พฐ.พบหลักฐาน เพลิงไหม้โกดังสารเคมีเถื่อน คนร้ายลอบวางระเบิดปิงปอง จุดธูปกำหนดเวลาบึ้ม

อยุธยาผงะ! ผู้การ พฐ. ภาค 1 ลงพื้นที่เก็บหลักฐานระเบิดเพลิงลอบเผาโกดัง 18 จุด เจอสารเคมีพิษถึงขนาดต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ เคราะห์ดีไม่ทำงาน พบคนร้ายวางแผนกันมาอย่างดี ระดมทีมไล่กล้องตามจับมือวางระเบิดเพลิง

ความคืบหน้าคดีลอบวางเพลิงโกดังเก็บกากสารเคมีเถื่อน ริมถนนสายภาชี-หินกอง  ตรงข้ามสำนักงานเทศบาลตำบลภาชี  อ.ภาชี   จ.พระนครศรีอยุธยา  ซึ่งเป็นโกดังที่บริษัทรับจ้างกำจัดสารเคมีและบริษัที่เป็นนอมินี นำกากสารเคมีอันตรายและวัสดุอุตสาหกรรมอันตรายมาซุกซ่อนเก็บไว้ ไม่ต่ำกว่า 4,000 ตัน  ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวบ้านร้องเรียน และเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางได้เข้าตรวจสอบ พร้อมยึดของกลางในโกดังไว้  กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องอัยการ แต่ปรากฎว่า มีการลักลอบวางเพลิงเผาทำลายหลักฐาน เมื่อค่ำวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้ 2  ใน 5 โกดัง ถูกเผาเสียหาย

เมื่อวานนี้ (4 มี.ค.67) พล.ต.ท.ไตรรงค์  ผิวพรรณ  ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานไปตรวจพบว่า คนร้ายวางระเบิดปิงปองหรือระเบิดเพลิง กระจายไว้รอบโกดัง และจุดธูปเป็นตัวกำหนดเวลาระเบิด  ให้เกิดประกายไฟไปติดกับขวดพลาสติกที่บรรจุน้ำมันไว้ก้นขวด

จากการตรวจสอบ ชั้นแรก พบว่าในโกดังที่ 1 และ 2  คนร้ายวางระเบิดปิงปองหรือระเบิดเพลิงไว้หลายจุด  ส่วนในโกดังที่ 3 พบระเบิดเพลิงถูกวางไว้ 9 จุด ซุกตามมุมกระจายทั่วโกดัง เพื่อหวังจะเผาทำลายหลักฐาน  แต่ปรากฎว่าระเบิดไม่ทำงาน จึงรอดพ้นไม่ถูกเพลิงไหม้  ซึ่งหากระเบิดเพลิงทำงาน คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในอำเภอภาชีทั้งอำเภอ  จะต้องสูดดมสารระเหยอันตรายประเภทกรด ที่หากสูดดมเข้าไปแล้วจะถูกดูดซึมเข้าระบบเลือด  ถึงขนาดที่อาจจะต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติอพยพคนหนีเลยทีเดียว

ส่วนโกดังที่ 4 และ 5  ยังตรวจเข้าไปไม่ถึง  เนื่องจากภายในมีสารเคมีกากพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก  และอยู่ลึก สภาพภายในเป็นพื้นที่ปิด มีกลิ่นฉุนรุนแรง อาจจะเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่  จึงต้องสั่งยกเลิกการตรวจสอบก่อน และให้ทางอำเภอกับเทศบาล วางกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาพื้นที่ไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย

พลตำรวจโทไตรรงค์ บอกว่า จากการตรวจสอบโกดังทั้งหมด พบว่า พฤติกรรมของคนร้ายไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนประชาชนส่วนใหญ่  เพราะคนร้ายไม่ได้วางระเบิดเพลิงไว้ในโกดังเพียงอย่างเดียว แต่ยังวางระเบิดเพลิงไว้หลายจุดรอบโกดังด้วย  

นอกจากนี้ยังพบว่าบริเวณป่ารกร้างด้านหลังโกดัง ที่คนร้ายใช้เป็นช่องทางแอบลักลอบเข้ามาก่อเหตุ พบถังพาสติกขนาด 20 ลิตร จำนวน 2 ใบ มีปูนแห้งติดอยู่  คาดว่าคนร้ายใช้เป็นจุดผสมปูน เพื่อหล่อก้นขวดพลาสติกบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อป้องกันขวดล้ม  ส่วนวัตถุประสงค์ของคนร้าย  คือตั้งใจเผาทำลายหลักฐานเพื่อประโยชน์ทางคดี  แต่รายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้นต้องติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้เสียก่อน  แต่ทราบว่าของกลางทั้งหมด ได้ตรวจสอบเก็บหลักฐานบันทึกภาพถ่ายรูปไว้ทั้งหมดแล้ว

นอกจากนี้ยังพบว่า มีวัตถุพยานสำคัญที่จะสามารถเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุได้  โดยอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญในห้องปฏิบัติการ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจจะเร่งดำเนินการทั้งในส่วนของการรายงานผลการตรวจสถานที่เกิดเหตุ การรายงานผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อสนับสนุนงานสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุต่อไป

ด้านพลตำรวจตรีโชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการตำรวจภธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนทั้งของจังหวัดและโรงพักภาชี ตั้งทีมไล่กล้องวงจรปิด เพื่อติดตามคนร้ายที่แอบลักลอบเข้ามาวางระเบิดเพลิงทำลายของกลางครั้งนี้   คาดว่าจะติดตามตัวกลุ่มคนร้ายได้ไม่ยาก  และขณะนี้ตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสแล้วว่า เป็นกลุ่มไหน

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/jDuN53i6JZU