รอง ผบช.ภ.1 พูดชัด แก๊งบนเรือแตงโม "มีคนโกหก" จ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม ยันไม่มี "พลตำรวจตรี น." ขายข้อมูลคดี

(7 มี.ค.) เมื่อช่วงบ่าย 2 โมงครึ่งที่ผ่านมา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งโต๊ะแถลงความคืบหน้านานกว่า 1 ชั่วโมง

พลตำรวจตรี อุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว 65 ปาก ทั้งพยานบุคคล พยานแวดล้อม ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังผลตรวจเนื้อเยื่อจากแผลที่ขาของแตงโม ซึ่งมีการส่งไปตรวจยังองค์กรที่ 2 นอกเหนือจากสถาบันนิติเวช

และในวันนี้ตำรวจยังได้ให้นายจ็อบพาไปตรวจค้นบ้านและมีการสอบเพิ่มเติม โดยเฉพาะเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ใช้ดื่มกันบนเรือในวันเกิดเหตุ ว่าเป็นชนิดใดบ้าง ปริมาณเท่าไหร่ เพราะเครื่องดื่มแต่ละชนิดก็จะให้ผลต่อผู้ดื่มที่แตกต่างกัน ซึ่งตำรวจจำเป็นต้องทราบข้อมูลตรงนี้ เพื่อเอามาวิเคราะห์พฤติกรรมของคนบนเรือว่า จะมีบริบทที่นำพาไปในทิศทางที่มากกว่าการเป็นอุบัติเหตุหรือไม่ ซึ่งตำรวจจะสรุปผลและแถลงข่าวเรื่องนี้ในวันพรุ่งนี้

ส่วนการสอบสวนทั้ง 5 คน ยิมรับว่ามี "คนโกหก" เพราะในการสอบแยกมีคนที่พูดไม่ตรงกัน แต่จะมีมากกว่า 1 คนหรือไม่นั้น ยังเปิดเผยไม่ได้ เพราะเป็นส่วนของสำคัญของคดี และมีแนวโน้มจะแจ้งข้อหากระทำการโดยประมาทฯ กับคนบนเรือเพิ่มอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่รวบรวมได้

พร้อมทั้งยืนยันว่า ไม่มีเรื่องการหลอกไปรับงานเอ็นฯ โดยมีพยานหลักฐานทางเทคนิคว่า 5 คนบนเรือ ติดต่อสื่อสารกับใครบ้าง พบว่ามีการแจ้งเพียงเรื่องแตงโมตกน้ำ แต่ไม่มีการพูดคุยไปในทิศทางของการรับงานหรือล่อลวงไปค้าประเวณีเลย

ส่วนประเด็นข้อสงสัยที่มีผู้เปิดเผยว่า มีนายพล อักษรย่อ น. เอาข้อมูลสำคัญในการสอบสวนไปขาย ขอเอาเกียรติของตำรวจยืนยันว่า ไม่มีใครเอาข้อมูลไปเปิดเผย และด้วยเกียรติของตำรวจ จะไม่มีใครมาชักจูงได้

ส่วนกรณีที่ครอบครัวของแตงโม ต้องการจะให้แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ เข้ามาร่วมชันสูตรศพ สามารถทำได้ แต่บุคคลนั้นต้องเป็นหน่วยงาน องค์กร หรือบุคคล ที่มีทั้งอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมาย หากกระบวนการในชั้นกรรมาธิการในสภาจะมาร่วมในคดีนี้ ก็มีหน้าที่ในการเรียกไปชี้แจงเท่านั้น ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการสอบสวน

ส่วนแซน วิศาพัช จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ตอบรับนัดหมายวันเวลาในการเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม บอกเพียงว่ายืนยันจะเข้ามา ซึ่งหากบ่ายเบี่ยงไม่ยอมเข้ามา ตำรวจจะออกหมายเรียกเพื่อให้เข้ามาสอบปากคำ เพิ่ม

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/xl9PGLDU0XM