สังคม

มอบตัวแล้ว 4 โจ๋รุ่นพี่รับน้องโหด อ้างถูกยั่วยุก่อน ทนายแฉคลิปเสียง ตร.เรียกเงินแลกเคลียร์คดี

โดย petchpawee_k

21 ส.ค. 2567

460 views

มอบตัวแล้ว 4 โจ๋ รุ่นพี่รับน้องโหด ฟากทนายความโจ๋ เปิดคลิปเสียง อ้าง รอง ผกก.สภ.บางศรีเมือง เรียกรับผลประโยชน์ จ่ายเงินแล้วจบคดี เปิดคลิปเสียงรุ่นพี่ โทรหาแม่คนเจ็บ เล่าข้อดีการรับน้อง บอก เวลาไม่มีเงินกินข้าวก็มาขอได้  ส่วนที่สอนให้มาเช้าเพราะชีวิตการทำงานจริงต้องตื่นเช้า  อ้าง “ไตเติ้ล” เอาเรื่องเพื่อนไปขายให้คู่อริ ลั่น ทำแบบนี้ตายได้เลย ขณะที่แม่ ระบุ ไม่อยากให้ลูกเรียนที่แบบนี้เลย ด้านรุ่นพี่สวนมันมีทั้งข้อดีและเสีย อยู่ที่มุมมอง  

กรณีนายโต้ง และ น.ส.ก้อย พ่อแม่ของ "น้องไตเติ้ล" อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านจังหวัดนนทบุรี เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี  เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ ที่รับน้องโหด จนน้องไตเติ้ลได้รับบาดเจ็บ  และในวันที่พ่อกับแม่พาน้องไตเติ้ลไปพบอาจารย์เพื่อย้ายไปเรียนที่อื่นและออกจากระบบรับน้อง ทำให้กลุ่มรุ่นพี่ไม่พอใจ ยกพวกมารุมกระทืบน้องไตเติ้ลกับคุณพ่อกลางมหาวิทยาลัย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส  หลังก่อเหตุกลุ่มรุ่นพี่หลบหนีไป และทางมหาวิทยาลัยยืนยันว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุที่ลงมือทำร้ายร่างกาย มี 4 คน เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย  


ความคืบหน้าเมื่อวานนี้  (20 ส.ค.67) เวลา 13.00 น. นายมงคล หรือบอล อายุ 21 ปี  นายรัตนสรร หรือซอ อายุ 19 ปี  นายสิทธิพงศ์ หรือเพชร อายุ 22 ปี นายภูชิต หรือโอม อายุ 23 ปี พร้อมด้วย นายณธัชพงศ์ บุญเกิด หรือ ทนายกบ เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน โดยเจ้าหน้าที่สอบปากคำประมาณ 1 ชม. ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น  นำตัวไปพิมพ์ลายนิ้วมือ  และอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตามสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา เพราะแสดงความบริสุทธิ์ใจขอมอบตัวและไม่มีพฤติการณ์หลบหนี โดยจะนัดมาเข้าพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งในวันที่ 2 ก.ย.67 นี้


ทนายกบ กล่าวว่า ตนได้พาน้องผู้ก่อเหตุทั้ง 4 ราย เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา  โดยทุกคนแสดงความบริสุทธิ์ใจและรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง มีทั้งหมด 4 คนเท่านั้น ส่วนสื่อโซเชียลที่ออกไป ว่ารุมกระทืบ 20 คนไม่เป็นความจริง


ตนยังได้สอบถาม ข้อเท็จจริงกับน้องผู้ก่อเหตุ ถึงสาเหตุที่ไปทำร้ายร่างกาย  ที่จริงแล้วเกิดจากการยั่วยุ ยั่วโมโห ท้าทาย โดยฝ่ายรุ่นน้องที่บาดเจ็บ  โพสต์สตอรีรูปสวมรองเท้าสีแดง พร้อมพิมพ์ข้อความยั่วยุ   เนื่องจากทางมหาวิทยาลัย มีกฎห้ามนักศึกษาใส่รองเท้าสีแดงและสีน้ำเงิน เพื่อป้องกันปัญหาการทะเลาะวิวาท  แต่รุ่นน้องกลับโพสต์ภาพดังกล่าว เหมือนยั่วยุ  และคุณพ่อของรุ่นน้อง ก็โทรมาท้าทายกลุ่มรุ่นพี่หลายสายตลอดทั้งวัน  


ส่วนประเด็นเรื่องรับน้อง  ตนได้ทราบมาว่าการรับน้องนั้นมีมาตั้งนานแล้ว เป็นประเพณีที่ทำมาหลายรุ่นมาแล้ว ซึ่งจะเป็นลักษณะของสังคมเด็กช่าง ข้อดีก็จะมีในเรื่องของรุ่นพี่มีการดูแลน้องให้เงินกินข้าว  หากน้องมาจากต่างจังหวัดก็จะให้ที่พักอยู่อาศัย  รวมถึงให้เสื้อผ้าเสื้อช็อปเรียน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งประเด็นเรื่องรับน้องทางด้านคุณแม่น้องได้รับทราบทุกอย่างแล้ว  โดยมีคลิปเสียงที่น้องๆ รุ่นพี่บันทึกเอาไว้  ซึ่งตนก็ได้ฟังแล้ว  โดยน้องได้อธิบายข้อดี ข้อเสียของการรับน้องให้คุณแม่ฟัง  คุณแม่น้องเติ้ลก็ขอบคุณรุ่นพี่ที่คอยช่วยเหลืออีกด้วย  แต่คงเป็นเกิดความเข้าใจผิด  เนื่องจากพ่อและแม่ของน้องเติ้ลไม่ได้อยู่ด้วยกัน  คาดว่าทางพ่อนั้นไม่ได้รู้ข้อมูลการรับน้อง  จึงได้โทรท้าทายกับน้องนักศึกษา    

ทีมข่าวได้คลิปเสียงที่รุนพี่โทรศัพท์ไปคุยกับแม่ของไตเติ้ล ถึงข้อดีของการรับน้อง จากคลิปจะได้ยิน รุ่นพี่รายนี้บอกว่า “ถ้าไตเติ้ลออกระบบของพวกตนไป จากนี้ไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว ไม่ว่าจะเดือดร้อนอะไร ไม่เกี่ยวกันแล้ว ก็จะไปเป็นแบบนักศึกษาทั่วไป   แต่หากอยู่แบบเดิม เวลาไม่มีเงินกินข้าวก็มาขอกินได้   ไม่มีชุดมาเปลี่ยนก็มาขอได้ มันทำรุ่นต่อรุ่นมา”


รุ่นพี่ ยังอธิบายกับแม่ด้วยว่า “ทำไมถึงให้มาโรงเรียนเช้า ทำไมไม่ให้มาสาย เพราะในชีวิตจริงการทำงานต้องไปทำงานเช้า หากไปสายเขาหักตังค์ มันพูดยากครับ มันขึ้นอยู่กับตัวของไตเติ้ล  ทั้งหมดนี้แล้วแต่คนมอง มันมีทั้งดีและไม่ดี”


ซึ่งแม่ของไตเติ้ล บอกว่า ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ไตเติ้ลมาบอกแม่เช่นกัน   แต่ล่าสุดแม่เพิ่งมาเค้นถามปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งรุ่นพี่บอกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นคือไตเติ้ลไปนั่งกับฝั่งอริ เอาเรื่องของคนในกลุ่มไปขาย ซึ่งการที่ทำแบบนี้สามารถตายได้เลย


ช่วงนี้ แม่ของเติ้ล ถามว่า ที่บอกว่าสามารถตายได้เลยคืออะไร รุ่นพี่อธิบายว่า มันเคยมีนักศึกษาอุเทนฯ มายิงนักศึกษาที่นี่ตาย เพราะเพื่อนเอาเรื่องเพื่อนตัวเองไปขาย เช่น บ้านอยู่ตรงไหน กลับบ้านเวลานั้น เวลานี้ จนอริรู้ความเคลื่อนไหว


จากนั้นแม่บอกกับรุ่นพี่ว่า เดี๋ยวแม่จะไปถามเติ้ลว่าสิ่งที่รุ่นพี่พูดมาจริงมั้ย ทั้งเรื่องน้ำกระท่อม รวมทั้งเวลาไปไหนมาไหนทำไมต้องมีรุ่นพี่ไปคุม ซึ่งรุ่นพี่บอกว่า ที่ไปคุมเวลาไปเรียน เพราะว่าเพื่อนของเติ้ลเพิ่งถูกรุมกระทืบมา 20 ต่อ 3


ช่วงท้ายแม่บอกว่า ไม่อยากให้เรียนที่แบบนี้เลย  รุ่นพี่ก็พยายามบอกว่า มันมีทั้งข้อดี ข้อเสีย  มาเรียนแบบนี้ไม่ใช่ไม่ดี มันอยู่ที่ตัวเราจะหลีกเลี่ยงกันหรือเปล่า

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ทางแฟนของนายสิทธิพงศ์ หรือ เพชร หนึ่งในผู้ต้องหา ที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมืองไปตรวจค้นห้องก่อนหน้านี้   ทนายความ บอกว่า  มีสื่อนำเสนอข่าว เอาภาพน้องผู้หญิงไปลง ทำให้เขาได้รับความเสียหาย ทำให้ถูกไล่ออกจากงาน เหมือนเป็นผู้กระทำความผิด และตนยังมีคลิปเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง  ที่อ้างตัวว่าเป็น “รอง ผกก. สุรศักดิ์”  โทรมาเรียกรับผลประโยชน์


ผู้สื่อข่าวตรวจสอบคลิปดังกล่าว มีเสียงชายที่อ้างตัวเป็น รอง ผกก. สภ.บางศรีเมือง  ตั้งใจจะโทรหานายเพชร แต่แฟนสาวเป็นคนรับ  ชายที่อ้างเป็น รอง ผกก. จึงพูดกับแฟนสาวของนายเพชรเพื่อให้ไปสื่อสารต่อ  เป็นการพูดคุยลักษณะจะช่วยเคลียร์ให้คดีจบไม่ต้องมาติดคุก โดยบอกว่าเดี๋ยวจะเคลียร์ข่าว แก้ข่าวให้ และพูดว่า “เสียตังค์เรื่องมันก็จบ” จากนั้นชายที่อ้างเป็น รอง ผกก. ก็พยายามขอเบอร์ครอบครัวของนายเพชร เพื่อจะโทรไปหา  แต่แฟนสาวของนายเพชร บอกว่าเดี๋ยวจะพยายามติดต่อให้ แล้วจะโทรกลับไป


สำหรับประเด็นคลิปเสียงอ้างเป็นรอง ผกก. สภ.บางศรีเมือง เรียกรับผลประโยชน์นั้น ทีมข่าวตรวจสอบแล้วพบว่า สภ.ดังกล่าว ไม่มี รอง ผกก. หรือตำรวจชื่อ “สุรศักดิ์” แต่เบื้องต้น ตร.สภ.บางศรีเมืองได้เบอร์คนที่โทรมาแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบประเด็นนี้


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/FWe9rGxXCtY


คุณอาจสนใจ