ตำรวจ 100 นาย บุกล้างบางแก๊งรุ่นพี่รับน้องโหด ค้นในสถาบันเจอเพียงมีดยาวขึ้นสนิม 1 เล่ม

ตำรวจนนทบุรี รวมกำลังพลกว่า 100 นาย เปิดปฏิบัติการตรวจค้น สถาบันรับรุ่นน้องโหด พบมีดยาวเก่า ๆ  1 เล่ม ไม่พบอาวุธอื่น

กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี นำโดย พลตำรวจตรี ปรารถนา แผ่นผา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี รวมกำลังพลทั้งชุดสืบสวน หน่วยปฏิบัติการพิเศษ และสายตรวจกว่า 100 นาย เข้าบุกค้น ภายในมหาวิทยาเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ

ขณะเดียวกัน นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม กัน จอมพลัง และผู้เสียหาย ก็เดินทางเข้าตรวจสอบพร้อมชี้จุดต่างให้กับเจ้าหน้าที่เช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบ บรรยากาศบริเวณหน้ามหาวิทยาลัย ยังมีนักศึกษาเดินทางเข้าเรียนปกติ แต่มีการตรวจบัตรนักศึกษาและอาวุธบริเวณป้อมยามทางเข้ามหาลัยอย่างละเอียด

ด้าน กัน จอมพลัง กล่าวว่า การปฏิบัติการครั้งนี้ ตนได้ประสานผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี จัดกำลัง 100 คน เพื่อเข้าตรวจค้นอาวุธ ในรั้วมหาวิทยาลัย พร้อมกับให้เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าการที่รุ่นพี่ก่อเหตุสร้างความวุ่นวายในรั้วสถาบัน สถาบันก็ได้รับผลกระทบไปด้วย

พันตำรวจเอก จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผู้กำกับการ สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยว่า จากการตรวจค้นอาวุธ ปรากฎว่าพบมีดยาวมีลักษณะเก่า อยู่บริเวณหลังมหาวิทยาลัย 1 เล่ม แต่ไม่พบอาวุธอื่นๆ แต่อย่างใด

แต่ที่มีการตรวจค้นก่อนหน้านี้ กลับพบอาวุธมากกว่านี้ ซึ่งการกระทำในวันนี้เป็นการป้องปราม สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครองและนักเรียน รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการทำความร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตรวจค้นอาวุธ รวมถึงเรื่องพฤติกรรมของเด็กทุกคน

ขณะที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พัชระ กัญจนกาญจน์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ กล่าวถึงกรณีที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ทางมหาวิทยาลัย ไม่อนุญาติให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปในพื้นที่นั้น ความจริงแล้วทางมหาวิทยาลัยไม่ได้มีการห้ามทีมข่าวเข้าพื้นที่ แต่เป็นการสื่อสารกันคลาดเคลื่อน เพราะทางมหาวิทยาลัย เกรงกลัวว่าจะมีกลุ่มคนแอบแฝง แอบอ้างเข้ามาด้วย จึงต้องใช้เวลาตรวจสอบ ยืนยันว่าไม่ได้มีการปิดบังหรือกีดกันทีมข่าว

พร้อมยืนยันว่า บุคลากรในมหาวิทยาลัยไม่ได้มีการสนับสนุนให้มีกิจกรรมรับน้องโหด ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้มีการห้ามปรามในกิจกรรมดังกล่าว รวมถึงมีกฎระเบียบกติกาของทางมหาวิทยาลัย หากพบว่ามีการจัดกิจกรรมหรือมีพฤติกรรมดังกล่าว จะมีการไล่ออกทันที เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับของมหาวิทยาลัย

นอกจากนี้ ทางสถาบันยอมรับว่าอาจจะไม่สามารถดูแลนักศึกษาได้อย่างทั่วถึง เพราะเท่าที่ทราบมา มีคนนอกร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วย พร้อมยืนยันว่า นักศึกษาก่อเหตุทั้ง 7 คน และยังคงมีสถานะเป็นนักศึกษาอยู่

ส่วนในเรื่องของการพกอาวุธเข้าไปในห้องเรียนตามกระแสข่าวที่ปรากฎ เบื้องต้น ทางมหาวิทยาลัยยังไม่เคยพบว่ามีการพกอาวุธเข้ามาภายในมหาวิทยาลัย

ส่วนกรณีที่นักศึกษามีการอ้างถึงประเพณีวัฒนธรรมในการรับน้องในยุคสมัยอดีตนั้น ทางคณบดี มองว่ายุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว แนวคิดแบบนั้นควรที่จะยกเลิกไปได้แล้ว

https://youtu.be/CXNqMtH86MY