแข็งอโยธยา และ โรงงานน้ำแข็งพันล้าน สองโรงน้ำแข็งรายใหญ่ ที่เกิดการแย่งลูกค้าทับเส้นทางกัน

โดยจากคลิป จะเห็นเหตุการณ์ว่า รถของโรงงานน้ำแข็งอโยธยา กับรถของโรงงานน้ำแข็งพันล้านชนกันอย่างจัง ก่อนที่จะมีรถของกำนัน/ผู้ใหญ่บ้านตามหลังรถของโรงงานน้ำแข็งมา มีคนลงพร้อมกับปืน

วานนี้ (9 ส.ค. 65) พ.ต.อ. เอกราช อุ่นเจริญเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประเวศ ผู้กำกับสภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา ข้าตรวจค้นโรงานน้ำเเข็ง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สำนักงานสาธารณะสุขอยุธยา เเละ อย. อุตสาหกรรมจังหวัด ทรัพยากรสิ่งเเวดล้อม ตรวจสอบมาตรฐาน ความสะอาด  ในการผลิตน้ำเเข็ง รวมถึงเรื่องเเรงงาน ทั้ง 2 โรงงาน

ผลการตรวจสอบ มีการขออนุญาติปฏิบัติตามกฎหมาย  ปฎิบัติถูกต้องเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย เช่นเดียวกับโรงงาน พันล้าน ที่เข้าตรวจสอบ พบว่าปฎิบัติตามมาตรฐาน เเม้ขณะนี้ จดทะเบียนกับอย. เเละอยู่ระหว่างขั้นตอนออกใบอนุญาต

ส่วนกระบวนการสอบสวน จนท. ดำเนินคดี ผู้ต้องหาทั้งหมดขณะนี้ ตำรวจ เเบ่งกำลังเร่งขยายผลผู้ครอบครองอาวุธปืนทั้งหมดตรวจ 19 จุด ใน จ.สิงห์บุรี จ.อยุธยา  

ยืนยันว่า นายพิษณุ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.เกาะเรียน และ นายไชยณรงค์ (กำนันปิง) กำนันตำบลเกาะเรียน ทั้งสองคน ขณะนี้ตกเป็นผู้ต้องหา ถูกดำเนิน 3 คดี คือ

1.พยายามฆ่า

2. ก่อความชุลมุนให้เกิดความต่อสู้

3. พกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน ทางสาธารณะไม่มีเหตุอันควร

ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ได้ระบุถึงความคืบหน้าในคดีศึกโรงน้ำแข็งว่า ได้ทำการสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์และเห็นเหตุการณ์ไปแล้วจำนวนกว่า 10 ปาก

ผู้ต้องทั้งหมด 13 คน แบ่งเป็น ...

• ฝ่ายของโรงน้ำแข็งพันล้าน 8 คน
• ฝ่ายของโรงงานน้ำแข็งอโยธยา 2 คน
• ฝ่ายกำนันจำนวน 3 คน

ฝ่ายของโรงงานน้ำแข็งอโยธยา 2 คน คือ

1. นายสหภาพ คนขับรถ

2. นายวิไล คนที่นั่งมาด้วยกัน (ถูกยิงที่แขนขวา 1 นัด)

ฝ่ายของโรงน้ำแข็งพันล้าน 8 คน คือ

1. นายปรัชญา คนขับรถแฮมเมอร์

2. นายสหชาติ

3. นายนพรัตนื

4. นายผดุง (นั่งในรถแฮมเมอร์)

5. นายเกียรติยศ คนขับกระบะโตโยต้า

6. นายเดชณรงค์

7. นายศักดิ์ชัย

8. นายแสง

ฝ่ายกำนัน จำนวน 3 คน คือ 

1. นายไชยณรงค์ (กำนันปิง)

2. นายพิษณุ (ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3) ยิงนายสหชาติ

3. นายธีระ (ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2)

โดยตำรวจบอกว่า ฝ่ายกำนัน ไม่ได้เป็นผู้ระงับเหตุ แต่เป็นผู้ก่อเหตุ

--------------

กำนัน ไชยณรงค์ (กำนันปิง) กล่าวว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงงานน้ำเเข็งอโยธยา มีเเค่ญาติ พี่น้อง ทำงาน ไปตรวจสอบได้เลย วันเกิดเหตุ เข้าไประงับเหตุ ขอยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงงานน้ำเเข็งอโยธยา

ขณะที่นางสาวปุ้ย ผู้ดูแลโรงงานน้ำเเข็งอโยธยา ยืนยันว่า กำนันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงงานแห่งนี้ ขณะที่ภรรยาของทางกำนันก็ไม่ใช่ผู้จัดการ 

ส่วนการเเย่งลูกค้ากันนั้น ยืนยันว่า ทางโรงงานมีลูกค้ามาก จนบางวันกำลังผลิตไม่เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องเเย่งลูกค้ากับใคร การที่สองฝ่ายทะเลาะกันเพราะปมแย่งลูกค้าไม่ใช่ แต่เป็นการทะเลาะของคนส่งน้ำแข็ง ส่วนกรณีที่โรงงานน้ำแข็งพันล้าน ไปเเย่งพื้นที่วางถังน้ำเเข็ง ยืนยันว่าไม่ทราบเรื่องนี้ เพราะลูกน้องไม่เคยมาเเจ้ง
-------------

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 กล่าวว่า กรณีโรงน้ำแข็ง 2 แห่ง ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อเหตุใช้อาวุธปืนไล่ยิงกัน สาเหตุมาจากเรื่องส่งน้ำแข็งทับเส้นทางกัน

โดย โรงน้ำแข็งอโยธยา ซึ่งขายน้ำแข็งในเขต อ.พระนครศรีอยุธยา และ โรงน้ำแข็งพันล้าน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.อุทัย โดยโรงน้ำแข็งพันล้านได้มาวิ่งขายน้ำแข็งใน อ.พระนครศรีอยุธยา

ซึ่งหากตรวจสอบพบความผิดเกี่ยวกับอั้งยี่ซ่องโจร จะมีการดำเนินการตรวจสอบอายัดยึดทรัพย์ ทั้งนี้ หากพบว่ามีการกระทำความผิดหรือมีบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายเพิ่มเติมต่อไป เพื่อให้ประชาชนชาว จ.พระนครศรีอยุธยามั่นใจว่าจะกลุ่มแก๊งที่พกพาอาวุธปืนเช่นนี้จะไม่มีอีกต่อไป
-------------

กลุ่มลูกค้าน้ำแข็งย่านตลาดวัดคานหาม อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้โพสต์วิจารณ์พฤติกรรมการขยายตลาดของโรงน้ำแข็งพันล้าน ว่ามีลักษณะพฤติกรรมคล้ายๆ กับโรงน้ำแข็งอโยธยาใช้ขยายตลาดช่วงเปิดโรงน้ำแข็งใหม่ๆ เมื่อหลายปีก่อน และพอมาถึงตอนนี้โรงน้ำแข็งพันล้านเพิ่งจะเปิดทำการขยายตลาด ก็ใช้วิธีกลยุทธคล้ายกัน แต่ตอนที่โรงน้ำแข็งอโยธยาขยายตลาดทับเส้นทางคู่แข็งที่เป็นนักธุรกิจมากกว่าใช้วิธีรุนแรงเหตุการณ์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและคุยพื้นที่กันได้

กลุ่มแม่ค้าน้ำแข็งย่านวัดคานหาม ถนนจอมพล ป. หลายร้านก็จะได้รับข้อเสนอจากโรงน้ำแข็งพันล้านพร้อมให้นามบัตรไว้ติดต่อกลับ ซึ่งนามบัตรนอกเหนือจะระบุหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อสั่งน้ำแข็งทัวไปแล้ว ในนามบัตรเขียนระบุชื่อผู้ติดต่อตัวหนังสือใหญ่พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ ระบุตำแหน่งหน้าที่การงานว่า เป็นคณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไว้อย่างเด่นชัด

เชื่อว่าเหตุที่โรงน้ำแข็งทั้งสองโรงเปิดศึกกันแบบไม่เกรงกลัวกฏหมายน่าจะเป็นเพiาะมีกลุ่มนักการเมืองเป็นด้ามให้แต่ละฝ่าย จึงเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น 
---------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/LP9naebffJM