อาชญากรรม
ตำรวจ คุม 7 รุ่นพี่โหดทำแผน ณ จุดเกิดเหตุ
โดย attayuth_b
17 มี.ค. 2565
33 views
นำตัวกลุ่มรุ่นพี่ทำแผนชี้จุดรับน้องโหด ก่อนปล่อยตัวกลับบ้าน ชี้ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี เตรียมแจ้งอีกหลายข้อหาเพิ่ม ขณะที่ทางมหาวิทยาลัยก็เตรียมพิจารณาบทลงโทษกับกลุ่มรุ่นพี่ด้วยเช่นกัน
จากกรณี นายพัสยศ ชลภักดี หรือน้องเปรม อายุ 19 ปี เป็นนักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 1 สาขาช่างกลโรงงาน วิทยาลัยนวัตกรรมวิชาชีพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เสียชีวิตจากการถูกกลุ่มรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายในกิจกรรมรับน้องใหม่ที่แอบจัดนอกสถานที่ เมื่อกลางดึกของวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา เบื้องต้นตำรวจได้สอบปากคำกลุ่มรุ่นพี่ที่ก่อเหตุ และได้แจ้งข้อกล่าวหากับกลุ่มรุ่นพี่ 7 คน ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย โดยทั้ง 7 คนได้ให้รับทราบข้อกล่าวหา และพนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวไป เนื่องจากไม่มีพฤติการณ์หลบหนี
ล่าสุดวันนี้ (17 มีนาคม 2565) พนักงานสอบสวน สภ.มะเริง อำเภอเมืองนครราชสีมา ได้นำตัว 7 รุ่นพี่รับน้องโหด เดินทางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ บริเวณไร่อ้อยโล่งเตียน บ้านโคกมะกอก หมู่ 14 ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยขณะทำแผนรุ่นพี่ 6 คน ยอมรับผลัดกันใช้หมัดชกที่หน้าอก และหน้าท้องของน้องเปรมคนละ 1 หมัด ส่วนรุ่นพี่อีก 1 คน สั่งให้น้องเปรมคลานปลาหมอ (เอาร่างกายไถไปกับพื้นดิน) เป็นเหตุให้น้องเปรมหมดสติ ชักเกร็ง และเสียชีวิตขณะพาตัวส่งโรงพยาบาล โดยใช้เวลาในการทำแผนประมาณ 10 นาที ก่อนที่ผู้ปกครองจะมารับตัวกลุ่มรุ่นพี่กลับบ้านไป โดยไม่มีการควบคุมตัวเนื่องจากไม่มีพฤติการณ์หลบหนี
พันตำรวจเอก คณัสนันท์ สุวรรณทรัพย์ ผู้กำกับการ สภ.มะเริง เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำกลุ่มรุ่นพี่ ปวส.ปีที่ 2 และกลุ่มรุ่นน้อง ปวส.ปีที่ 1 ครบหมดทุกคนแล้ว เหลือเพียงการสอบปากคำอาจารย์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยอีกเพียงไม่กี่ปากเท่านั้น โดยพนักงานสอบสวนกำลังรอผลตรวจชันสูตรจากสถาบันนิติวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ และรวบรวมหลักฐานมาประกอบเพื่อสรุปสำนวนคดี
เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับกลุ่มรุ่นพี่ 7 คนที่รับสารภาพว่า เป็นคนใช้หมัดชกเข้าที่หน้าท้องของน้องเปรมเสียชีวิต ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย มีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 290 บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษตั้งแต่ 3-15 ปี และขณะนี้ได้เตรียมแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายเพิ่มเติมกับรุ่นพี่ทั้ง 7 คน ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากมีรุ่นน้องอีก 2 คน ได้รับบาดเจ็บจากการกระทำรับน้องของกลุ่มรุ่นพี่ดังกล่าว และข้อหาทำให้ขายหน้าต่อธารกำนัล กรณีสั่งให้รุ่นน้องถอดเสื้อผ้าเปลือยกายล่อนจ้อน ขณะทำกิจกรรมรับน้อง นอกจากนี้ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับกลุ่มรุ่นพี่ทั้งหมดที่เข้าร่วมกิจกรรมรับน้อง ในฐานความผิดกระทำการฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 อีกด้วย
ขณะที่ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้เตรียมเรียกประชุมคณะกรรมการสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุรพจน์ วัชโรภากุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวน เพื่อพิจารณาขั้นตอนบทลงโทษนักศึกษารุ่นพี่ที่รับน้องเสียชีวิต โดยจะพิจารณาลงโทษตามระดับความผิดของรุ่นพี่แต่ละคน ซึ่งมีโทษตั้งแต่ตัดคะแนนความประพฤติ พักการเรียน ให้ออก และโทษสูงสุดคือไล่ออก โดยคาดว่าจะสรุปผลแล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์
นายศรัณย์ อ่องพิมาย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 14 บ้านโคกมะกอก และเป็นเจ้าของไร่อ้อยจุดที่จัดกิจกรรมรับน้อง เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุช่วงค่ำ ๆ พบเห็นกลุ่มนักศึกษาจำนวนมากนั่งรถกระบะอัดแน่น ผ่านเข้ามาในพื้นที่ แต่ไม่ทราบว่าไปทำอะไรกัน จนกระทั่งทราบข่าวว่ามีการไปรับน้องในไร่อ้อยพื้นที่ของตน จนถึงแก่ความตาย โดยกิจกรรมรับน้องไม่ได้มีการขออนุญาตใช้พื้นที่แต่อย่างใด รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กำลังปรึกษากับญาติว่าอาจจะต้องแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มรุ่นพี่ข้อหาบุกรุกใช้สถานที่ โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างกับคนอื่นต่อไป
แท็กที่เกี่ยวข้อง รุ่นพี่ ,รับน้องโหด