ไล่ออกแล้ว! 4 รุ่นพี่รับน้องโหด ค้นห้องพบกัญชา-อุปกรณ์เสพ วงจรปิดชัด รวมกลุ่มรุ่นน้องก่อนพาขึ้นห้อง

บุกทลายรัง! “หนึ่งในกลุ่มรุ่นพี่รับน้องโหด” กระทืบคามหาวิทยาลัย พบกัญชา-ดอกกัญชาพร้อมอุปกรณ์การเสพ วงจรปิดหน้าตึกที่พัก จับภาพรวมกลุ่มรุ่นน้อง พาขึ้นห้องชุดละ 10 คน  มทร.สุวรรณภูมิ เผย ไล่รุ่นพี่ออกแล้ว 4 คน หลังตั้งคณะกรรมการสอบพบ มี 8 นักศึกษาเกี่ยวข้อง  ไม่เคยทราบตั้งองค์กรเถื่อน ตำรวจประสานให้มอบตัวแจ้งข้อกล่าวหา  

ความคืบหน้ากรณี นายโต้งและนางสาวก้อย พ่อแม่ของน้องไตเติ้ล อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดัง จังหวัดนนทบุรี  เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มรุ่นพี่ที่รับน้องโหด รุมซ้อมและจุดไฟเผาอวัยวะเพศ จนได้รับบาดเจ็บ เมื่อพ่อแม่พาไปคุยกับอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเพื่อแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นและจะขอย้ายที่เรียน  แต่กลับถูกกลุ่มรุ่นพี่รุมทำร้ายกลางมหาวิทยาลัย  ส่วนน้องไตเติ้ลที่นอนรักษาตัวที่ รพ. ก็ต้องหนีออกจาก รพ.ไปขอความช่วยเหลือจากกัน จอมพลัง เพราะถูกกลุ่มรุ่นพี่ตามมาขู่ทำร้ายอีก จนกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย

วานนี้ (19 ส.ค.) ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง พร้อมชุดสืบสวน  ไปตรวจสอบสถานที่ที่ใช้ทำกิจกรรมรับน้องและทำร้ายน้องไตเติ้ล คือ ในห้องพักบนชั้น 5  อาคาร 25 บ้านเอื้ออาทรราชพฤกษ์ หมู่ที่ 4  ต.บางกร่าง  อ.เมือง  จ.นนทบุรี  ภายในห้องดังกล่าว พบ น.ส.เนตรฤดี อายุ 29 ปี แสดงตนว่าเป็นผู้เช่าห้อง  ตำรวจจึงแจ้งวัตถุประสงค์ในการขอตรวจค้น น.ส.เนตรฤดี จึงยินยอมและนำตำรวจเข้าไปตรวจค้นได้โดยไม่ต้องมีหมายค้นจากศาลจังหวัดนนทบุรี  

ผลการตรวจค้นในห้องดังกล่าว พบ  ขวดสุรา 40 ดีกรี จำนวน 1 ขวด กัญญชาแห้ง จำนวน 3 กระปุก   ดอกกัญชา น้ำหนักรวม 114 กรัม และอุปกรณ์การเสพ   โดย น.ส.เนตรฤดี ให้การว่า สุราและกัญชา เป็นของนายสิทธิพงศ์ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ วิทยาเขตนนทบุรี  ซึ่งเป็นแฟนของตน  และไม่ทราบว่า แฟนพารุ่นน้องมารับน้องที่ภายในห้องนี้ เนื่องจากตนเองทำงานที่บริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง แถวบางกรวย และเลิกงานในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ของทุกวัน   จนกระทั่งทราบข่าวจากสื่อ ว่าห้องพักของตน ถูกใช้เป็นสถานที่รับน้อง เมื่อตำรวจมาขอตรวจค้น ตนก็ยอมให้ตรวจค้นด้วยความสมัครใจ หลังตรวจค้นเสร็จแล้ว ตำรวจก็เชิญตัว น.ส.เนตรฤดี ไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.บางศรีเมือง  

ขณะที่ทีมข่าวตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด วันที่  7 สิงหาคม 2567  เวลา 16.39 น. จะเห็นว่ามีกลุ่มนักศึกษา นับ 10 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดบริเวณหน้าอาคาร จากนั้นมารวมตัวกันที่บริเวณทางเข้าของอาคาร  โดยมีชายเสื้อแดง ผมยาว ที่คาดว่าจะเป็นรุ่นพี่  เป็นคนเดินนำรุ่นน้อง  มายืนเรียงกัน   ก่อนที่รุ่นพี่เสื้อแดงจะเดินไปนั่งตรงแท่นปูน และในคลิปยังเห็นมีรุ่นพี่อีก 2 คน คือ คนสวมเสื้อแจ๊คเก็ตสีดำยืนคุยโทรศัพท์มือถือ กับคนใส่แจ็คเก็ตสีน้ำเงินผมยาว   ก่อนที่รุ่นพี่จะสั่งรุ่นน้องมานั่งรอที่แท่นปูนทางขึ้นอาคาร

16.45 น.รุ่นพี่แจ็คเก็ตสีน้ำเงิน พารุ่นน้องขึ้นไปบนอาคาร 3 คน คาดว่าไปทำพิธีรับน้องระบบโหด  โดยมีรุ่นน้องอีก 4 คน นั่งรออยู่ที่แท่นปูน  

16.49 น. นักศึกษารุ่นน้องที่เหลืออีก 4 คน ถูกรุ่นพี่พาขึ้นไปบนอาคาร

18.17 น.  มีนักศึกษารุ่นน้องขี่รถจักรยานยนต์มานั่งรอที่จุดเดียวกันเพิ่มเติมอีก 7 คน  ก่อนที่รุ่นพี่เสื้อ

แจ็คเก็ตสีน้ำเงิน  จะเดินลงมาจากอาคาร บอกน้องๆ ให้เตรียมตัวขึ้นไปรับน้อง โดยระหว่างนั้น มีรุ่นน้องที่ขึ้นไปรับน้องก่อนหน้านี้  4 คน เดินลงจากอาคาร มาไหว้รุ่นพี่ แล้วพากันออกจากอาคารไป

18.31 น.  รุ่นพี่แจ็คเก็ตเสื้อสีน้ำเงินพารุ่นน้อง 3 คน ขึ้นไปบนอาคาร เพื่อไปเข้าระบบรับน้อง โดยระหว่างนั้นจะมีรุ่นน้องที่รับน้องเสร็จแล้ว ทยอยเดินลงจากอาคารมา ยกมือไหว้รุ่นพี่ที่นั่งอยู่  จะเห็นว่ามีการพารุ่นน้องสลับสับเปลี่ยนมารับน้องหลายคน

สอดคล้องกับคำบอกเล่าของหนึ่งในชาวบ้าน เล่าว่า เคยเจอกลุ่มเด็กช่างเข้ามาที่อาคาร 25  โดยมากันเป็นกลุ่มใหญ่  แบ่งมาเป็นชุด  ชุดละประมาณ 10 คน  พากันขึ้นไปที่ชั้น 5 และเมื่อชุดแรกลงมาแล้ว ก็จะพาชุดที่สองขึ้นไปแทน ซึ่งชาวบ้านก็ไม่รู้ว่า ขึ้นไปทำอะไรกัน

พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า จากสอบสวนผู้เสียหาย สามารถยืนยันตัวผู้กระทำความผิดได้แล้ว  โดยคดีแต่ละพื้นที่จะแยกออกจากกัน  มีผู้ต้องหาไม่เท่ากัน แต่ผู้ต้องหาส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเดียวกัน ซึ่งมีทั้งผู้ต้องหาที่เป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย  บางคนพ้นสภาพออกไปแล้ว  โดยขณะนี้มีผู้ก่อเหตุที่ชัดเจนจำนวน 4 คน  กระทำความผิดในพื้นที่ สภ.เมืองนนทบุรี อยู่ระหว่างประสานให้เข้ามอบตัว  เบื้องต้นข้อกล่าวหาที่ทางตำรวจตั้งไว้คือทำร้ายร่างกาย ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน  เพื่อยืนยันว่าแต่ละคนกระทำความผิดในข้อหาใดบ้าง เพื่อให้แจ้งข้อหาได้ถูกต้อง

ขณะเดียวกัน วานนี้ ( 19 ส.ค.) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พานักศึกษา มทร.สุวรรณภุมิ วิทยาเขตนนทบุรี ที่ถูกรุ่นพี่ทำร้ายพร้อมกับครอบครัว เดินทางไปที่สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.)  เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับรุ่นพี่ พร้อมกับเรียกร้องให้ตรวจสอบองค์กรเถื่อนที่ซ่อนอยู่ในมหาวิทยาลัย ที่ฝึกและสอนรุ่นน้องแบบผิด ๆ เช่น ให้ฆ่าคน ให้ต่อยอาจารย์ ให้ดูดกัญชา  โดยอ้างว่าเป็นกิจกรรมรับน้อง  

ด้านน้องไตเติ้ล นักศึกษาที่ถูกรุ่นพี่ทำร้าย เล่าว่า  ตนถูกรุ่นพี่ทำร้าย 2 ช่วง  คือวันที่ 13 ส.ค.เวลาประมาณ 15.00 น. ที่โรงอาหาร มีรุ่นพี่ 2 -3 คน  กล่าวหาว่าตนขายสถาบัน  พร้อมกับดึงคิ้วและลากไปชกต่อยทำร้าย ครั้งที่ 2 ในวันที่ 15 ส.ค. ถูกทำร้ายในมหาวิทยาลัยพร้อมกับพ่อ  กลุ่มที่ทำร้าย ยึดเอาบัตรประชาชนของตนไปด้วย  หลังจากนี้ตนต้องการย้ายสถานที่เรียนไปสถาบันอื่น

น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.กระทรวง อว. เผยว่า จะดูแลนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบอย่างดีที่สุด  ทั้งเรื่องการเยียวยาและประสานกับสถาบันการศึกษาที่ผู้เสียหายต้องการไปเรียนต่อ ทางกระทรวง อว.ขอให้ มทร.สุวรรณภูมิ  ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด พยานหลักฐานและรายงานผลการสอบสวนมาถึงกระทรวง อว.ภายใน 2 วัน คือ ไม่เกินวันที่ 21 ส.ค.นี้ ถ้าพบว่ามีการไปทำร้ายรุ่นน้องจริง  ให้ไล่ออกและดำเนินคดี

ส่วนการรับน้องที่เป็นเหตุนำไปสู่การทำร้ายนักศึกษารุ่นน้อง เมื่อวันที่ 13 และ 15 ส.ค.  มีนักศึกษาเข้าร่วมประมาณ 40 -50 คน ให้ มทร.สุวรรณภูมิ ตรวจสอบว่า มีรุ่นพี่กี่คนและมีบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมด้วยหรือไม่ และถ้าตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ทำตามกฎของมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่ทำผิดจะต้องถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยและให้ มทร.สุวรรณภูมิ ไปตรวจสอบองค์กรเถื่อนที่นำนักศึกษาไปฝึกและมีคำสอนผิด ๆ ให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ส.ค.นี้

ด้าน ผศ.พัชระ กัญจนกาญจน์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มทร.สุวรรณภูมิ  เปิดเผยผลการสอบสวนกรณีการทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ว่า จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในมหาวิทยาลัย  มีนักศึกษาผู้ก่อเหตุและอยู่ในเหตุการณ์ จำนวน 8 ราย  โดย 4 ราย  ลงมือทำร้ายผู้เสียหายและผู้ปกครองจริง  โดยเป็นนักศึกษาสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล 2 ราย นักศึกษาสาขาวิศวกรรมเครื่องมือและแม่พิมพ์ 1 รายและนักศึกษาวิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม 1 ราย ทั้ง 4 ราย ให้ไล่ออกจากมหาวิทยาลัยทันทีตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา พร้อมดำเนินคดี

ส่วนอีก 4 ราย เป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ แต่จากภาพไม่ปรากฏว่าเข้าไปทำร้ายผู้เสียหาย   เป็นนักศึกษาวิศวกรรมไฟฟ้า 2 ราย นักศึกษาสาขาวิศวกรรมเครื่องมือและแม่พิมพ์ 1 ราย และนักศึกษาวิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม 1 ราย   มหาวิทยาลัยจะสอบสวนเพื่อขยายผลในเรื่องการทำกิจกรรมนอกมหาวิทยาลัย ถ้าพบว่ามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมดังกล่าว จะลงโทษทางวินัยหรือไล่ออกทันที

นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง  เปิดเผยว่า  ในเรื่องคดีความทางผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ทั้งหมด 3 ที่ คือ สภ.เมืองนนทบุรี  สภ.บางศรีเมือง และ สภ.บางบัวทอง   วานนี้ (19 ส.ค.) ได้พูดคุยกันในฝั่งของสถานศึกษาและกระทรวง อว. กำชับให้ไปดำเนินคดีกับทุกคน เพื่อเป็นบรรทัดฐาน ว่าหลังจากนี้ใครก่อให้ลักษณะนี้จะถูกดำเนินคดีซ้ำด้วย  ไม่ใช่เพียงแค่ไล่ออก

ทั้งนี้ ตนได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องขององค์กรเถื่อนที่มีมาอย่างยาวนาน พร้อมกับถามทางสถาบันว่าทราบเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งทางสถาบันระบุว่า เพิ่งทราบว่ามีเหตุลักษณะนี้ แต่จากข้อมูลพบว่าขบวนการนี้แฝงอยู่ภายในองค์กรนี้มานานกว่า 12-13 ปี ตนจึงได้ถามว่าหลังจากนี้เมื่อทราบแล้วจะดำเนินการอย่างไร ทางมหาวิทยาลัยได้บอกวิธีป้องกันมา ตนจึงขออวยพรให้สำเร็จ  เนื่องจากหากมีมาตรการออกมาแล้วไม่สามารถปกป้องโรงเรียนหรือนักเรียนได้  สังคมจะมองไม่ดี

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/uDxRycuEnxw