'ปอ-โรเบิร์ต' ขอปิดวาจา เดินธุดงค์ - กินข้าวในป่าช้า อุทิศบุญให้ 'แตงโม' เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ยันไม่ได้ข้ามไปฝั่งเมียนมา

ปอ - โรเบิร์ต เปิดใจหลังบวชพราหมณ์ ขออุทิศบุญกุศลให้แตงโม เชื่อเพื่อนได้รับ แม้ไม่ได้นับถือพุทธ ตั้งใจถือศีลและเพียรภาวนา ของดให้สัมภาษณ์สื่อ ด้านเจ้าอาวาส วัดท่าไม้ ยืนยัน บวชพราหมณ์ ให้ทั้งคู่ทำได้ตามกฎหมาย หวังใช้ธรรมะช่วยขัดเกลาและหาความจริงทางคดี

เมื่อวานนี้ (16 มี.ค.) ตั้งแต่เวลา 08.00น. นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ และ นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต ได้เข้าพิธีบวชโยคีพราหมณ์ หรือ บวชเนกขัมมะ ที่ธรรมสถานวิโมกสิวาลัย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นสถานปฏิบัติธรรมอีกแห่งหนึ่งของวัดท่าไม้ โดยพระญาณวิกรม หรือ พระอาจารย์อุเทน สิริสาโร เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ จ.สมุทรสาคร เป็นผู้จัดพิธีให้ โดยที่ไม่มีสื่อมวลชนไปร่วมสังเกตการณ์ เนื่องจากไม่มีการแจ้งว่าเปลี่ยนสถานที่จัดพิธี

หลังจากนั้น ช่วงค่ำ เวลาประมาณ 20.30 น. (16 มี.ค.) ปอและโรเบิร์ต จึงอัดคลิปเปิดใจเป็นครั้งแรกหลังบวชพราหมณ์ โดยทั้งคู่สวมชุดปฏิบัติธรรม สีกรัก โกนศีรษะและคิ้ว ยืนในอาการสำรวม

โรเบิร์ต กล่าวว่า มาถือศีลภาวนา และขอปิดวาจา จึงจะของดให้สัมภาษณ์ในช่วงนี้ / ส่วนปอ บอกว่า วัตถุประสงค์ที่ต้องการมาบวช เพื่อบำเพ็ญภาวนา เดินธุดงค์ สร้างบุญกุศลและขอให้บุญไปถึงแตงโม แม้ว่าแตงโมจะไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ แต่ก็เชื่อว่า บุญจะถึงแตงโม และขอให้ทุกคนร่วมอนุโมทนาบุญครั้งนี้ด้วย

สำหรับกิจที่ทั้งสอง ต้องปฏิบัติระหว่างบวชพราหมณ์ คือ ถือศีล 8 เป็นเวลา 15 วัน / ทานข้าวมื้อเดียวและทานที่ป่าช้า / ไม่ใส่รองเท้า / นอนถ้ำ - บนก้อนหิน -ผูกกลดนอน / ใส่เสื้อผ้าชุดสีกรัก (แดงเข้มออกน้ำตาล) มี 2 ชุด / ห้ามแตะต้องเงิน-ไม่ใช้โทรศัพท์ / เดินธุดงค์ ในเส้นทางสวนผึ้งราชบุรี ขึ้นเขา -กาญจนบุรี โดยไม่ได้ข้ามไปฝั่งประเทศเมียนมา อย่างที่มีกระแสข่าว เพราะมีทหารตามแนวชายแดน คอยดูแลความสงบ


ขณะที่พระญาณวิกรม หรือ พระอาจารย์อุเทน สิริสาโร เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่ตัดสินใจบวชโยคีพราหมณ์ ให้กับปอและโรเบิร์ต เพราะเห็นเจตนาของทั้งคู่ ที่ต้องการบวชอุทิศให้โยมแตงโมอย่างแท้จริง และส่วนตัวของพระอาจารย์อุเทน มองว่า หากนำบุคคลทั้งสองเข้าสู่บวรแห่งพระพุทธศาสนา จะเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งที่จะดึงทั้งสองคนไม่ให้หลบลี้หนีไปไหน สามารถที่จะติดตามตัวได้ตลอด

ส่วนที่มีหลายฝ่ายมองว่า การให้ทั้งสองคนบวชในขณะนี้ ไม่ว่าบวชอะไรก็ไม่เหมาะสมนั้น พระอาจารย์อุเทนมองว่า การตัดสินใจครั้งนี้ แม้จะถูกสังคมต่อว่าหรือมองไม่ดี แต่พระอาจารย์ไม่เสียใจ เพราะเห็นว่า เป็นการเปิดโอกาสให้ทั้งคู่ได้เข้าใกล้ธรรมะ ใช้ธรรมะเป็นเครื่องกล่อมเกลาจิตใจ ให้เห็นถึงสัจธรรมและสำนึกผิด ยอมรับ ยอมเปิดเผยความจริงออกมา ว่ากระทำสิ่งใดลงไปบ้าง ส่งผลคลี่คลายคดีของโยมแตงโมได้ง่ายขึ้น ซึ่งพระอาจารย์อุเทน พร้อมจะช่วยไขความจริงในเรื่องนี้ด้วย

ส่วนที่เปลี่ยนสถานที่จากวัดท่าไม้ ไปบวชที่ธรรมสถานวิโมกสิวาลัย เนื่องจากพระอาจารย์อุเทน เห็นว่า มีความสงบอย่างที่ทั้งสองคนปราถนา เมื่อบวชแล้วก็จะออกธุดงค์ได้ทันที ส่วนการให้ปากคำนั้น หากตำรวจต้องการเรียกตัวเมื่อไหร่ ก็ประสานพระเลขาฯ ได้ทันที ซึ่งจะให้ทั้งสองคนลาศีล เพื่อมาให้ปากคำกับตำรวจ ก่อนจะกลับไปปฏิบัติธรรมต่อ จนครบกำหนดที่วางไว้ คือ 15 วัน หรืออาจจะมากกว่านั้น

พระอาจารย์อุเทน ยังบอกว่า การบวชของทั้งสองคนในครั้งนี้ ยังถือเป็นการให้ข้อคิดแก่สังคมด้วยว่า ศีล 5 เป็นเกราะป้องกันภัยต่างๆ ให้แก่มนุษย์เรา ดังนั้นหากเราตั้งมั่นอยู่ในศีล 5 ก็จะไม่มีเรื่องร้ายๆ ใดมาทำลายได้

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/42mN3AFiMes